
ถอนร่างกฎหมายเจ้าปัญหาช่วยฮ่องกงสงบหรือเติมพลังผู้ประท้วง
จับตาฮ่องกงหลังผู้นำหญิงกลับลำถอนร่างกฎหมายที่ผู้ประท้วงจงเกลียดจงชัง
หลังจากแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ออกทีวีประกาศถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการเมื่อวาน ( 4 ก.ย.) นอกจากคำถามที่ว่าทำไมถึงเพิ่งตัดสินใจทำตามข้อเรียกร้องหลักของผู้ชุมนุม อันเป็นปฐมเหตุของการประท้วงใหญ่ ปล่อยยืดเยื้อมานาน 3 เดือน จนทวีความดุเดือดขึ้นทุกทีแล้ว ยังเป็นข้อกังขาว่า การกลับลำ จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ หรือจะยิ่งทำให้ฝ่ายผู้ประท้วงฮึกเหิมกันแน่
นักวิชาการหลายคนมองว่า มากลับลำตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว เพราะเมื่อเวลาล่วงมา จากการมุ่งล้มร่างกฎหมาย ได้ขยายเป็นการต่อต้านระบบบริหารในภาพรวม ขณะฝ่ายคิดบวกตั้งความหวังว่า ประชาชนทั่วไปอาจมองว่าอย่างน้อยก็เป็นก้าวแรก และผู้ชุมนุมสายกลางอาจพอใจ
ก่อนออกทีวีแถลง ผู้ว่าฯฮ่องกงได้เชิญส.ส.ฝ่ายสนับสนุน 43 คนมาประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับตัวแทนจากสภาประชาชนจีน และสภาที่ปรึกษาทางการเมืองประชาชนจีน เพื่อชี้แจงการตัดสินใจของเธอ ส.ส.คนหนึ่งที่ร่วมประชุม เปิดเผยว่า ไม่รู้มาก่อนล่วงหน้า บางคนคิดว่าหล่ำจะหารือเรื่องการประกาศใช้กฎหมายฉุกเฉินด้วยซ้ำ
มีอย่างน้อย 2 เสียงที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเธอ ก็คือประธานสหพันธ์สหภาพการค้า Ng Chau-pei ซึ่งเป็นผู้แทนในสภาประชาชนจีน กับ ส.ส.Luk Chung-hung ที่มองว่า จะเป็นการเติมกระสุนให้ฝ่ายต่อต้าน พากันฉลองชัยที่บังคับรัฐบาลยอมอ่อนข้อให้ตามที่เรียกร้อง ต่อมา Ng บอกเซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ เพิ่มเติมว่ารัฐบาลไม่ควรยอมจำนนต่อข้อเรียกร้องไร้สาระของผู้ประท้วง
อย่างไรก็ดี ผู้ว่าฮ่องกง เปิดเผยว่า เธอเตรียมการถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนมาระยะหนึ่ง และคิดว่าถึงเวลาเหมาะสมแล้ว เมื่อผู้ประท้วงสายกลางเริ่มระอากับความรุนแรง และจำนวนผู้ประท้วงเริ่มน้อยลง
แหล่งข่าวเชื่อว่า หล่ำพยายามจะแบ่งแยก “สายกลาง” ออกจาก “สุดโต่ง”ที่หันไปใช้กลยุทธ์หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่นการปาระเบิดเพลิง
แต่ผู้ที่ร่วมประชุมเมื่อวานไม่คิดว่า ลำพังการถอนร่างกฎหมาย จะช่วยให้ผู้ประท้วงสงบลงได้ บางคนขอให้หล่ำงัดกฎหมายฉุกเฉิน หรือหันไปใช้มาตรการเด็ดขาดกว่าเดิม เพื่อยุติความระส่ำระสายมากกว่า แต่แหล่งข่าวเผยว่า ผู้นำหญิงฮ่องกงไม่ได้ตอบคำถามเรื่องการใช้กฎหมายฉุกเฉินเลย
ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลหลายคนไม่พอใจมาก และร้องเรียนว่าการถอนร่างกฎหมาย จะกระทบโอกาสในศึกเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติเดือนพ.ย.นี้ ขณะบางคนก็เสนอว่า ควรใช้ไม้อ่อนไม้แข็งควบคู่กันไป หากไม่ใช้อย่างหลังผ่านการบังคับใช้กฎหมายเพื่อยุติความรุนแรงเลย ก็อาจทำให้ผู้ประท้วงเข้าใจว่าพวกเขาบรรลุเป้าหมายได้ด้วยการเพิ่มความรุนแรง
เบอร์นาร์ด ชาน หนึ่งในคณะรัฐมนตรีของแคร์รี หล่ำ มองว่า การถอนร่างกฎหมายอาจไม่ช่วยให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติชั่วข้ามคืน แต่หวังว่าจำนวนผู้ประท้วงอย่างสันติจะค่อยๆลดลงตามลำดับ แม้อาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนก็ตาม นอกจากถอนร่างกฎหมายฉบับนี้แล้ว หล่ำยังสัญญาจะทำการศึกษาอย่างเป็นอิสระต่อปัญหาสังคมพื้นฐานของฮ่องกง
ข่าวเกี่ยวข้อง
เข้าใจม็อบ"ฮ่องกง" คอลัมน์... รู้ลึกกับจุฬาฯ
"ม็อบฮ่องกง" การดิ้นรนหนีเงามังกร
ลุยด้วยใจ-ไร้แกนนำหนุ่มสาวฮ่องกงเลือกเผชิญหน้าเพื่ออนาคต
ในฟากนักวิชาการก็มีความเห็นหลากหลาย อย่าง ฟรานซิส ลี แลป ฟ่ง ผู้อำนวยการคณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยไชนีส ซึ่งทำโพลล์หยั่งเสียงฝ่ายต้านและฝ่ายหนุนมาหลายครั้ง แสดงความเห็นว่า เวลานี้ ข้อเรียกหลักของผู้ชุมนุมเปลี่ยนไป การถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน เป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่ใช่ประเด็นหลักการเคลื่อนไหวตอนนี้ เท่ากับข้อเรียกร้องให้เปิดสอบสวนตำรวจใช้กำลังเกินกว่าเหตุของตำรวจ ที่กลายเป็นเรื่องใหญ่มาตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม
ขณะที่ Ma Ngok นักวิชาการจากมหาวิทยาลัย ไชนีส เช่นกัน เห็นด้วย และเสริมว่าท่าทีของแคร์รี หล่ำ ยังสับสน อยู่ และมีคำถามว่า หากรัฐบาลปักกิ่งยอมให้เธอจำนนข้อเรียกร้องหนึ่งได้ นั่นหมายความถึงการยอมอ่อนข้อข้อเรียกร้องที่เหลือได้เช่นกันหรือไม่
จาง ติงไห่ ศาสตราจารย์ฮ่องกงและมาเก๊าศึกษา มหาวิทยาลัยเสิ่นเจิ้น มองว่า บางส่วนอาจไม่พอใจเพียงแค่การถอนร่างกฎหมาย แต่หล่ำอาจกำลังพยายามขอการสนับสนุนจากชาวฮ่องกงส่วนใหญ่
ส่วน โจเซฟ ชาน โชว เหว่ย นักรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮ่องกง กล่าวว่า ถ้อยแถลงของ แคร์รี หล่ำ มาสายเกินไป และไม่น่าขจัดต้นตอความไม่พอใจของผู้ชุมนุมได้ ที่สำคัญ รัฐบาลไม่เคยปลดหรือดำเนินมาตรการรูปธรรมกับตำรวจที่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุ วิกฤติเวลานี้ก้าวข้ามร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน และต้องการการยกเครื่องครั้งใหญ่เพื่อกู้ศรัทธาในระบบนิติรัฐ
หลี่ เสี่ยวปิง ผู้เชี่ยวชาญนโยบายปักกิ่งต่อฮ่องกง มหาวิทยาลัยหนานไค ยอมรับว่าประหลาดใจกับการประกาศของแคร์รี หล่ำ แต่ไม่อาจมองแง่ดีว่าจะช่วยกู้สถานการณ์ เพราะข้อเรียกร้องของผู้ประท้วงเบ่งบานจากเดือนมิถุนายนไปมาก และยากคาดหวังให้พวกเขาถือว่านี่คือการตอบสนองแล้วและพากันกลับบ้านแต่โดยดี
ที่มา Will extradition bill withdrawal appease or embolden Hong Kong protesters? Pro-Beijing camp fears it