ข่าว

หอบเครื่องเซ่นไหว้ประชดศาล แห่ให้กำลังใจ โกวิท

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"โกวิท" เข้าให้ข้อมูลศาลรัฐธรรมนูญ หลังโพสต์เข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล ปมไม่สั่งให้ 32 ส.ส.ถือหุ้นสื่อหยุดปฎิบัติหน้าที่

 

 
            สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ -30 ส.ค.62-"โกวิท" เข้าให้ข้อมูลศาลรัฐธรรมนูญ หลังโพสต์เข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล ปมไม่สั่งให้ 32 ส.ส.ถือหุ้นสื่อหยุดปฎิบัติหน้าที่ ด้านอาจารย์ม.เกษตร พร้อมอดีตลูกศิษย์จัดชุดบวงสรวง ผ้าเจ็ดสี เซ่นไหว้บนบานศาลหวังให้รอดคุก ด้าน “โกวิท”หลบสื่อ เดินทางกลับทันทีหลังขี้แจงศาลรธน. ทำกลุ่มให้กำลังใจหอบดอกไม้ รอเก้อ            

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโกวิท วงศ์สุรวัฒน์ พ่อของนาย จอห์น วิญญู เดินทางมาให้ถ้อยคำเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่ได้รับหนังสือเชิญ กรณีที่โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์วิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ว่า รับคำร้อง 32 ส.ส. ปมหุ้นสื่อ แต่ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ "น่าจะเกินคำว่า ด้าน เสียแล้ว" ซึ่งอาจจะเข้าข่ายละเมิดศาล โดยนายโกวิท ได้เดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่เวลา 8.50 น. ก่อนเวลานัดหมายในเวลา 10.00 น. และเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายโกวิท ขึ้นไปพบเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญทันที ขณะเดียวกันที่บริเวณหน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ น.ส.ชลิตา บัณฑุวงศ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมตัวแทนกลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ นำโดยนายกรกช แสงเย็นพันธ์ นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ และน.ส.อรัญญิกา จังหวะ ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เดินทางมาให้กำลังใจนายโกวิทโดยมีการนำดอกไม้ธูปเทียน ผ้า 7 สีมาลัย 7 ศอก ตุ๊กตาม้าลาย ตุ๊กตาไก่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยระบุว่านำมาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อบนบานขอให้นายโกวิท รอดจากการถูกดำเนินคดี ฐานละเมิดอำนาจศาล   

       

 

หอบเครื่องเซ่นไหว้ประชดศาล แห่ให้กำลังใจ โกวิท

 

            น.ส.ชลิตา กล่าวว่า เรามาในนามชาวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมาให้กำลังใจกับนายโกวิท ที่ทราบว่าได้รับการเชิญตัวมาให้ข้อมูลกับทางศาลรัฐธรรมนูญ จากกรณีที่โพสต์วิพากษ์วิจารณ์ศาล เราเคยได้เรียนและได้รับความรู้จากนายโกวิท ซึ่งเราเชื่อว่าบทบาทของนายโกวิท ในการวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์ต่างๆหรือความไม่ถูกต้องในสังคม เป็นเรื่องจำเป็นกับสังคมไทย และส่วนหนึ่งเรามีจุดยืนที่มองว่าศาลรัฐธรรมนูญมีบทบาทในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพของประชาชนจึงน่าจะมีความเเตกต่างกับศาลทั่วไป ควรจะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ติดตามหรือข้อคิดเห็นกับการทำงานหรือการตัดสินใจของศาลได้ด้วย ซึ่งก็จะเป็นกระบวนการหนึ่งของการเสริมสร้างประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพให้มันเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริงในประเทศไทย จึงอยากจะขอวิงวอนไม่ให้มีการดำเนินคดีกับนายโกวิท

 

หอบเครื่องเซ่นไหว้ประชดศาล แห่ให้กำลังใจ โกวิท

 

          ด้านนายกรกช เเสงเย็นพันธ์ หนึ่งในลูกศิษย์ กล่าวว่า ตนเคยเป็นศิษย์ของอาจารย์โกวิท และเคยโดนดำเนินคดีเกี่ยวกับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งการที่ศาลเรียกตัวนายโกวิท ถือว่าเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก จึงขอให้กำลังใจ และขอให้อาจารย์ปลอดภัยไม่ถูกดำเนินคดี เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน คิดว่าเราต้องพึ่งพาไสยศาสตร์มากกว่ากระบวนการยุติธรรม

           ส่วนนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราอยากจะทราบว่าศาลจะรักษาความศักดิ์สิทธิ์หรือความยุติธรรม หากศาลจะรักษาเพียงความศักดิ์สิทธิ์ก็ให้ลงมารับของเซ่นไหว้ แต่ถ้ารักษาความยุติธรรมก็ต้องพร้อมรับฟังการวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนเพื่อปรับปรุงการทำงาน และต้องพิสูจน์ความยุติธรรม ศาลต้องเชื่อมั่นว่าจะไม่ตกเป็นเครืองมือของใคร เเละพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาลที่ไม่ได้มีที่มาจากประชาชน หรือไม่ได้มีที่มาจากการเลือกของประชาชนก็ต้องยิ่งได้รับการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น ในวันนี้จึงนำเครื่องเซ่นไหว้มาบนบานศาลกล่าวให้อาจารย์โกวิท ปลอดภัย

          ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องเเบบจาก สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดูแลความปลอดภัย และใช้มาตราการเข้มทั้งบุคคลทั่วไปและผู้สื่อข่าวต้องสแกนกระเป๋าอุปกรณ์ และเเลกบัตรก่อนเข้ามาภายในสำนักงานศาล ที่สำคัญต้องมีบัตรสื่อมวลชนที่มีการรับรองจากต้นสังกัด ทำให้กลุ่มผู้ที่เดินทางมารอให้กำลังใจ ต้องปักหลักรอได้บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น ขณะที่ภาพรวมทั่วไปก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย นอกจากนี้ตั้งแต่ช่วงเช้านางอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ได้นำช่อดอกไม้มารอให้กำลังใจนายโกวิทด้วย

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโกวิท วงศ์สุรวัฒน์ บิดาของนายจอน วิญญู ได้เข้าชี้แจงการโพสต์ข้อความอาจเข้าข่ายหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ ต่อเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นนายโกวิท ก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่ได้ให้คนขับรถส่วนตัว ย้ายรถยนต์จากบริเวณที่จอดรถชั้น 2 ลงไปรอรับบริเวณชั้นล่างของศาลรัฐธรรมนูญ และได้ให้คนใกล้ชิดนำบัตรผู้ติดต่อราชการมาแลกบัตรประชาชนคืนบริเวณด้านหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นความตั้งใจของนายโกวิท ที่ไม่ต้องการพบกับสื่อมวลชนและกลุ่มมวลชนที่มารอให้กำลังใจ จึงได้หลบสื่อมวลชนออกไปหลังการชี้แจงเสร็จสิ้นลง แม้กระทั่งกลุ่มผู้ที่เดินทางมาให้กำลังใจและส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่มีรอมอบช่อดอกไม้ก็ยังไม่ทราบ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ศาลได้ยืนยันว่านายโกวิท เดินทางกลับไปแล้ว ทางกลุ่มผู้ให้กำลังใจก็ได้สลายตัว แยกย้ายกันเดินทางกลับ

 

 

หอบเครื่องเซ่นไหว้ประชดศาล แห่ให้กำลังใจ โกวิท

    
“วิษณุ” เตือน ระวังละเมิดอำนาจ “ศาลรธน.” หลังมีกม.ใหม่ เผย ยังไม่ตั้งข้อหา “โกวิทย์” เลขาฯศาล แค่เรียกไปถาม เป็นเรื่องถ้อยทีถ้อยอาศัยอย่างหนึ่ง 

 

        ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญเรียกนายโกวิทย์ วงศ์สุรวัฒน์ พ่อนายจอห์น วิญญู พิธีกรชื่อดัง เข้าชี้แจงหลังทวิตข้อความวิจารณ์ศาลด้วยถ้อยคำไม่เหมาะสม ว่า เข้าใจว่าความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญเพิ่งมีตามกฎหมายใหม่ ทุกคนต้องระมัดระวัง และเข้าใจว่าเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญเรียกไปถาม ยังไม่มีการตั้งข้อหาหรืออะไร คงสอบถามว่าตั้งใจจะสื่ออะไร มีความหมายอะไร ทำนองนั้น คงเป็นการพูดคุย ตนทราบเพียงเท่านี้จากข่าว เพราะไม่มีส่วนได้เสียอะไร 
     
        ผู้สื่อข่าวถามว่า สังคมเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเรื่องการเมือง จึงวิพากษ์วิจารณ์ได้ นายวิษณุ กล่าวว่า จะทำอย่างไรได้เมื่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญเขียนให้มีข้อหานี้ได้ สมัยก่อนนั้นไม่มี และคำว่าละเมิดอำนาจศาลไม่ใช่แค่การวิพากษ์วิจารณ์ แต่รวมถึงการกระทำ เช่น ก่อการรบกวน สมัยก่อนศาลรัฐธรรมนูญเคยไปอ่านคำวินิจฉัยที่อื่น จำได้ว่าเป็นศาลปกครอง เขามีเรื่องละเมิดอำนาจศาล เพื่อทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยลงได้ ศาลรัฐธรรมนูญคิดว่าคงต้องมีบทบัญญัติทำนองนี้เหมือนกัน เพราะทำการในพระปรมาภิไธยเหมือนกัน ส่วนเรื่องของเส้นแบ่งการแสดงความคิดเห็นนั้นตนไม่ขอวิจารณ์ เดี๋ยวจะถูกเรียกไปอีกคน
    
          เมื่อถามถึงกรอบการละเมิดอำนาจศาลเป็นเช่นไร เพราะนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่าการวิพากษ์วิจารณ์ไม่ใช่การละเมิด นายวิษณุ กล่าวว่า แล้วแต่จะว่าไป ขึ้นอยู่ที่ศาลจะตัดสิน แต่อะไรก็ตามที่เป็นการล่วงเกินทำให้เห็นว่าศาลไม่เป็นกลาง ไม่ยุติธรรม ทำให้รู้สึกจูงใจ โน้มน้าวต่อคนที่ได้ยินได้ฟังแล้วเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อศาล ซึ่งอาจไม่เป็นความจริง เหตุมันมีแค่นี้ 
     
         เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่จะมีกรณีเช่นนี้ตามมาอีก นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ รัฐบาลไม่ใช่คนเรียก ศาลรัฐธรรมนูญเป็นคนเรียก ทุกคนต้องระมัดระวังตนเองแล้วกัน เมื่อถามว่า การวิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย จะเข้าสู่กระบวนการเช่นนี้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อาจจะเข้าหรือไม่เข้าสู่กระบวนการก็ได้ การเรียกมาถามก่อนโดยยังไม่เข้าสู่กระบวนการเป็นเรื่องถ้อยทีถ้อยอาศัยอย่างหนึ่ง 
     
          เมื่อถามถึงกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ แจ้งความเอาผิดนายยุทธเลิศ สิปปภาค ผู้เขียนบทภาพยนตร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ในข้อหาหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า อยู่ที่ศาล เช่นเดียวกับศาลยุติธรรม เพราะการละเมิดอำนาจศาล ศาลอาจจะตั้งข้อหาเองโดยไม่มีผู้ร้องก็ได้ หรือมีคนอื่นไปร้องก็ได้ แต่ศาลจะต้องพิจารณาว่ากรณีดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เพราะการละเมิดอำนาจศาลไม่ได้จบลงด้วยการจำคุกหรือปรับเสมอไป แต่จบลงด้วยการตำหนิหรือออกข้อกำหนด เช่น ห้ามมาศาล 3 วัน หรือให้หยุดพูด ทำนองนั้น โดยผู้ที่จะแจ้งข้อกล่าวหาการละเมิดอำนาจศาลนั้น ได้ทั้งประชาชนทั่วไป และหน่วยงานที่เสียหาย ซึ่งกรณี น.ส.ปารีณาทำได้หรือไม่นั้น ตามหลักการต้องตอบว่าได้ แต่เข้าหลักเกณฑ์หรือไม่ ตนไม่ทราบ 
    
         ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า นายวิษณุตอบไปแล้ว ไม่เป็นไร ขอให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของนักกฎหมายดีกว่า และการที่ น.ส.ปารีณา หรือลูกพรรค จะฟ้องใครไม่จำเป็นต้องมาหารือกับตน

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ