ข่าว

แกะรอย...คนรู้จักลวงฆ่าเด็ก11ขวบ

แกะรอย...คนรู้จักลวงฆ่าเด็ก11ขวบ

25 พ.ย. 2552

ถ้าไม่ใช่คนใกล้ชิดมาออกอุบายเรียก "น้องเฟิร์น" เด็กหญิงวัย 11 ขวบ คงไม่ออกจากบ้าน จนกระทั่งถูกจับข่มขืนแล้วฆ่าทิ้ง...นั่นคือสมมติฐานของตำรวจ สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ที่ต้องหาพยานหลักฐานมาสนับสนุนสมมติฐานให้ได้ !?!

ผ่านมา 2 วันแล้ว นับตั้งแต่พนักงานสอบสวน สภ.สนามชัยเขต รับแจ้งพบศพน้องเฟิร์น วัย 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ถูกฆ่าข่มขืนกลางไร่มันสำปะหลัง ห่างจากหลังวัดท่าซุงเก่า หมู่ 3 ต.ลาดกระทิง โดยสภาพศพถูกฆ่ารัดคอด้วยเชือกหูรูดกางเกงสีขาว ซึ่งคนร้ายใช้วิธีรัดแบบขันชะเนาะติดอยู่กับโคนต้นมันสำปะหลัง ในชุดนอนสีฟ้าลายดอกไม้ นอนเสียชีวิตในลักษณะตะแคงข้างคว่ำหน้ากับร่องมัน ใต้ร่างมีผ้าขนหนูผืนใหญ่รองอยู่ และรองเท้าหนังแบบสวมสีดำตกอยู่ 1 คู่ นอกจากนี้ที่เกิดเหตุยังปรากฏร่องรอยการต่อสู้กับคนร้ายด้วย

 แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ผ่าชันสูตรศพน้องเฟิร์นสรุปสาเหตุการตายว่า เกิดเหตุขาดอากาศหายใจ ลำคอถูกรัดด้วยเชือกคล้ายเชือกหูรูดกางเกงรัดคอ 2 รอบ บริเวณปากมีเชือกสีขาวรัด ตามร่างกายพบร่องรอยการต่อสู้ไม่รุนแรง และพบร่องรอยถูกข่มขืนสภาพบาดแผลยับเยิน แต่ไม่น่าจะเกิดจากการรุมโทรม

 พ.ต.อ.สุรพล วิรัตน์โกสินทร์ รักษาการ ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.ณัฐสิทธิ์ บุญน่วม ผกก.สภ.สนามชัยเขต พ.ต.ต.จักรี วงศ์จินดา สว.สส.และชุดสืบสวน เริ่มแกะรอยจากหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ คือ ผ้าขนหนูผืนใหญ่กับเชือกหูรูดกางเกงสีขาว ที่แม่เลี้ยงน้องเฟิร์นวัย 20 ปี ให้การว่าเป็นของใช้ภายในบ้านพ่อน้องเฟิร์น ที่ถอดทิ้งและแขวนไว้กับตะกร้าหน้าห้องน้ำใต้ถุนบ้าน ชุดสืบสวนจึงเชิญตัวพ่อน้องเฟิร์นมาให้ปากคำได้ความว่า...

 คืนวันที่น้องเฟิร์นหายตัวไป เขาออกไปรับจ้างกรีดยางตอนเช้ามืด เมื่อกลับมาบ้านก็ไม่พบลูกสาวเสียแล้ว จึงออกไปตามหาที่โรงเรียน เพราะเข้าใจว่าลูกสาวจะเดินทางไปแข่งขันกลองยาวที่ จ.ชลบุรี แต่ไม่พบตัว จึงไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและกำนันช่วยออกตามหาอีกแรงก็ไม่พบ จากนั้นจึงเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.สนามชัยเขต พร้อมกันนี้พ่อน้องเฟิร์นได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนใกล้ชิดและรู้จักกับครอบครัวของเขาดี เนื่องจากได้กำชับลูกสาวว่าหากอยู่บ้านลำพังคนเดียว หากมีใครมาเรียกอย่าเปิดประตูบ้านเป็นอันขาด

 ประกอบกับก่อนหน้านี้เคยมีชายวัยรุ่นในหมู่บ้านคนหนึ่งมาเรียกน้องเฟิร์นตอนดึกตอนที่ตัวเขา (พ่อ) ไม่อยู่ อ้างว่าจะพาไปหาพ่อที่บ้านเพื่อน แต่น้องเฟิร์นไม่ยอมเปิดประตู ชายคนที่ว่าจึงขอให้น้องเฟิร์นเปิดไฟห้องน้ำใต้ถุน ก่อนจะขอเข้าไปใช้ห้องน้ำแล้วกลับออกไป พอเขามาถึงบ้านลูกสาวจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง...

 "แต่มาครั้งนี้คนร้ายอาจจะหลอกว่า พ่อประสบอุบัติเหตุทำให้น้องเฟิร์นเปิดประตูออกมา ผมเชื่อว่าคนร้ายเป็นวัยรุ่นในพื้นที่" พ่อน้องเฟิร์นวัย 31 ปี ให้ความเห็น

 ข้อมูลที่ได้มาถูกตรวจสอบทุกทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งล่าสุดชุดสืบสวนได้เบาะแสเกี่ยวกับวัยรุ่นชายในพื้นที่คนหนึ่ง ได้ไปพูดคุยกับเพื่อนหลังเกิดเหตุฆ่าข่มขืนน้องเฟิร์นในทำนอง "เป็นคนหลอกน้องเฟิร์นออกมาจากบ้าน" แต่ไม่ได้เป็นคนข่มขืน โดยชุดสืบสวนได้เข้าถึงตัวชายต้องสงสัยคนดังกล่าวแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลว่า เบาะแสที่ได้มานั้นเท็จจริงเป็นอย่างไร และมีใครเกี่ยวข้องบ้าง

 "การสืบสวนติดตามตัวคนร้ายมีความคืบหน้าไปมากแล้ว และตีวงแคบเข้ามาเรื่อยๆ โดยคนร้ายน่าจะเป็นคนใกล้ชิดกับครอบครัวเหยื่อ เพราะจากการสอบปากคำพยานบุคคล และตรวจสอบพยานแวดล้อม พบว่าน้องเฟิร์นอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว และคนร้ายที่รู้จักกันดีมาออกอุบายล่อลวงให้ออกจากบ้าน อาจจะอ้างว่าพาไปพบพ่อก็ได้" หนึ่งในชุดสืบสวนให้ข้อมูล

 ทั้งนี้ ผลการชันสูตรศพพบข้อเท็จจริงว่า น้องเฟิร์นเสียชีวิตประมาณ 4 ชั่วโมงก่อนพบศพ แต่ได้หายออกจากบ้านไปแล้วถึง 2 คืน สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะลักพาตัวไปกักขังไว้ ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่ง เมื่อมีชาวบ้านระดมกำลังค้นหาจึงเกรงว่าน้องเฟิร์นจะเปิดปากพูดความจริงเลยกลัวความผิด จึงย้อนกลับไปยังที่กักขังแล้วพามาที่ไร่มันสำปะหลัง จากนั้นจึงลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม โดยชุดสืบสวนคาดว่าสถานที่ใช้กักขังมีอยู่ 2 แห่งไม่ไกลจากบ้านมากนัก ขณะนี้กำลังสอบปากคำชายวัยรุ่นคนที่อ้างว่าเป็นคนพาตัวออกมาอยู่

 นอกจากวัยรุ่นชายคนข้างต้นแล้ว ชุดสืบสวน สภ.สนามชัยเขต ได้นำตัววัยรุ่นที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาสอบปากคำและตรวจปัสสาวะ 11 ราย โดย 4 รายมีปัสสาวะเป็นสีม่วงจึงดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติด ที่เหลืออีก 7 ราย ได้ปล่อยตัวไป ทั้งนี้ในจำนวนวัยรุ่น 4 คน ปัสสาวะสีม่วง 2 คน ให้การวกวนและตามลำตัวพบรอยขีดข่วนหลายแห่ง ทว่ายังให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง เพียงแต่ยอมรับว่าสนิทสนมและคุ้นเคยกันดีกับครอบครัวของน้องเฟิร์น