
อ.เจษฎ์เคลียร์ประเด็นมีแต่เมืองไทยห้ามกินไก่เวลาเป็นเกาต์
จากกรณีที่ในโลกโซเชียลได้โพสต์ประเด็นตั้งคำถามที่ว่า "รู้หรือไม่ มีแต่เมืองไทยที่ "ห้ามกินไก่" เวลาเป็นเกาต์" ล่าสุด อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้อธิบายเรื่องนี้
จากกรณที่ในโลกโซเชียลมีการตั้งประเด็นคำถามที่ว่า "รู้หรือไม่ มีแต่เมืองไทยที่ “ห้ามกินไก่”
จนกระทั่งล่าสุด อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้ออกมาโพสต์อธิบายรายละเอียดเอาไว้อย่างน่าสนใจดังนี้
มีคนเอาโพสต์เรื่อง "รู้หรือไม่ มีแต่เมืองไทยที่ “ห้ามกินไก่” เวลาเป็นเกาต์" กลับมาถามกันอีกแล้ว ซึ่งผมก็เคยเขียนอธิบายเรื่องนี้ไว้แล้วนะ (ดูด้านล่าง)
สรุปๆ คือ คนที่เป็นโรคเกาต์นั้น ทั้งในไทยและในต่างประเทศ ก็บอกให้หลีกเลี่ยงการกินสัตว์ปีก อย่างไก่ เป็ด ห่าน โดยเฉพาะในส่วนที่มีไขมันสูง
"เป็นโรคเกาต์ ไม่ได้ให้เลี่ยงกินแค่ไก่ ...มีอย่างอื่นอีกพียบเลย"
ช่วงนี้มีคนถามมาเยอะกับบทความของเพจ BrandThink เรื่อง "รู้หรือไม่ มีแต่เมืองไทยที่ “ห้ามกินไก่” เวลาเป็นเกาต์" โดยเค้าตั้งคำถามว่า คนไทยเราชอบบอกว่าคนเป็นโรคเกาต์ต้องงดกินไก่ แต่ถ้าในต่างประเทศไม่เห็นบอกอย่างนั้น
คำตอบจริงๆ คือ ไก่เป็นหนึ่งในอาหารที่คนเป็นเกาต์ควรลดหรือหลีกเลี่ยง แต่ยังมีอีกหลายอย่างเลยนะ ที่ต้องเลี่ยง
โรคเกาต์ (gout) เกิดจากการสะสมผลึกเกลือโมโนโซเดียมยูเรต (monosodium urate) ในน้ำไขข้อและเนื้อเยื่อต่างๆ เพราะมีระดับกรดยูริกในเลือดสูง แล้วมีอาการปวดบวมที่ข้อหรือพบก้อนโทฟัส (tophus) ร่วมด้วย ทำให้เกิดอาการข้ออักเสบขึ้น
ทีนี้ การรับประทานอาหารบางอย่างที่ไปเพิ่มระดับของกรดยูริกในเลือด ก็จะทำให้ผู้ป่วยโรคเกาต์มีอาการกำเริบมากขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น การทานอาหารที่มีพิวรีน (purine) สูง เพราะพิวรีนสามารถเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นกรดยูริกได้ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการใช้ยาบางชนิดที่ส่งผลให้ระดับกรดยูริกในเลือดสูงขึ้น
ดังนั้นคนที่เป็นโรคเกาต์จึงควรเลี่ยงอาหารที่มีพิวรีนสูง อันได้แก่
- สัตว์ปีก เช่น เป็ด ห่าน ไก่
- เครื่องในสัตว์ เช่น เซ่งจี้ ตับหมู มันสมองวัว ตับอ่อน ไต
- ปลาและสัตว์น้ำบางชนิด เช่น ปลาไส้ตัน ปลาอินทรีย์ ปลาซาร์ดีน ปลาดุก ไข่่ปลา กะปิ กุ้งชีแฮ หอย
- ผักและธัญพืชบางชนิด เช่น ชะอม กระถิน ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ
- เห็ด ยีสต์
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะเบียร์ เนื่องจากในเบียร์มีพิวรีนปริมาณมาก
ดังนั้น สิ่งที่เราควรทำคือ เจาะเลือดตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อดูระดับของกรดยูริก และปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป
ข้อมูลจาก https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/…/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0…/
CR.อ๋อมันเป็นอย่างนี้นี่เอง By อาจารย์เจษฎ์