"ช้างวาดนก"ภาพวาดฝีพระหัตถ์"สมเด็จพระเทพฯ" | คมชัดลึก

กลุ่มบริษัท โตชิบา ประเทศไทย จึงร่วมกับกรมศิลปากร และมหาวิทยาลัยศิลปากร ดำเนินการประกวดศิลปกรรม "นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต ครั้งที่ 21" ขึ้น โดยเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึษา และประชาชนทั่วไป ร่วมส่งผลงานมาให้เลือกมากถึง 2,600 ชิ้น จากทั่วประเทศ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังจากเรือนจำ 10 แห่ง ทั่วประเทศทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดด้วย

 โอกาสนี้ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดงานดังกล่าว หลังจากพระราชทานโล่และเกียรติบัตรแก่ผู้ชนะการประกวดผลงานศิลปกรรมแล้ว ทรงวาดภาพฝีพระหัตถ์เปิดการแสดงนิทรรศการศิลปกรรมอย่างเป็นทางการ โดยทรงใช้สีน้ำวาดเป็นภาพ "ช้างวาดนก" พร้อมลงพระนามาภิไธย สิรินธร และวันที่ที่ทรงวาดกำกับไว้

 จากนั้นจึงเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรนิทรรศการผลงานของศิลปินที่ชนะการประกวดศิลปกรรม และแสดงภาพผลงานพิเศษจากศิลปินผู้ต้องขังที่จัดแสดงกว่า 160 ชิ้น ด้วยความสนพระราชหฤทัย ทั้งยังทรงมีพระราชปฏิสันถารกับศิลปินที่วาดภาพถึงแรงบันดาลใจและเทคนิคที่นำมาใช้ในการสร้างสรรค์ และเมื่อทอดพระเนตรภาพวาดของผู้ต้องขังที่นำมาจัดแสดง ซึ่งบางภาพเป็นภาพเขียนบุคคล จึงมีพระราชดำรัสว่า "เรือนจำจะเขียนภาพเหมือนเก่ง เขียนจนไม่รู้ว่าเป็นรูปเขียน เขียนเก่งมากเหมือนเป็นรูปถ่าย"

 เมื่อทอดพระเนตรเห็นผลงาน "ห้วงแห่งการก่อเกิด-เสื่อมสลาย" ของ สุพร แก้วดา ซึ่งเป็นผลงานที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป โดยมีแนวคิดในการนำเสนอเรื่องราวในรูปแบบปรัชญาพุทธศาสนา บอกความรู้สึกผ่านแสดงและเงาบนพื้นนำ เป็นตัวนำจินตนาการ ที่สื่อรูปลักษณ์ของการก่อรูปของสิ่งหนึ่งบนความเสื่อมสลายของอีกสิ่งหนึ่ง จึงมีพระราชดำรัสกับคณะผู้ติดตามว่า "ภาพนี้มีแรง เหมือนมันหมุน" พร้อมกับแย้มพระสรวลให้แก่ศิลปินผู้วาด

 ก่อนเสด็จฯ กลับได้ทอดพระเนตรการสร้างสรรค์ภาพไตรภูมิ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์ ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม จัดทำขึ้น โดยภาพที่นำมาจัดแสดงนั้นเป็นภาพร่างโดยพิมพ์จากเครื่องอิงค์เจ็ท เพื่อให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทอดพระเนตรก่อนที่ผลงานจริงจะสำเร็จ โดยชิ้นงานที่สมบูรณ์นั้นจะมีความยาวถึง 16 เมตร 

 สำหรับนิทรรศการศิลปกรรม นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต ครั้งที่ 21 ประจำปี 2552 จะจัดแสดงจนถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ หอศิลป ถ.เจ้าฟ้า ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.