
นายกฯพีอาร์"หิ้วปิ่นโต โชว์ถุงผ้า"ลดขยะพลาสติก แก้โลกร้อน
นายกฯ ร่วมประชาสัมพันธ์"หิ้วปิ่นโต โชว์ถุงผ้า"ลดขยะพลาสติก แก้โลกร้อน
10 กันยายน 2562 ก่อนการประชุม ครม. นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) นำเสนอผลการปฏิบัติงานในการคุ้มครองผู้บริโภคด้านโฆษณา มาตรการในการแก้ไขปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์และรถยนต์
การตรวจฉลากสินค้าจัดทำฉลากเป็นเท็จหรือเกินความจริงรวมทั้งการตรวจค้นจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า บารากุ และสินค้าอันตรายที่มีคำสั่งห้ามขาย และได้นำเสนอโครงการ “สคบ. งดพลาสติก หิ้วปิ่นโต โชว์ถุงผ้า” ซึ่งเป็นโครงการที่เจ้าหน้าที่ สคบ. ร่วมกันรณรงค์ซื้อสินค้าไม่รับถุงพลาสติก ใช้ปิ่นโต และถุงผ้าในการบรรจุอาหารเพื่อช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเพื่อเป็นตัวอย่างให้ข้าราชการทุกหน่วยงาน โดยนายเทวัญ ได้มอบปิ่นโตและถุงผ้า สคบ. ให้แก่นายกฯ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนงดพลาสติก หิ้วปิ่นโต โชว์ถุงผ้าอย่างกว้างขวางต่อไป
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ช่วยกันเพื่อที่ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น ทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหา จากนั้น นายกฯได้กล่าวกับนายเทวัญว่า ขอให้ไปดูในโซเชียลด้วยเพราะมีหลายเรื่อง มีปัญหาหลายด้านหลายอย่าง รัฐบาลเองก็พยายามทำอย่างเต็มที่ แต่พอรัฐบาลทำเต็มที่ก็จะมีเรื่องกระจ๊อกกระแจ๊ก น่าเบื่อเข้ามาอีก พร้อมกับกล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่า วันนี้ต้องทำงานเพิ่มอีกหลายเท่า รวมทั้งเรื่องโซเชียลต้องเร่งแก้ไข เพราะมันออกไปแล้วคนเชื่อทันที
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำชุดสุขภาพวัยทำงาน 10 package ‘ปลอดภัยดี สุขภาพดี งานดี มีความสุข ในสถานประกอบการ’ มาแสดงโชว์ต่อนายกฯ กระตุ้นวัยทำงานดูแลสุขภาพตนเอง สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยของมหาวิทยาลัยมหิดล
โดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2557 พบว่า ประชากรวัยทำงาน ร้อยละ 9 เป็นโรคเบาหวาน ร้อยละ 25 เป็นความดันโลหิตสูง ผู้หญิง ร้อยละ 55 และผู้ชาย ร้อยละ 42 มีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน ผู้หญิง ร้อยละ 20 และผู้ชายร้อยละ 19 มีกิจกรรมทางกาย ไม่เพียงพอ เป็นปัญหาสุขภาพวัยทำงานที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรวัยทำงาน อายุ 15 - 59 ปี ประมาณ 56 ล้านคน หรือ 2 ใน 3 ของประชากรทั่วประเทศ จึงต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาประชากรกลุ่มนี้ในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้คนวัยทำงาน มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีจากการทำงาน
นายกฯกล่าวว่า ที่ทำนั้นดีแล้ว แต่ต้องพยายามลดโรคที่เป็นโรคติดต่อเรื้อรังลง อีกทั้งในการทำงานต้องชี้แจงและทำความเข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่บ้าง รวมทั้งต้องสร้างความเข้าใจกับหน่วยงานรัฐว่าเราจะทำงานร่วมกันอย่างไร "จะได้ลดข่าวที่เป็นข่าวกระพี้ๆลง ถามกันให้อารมณ์เสียอยู่เรื่อย"