ตามครบ 3 โจ๋ แหกสถานพินิจเสนอเพิ่มโทษ

 

 

1 ตุลาคม 2562 นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวถึงกรณีเยาวชน จำนวน 3 คน ก่อเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายเจ้าหน้าที่ผู้คุมได้รับบาดเจ็บและหลบหนีไปเมื่อค่ำวันที่ 30 ก.ย. 

 

 

โดยบอกว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากผอ.สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนว่า เยาวชน 3 ราย อายุ 16-17 ปี เป็นผู้ต้องหาในคดีครอบครองอาวุธปืนและคดียาเสพติด ก่อเหตุชกต่อยทะเลาะวิวาท โดยใช้แปรงสีฟันเป็นอาวุธ และทำร้ายเจ้าพนักงานขณะเข้าระงับเหตุก่อนหลบหนีไป

 

ซึ่งหลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามตัวเยาวชนทั้ง 3 รายกลับมาได้ทั้งหมดแล้ว จากการสอบถามทราบว่า เยาวชนทั้ง 3 รายไม่ต้องการอยู่ในสถานควบคุม เพราะคิดถึงครอบครัว และอยากมีอิสระ ไม่ต้องการถูกควบคุมอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสถานพินิจ จึงร่วมกันสร้างสถานการณ์ทะเลาะวิวาท และหลบหนีออกไปอยู่กับครอบครัว เจ้าหน้าที่จึงได้ไปรับตัวกลับมาควบคุมไว้แล้ว

นายสหการณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนแปรงสีฟันที่ใช้เป็นอาวุธนั้น ทราบว่าเป็นแปรงสีฟันปกติ ไม่ได้มีการดัดแปลงให้ปลายด้ามแหลม และเมื่อตรวจสอบบาดแผลเจ้าหน้าที่มีเพียงรอยชกซ้ำที่ลำตัวและเบ้าตา ซึ่งถูกชกต่อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม กรมพินิจฯ จะต้องรายงานพฤติกรรมทำร้ายเจ้าหส่วนตัวเห็นว่าพฤติกรรมของเยาวชนยังไม่รุนแรงถึงขนาดต้องย้ายไปควบคุมที่เรือนจำ โดยปกติเยาวชนทั้ง 3 คนและเจ้าหน้าที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่งเหตุดังกล่าวอาจเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล

 

นอกจากนี้ กรมพินิจฯ จะต้องทบทวนและตรวจสอบสาเหตุที่เด็กหลบหนีเป็นเพราะระบบควบคุมหรือเจ้าหน้าที่บกพร่อง หากเป็นที่ระบบก็ต้องแก้ไข การควบคุมเด็กจะต้องประเมินความเสี่ยงมากกว่านี้ แต่ถ้าเป็นกรณีเจ้าหน้าที่บกพร่องก็ต้องดำเนินการทางวินัยหน้าที่และหลบหนีของเยาวชนทั้ง 3 รายให้รับทราบทุกเรื่อง เพื่อให้ศาลพิจารณาความผิดเพิ่มเติม  

 

 

 

 

ส่วนตัวเห็นว่าพฤติกรรมของเยาวชนยังไม่รุนแรงถึงขนาดต้องย้ายไปควบคุมที่เรือนจำ โดยปกติเยาวชนทั้ง 3 คนและเจ้าหน้าที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่งเหตุดังกล่าวอาจเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล นอกจากนี้ กรมพินิจฯ จะต้องทบทวนและตรวจสอบสาเหตุที่เด็กหลบหนีเป็นเพราะระบบควบคุมหรือเจ้าหน้าที่บกพร่อง หากเป็นที่ระบบก็ต้องแก้ไข การควบคุมเด็กจะต้องประเมินความเสี่ยงมากกว่านี้ แต่ถ้าเป็นกรณีเจ้าหน้าที่บกพร่องก็ต้องดำเนินการทางวินัย