
ป. รวบสาวอ้างถูกตุ๋นเปิดบัญชีฉ้อโกง
สาววัย 25 ปี อ้างพลาดท่าถูกมิจฉาชีพตุ๋นเปิดบัญชี โดนเหยื่อแจ้งความจับเบี้ยวสินค้าสั่งออนไลน์
เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 62 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. , พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. , พ.ต.ท.ณัทกฤช น้อยคำปัน , พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล , พ.ต.ท.วิศิษฐ์ พลบม่วง , พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส รอง ผกก.2 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฯ ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.จุฑามาศ สุขประเสริฐ อายุ 25 ปี ชาว ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ จ.130/2561 ลงวันที่ 19 เม.ย. 2561 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด “ฐานร่วมกันฉ้อโกง” โดยเจ้าหน้าที่ฯ สามารถจับกุมตัวได้ภายในซอยเพชรเกษม 39 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ก่อนนำตัวส่ง สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ สำหรับพฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2560 ผู้เสียหายได้โอนเงินค่าซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต เข้าบัญชีธนาคารของ น.ส.จุฑามาศ (ผู้ต้องหา) ต่อมา ผู้ต้องหาได้แนะนำบุคคลอื่นให้มาสั่งซื้อสินค้าประเภทเดียวกันในราคาที่แพงกว่า ผู้เสียหายจึงได้สั่งสินค้าจากผู้ต้องหาเพิ่มในจำนวนมากขึ้น เพื่อนำมาขายต่อให้กับบุคคลอื่น แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมส่งสินค้าให้ผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายได้ติดตามทวงถามเรื่อยมา แต่ผู้ต้องหากลับบ่ายเบี่ยงทุกครั้ง และไม่โอนเงินค่ามัดจำสินค้ามาให้แต่อย่างใด จากนั้นก็ไม่สามารติดต่อได้ ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกจึงได้ไปแจ้งความดำเนินคดี
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีเข้ามาอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 39 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ดังนั้น จึงได้ออกติดตามจนสามารถจับกุมตัวได้ และส่ง สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ดำเนินคดี
จากการสอบถาม น.ส.จุฑามาศ ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้โกงเงินผู้เสียหาย แต่ได้ถูก นายบอย (ไม่ทราบชื่อจริง) ได้โพสข้อความในเว็บไซต์หางาน ซึ่งตนเองได้เห็นข้อความเมื่อช่วง ส.ค. 2560 ว่า “รับสมัครพนักงาน รายได้ดี 5,000 - 7,000 บาท / สัปดาห์ เด็ก นักศึกษา หรือคนที่ไม่สามารถออกไปทำงานไกลๆ” ตนเลยสนใจ โดยได้ติดต่อนายบอยทางแอปพลิเคชัน LINE ที่ได้แจ้งไว้ในเว็บไซต์ โดยนายบอยได้ให้ตนถ่ายรูปบัตรประชาชน และถ่ายหน้าบัญชีธนาคารให้ หลังจากนั้นในวันเดียวกัน ก็มีเงินเข้ามาในบัญชี 1,800 บาท โดยนายบอยได้ส่งข้อความมาบอกตนเองว่า ให้นำเงินที่ได้มาไปซื้อเงินดิจิทัลในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง โดยแบ่งเป็นใบละ 1,000 บาท 1 ใบ , ใบละ 500 บาท 1 ใบ ส่วนอีก 300 บาท ที่เหลือ เป็นค่าดำเนินการให้กับตน ภายหลังที่ซื้อแล้วได้ส่งเลขเงินดิจิทัลให้นายบอย โดยนายบอยได้บอกให้ตนฉีกสลิปเงินดิจิทัลทิ้ง และส่งเลขเงินดิจิทัลให้นายบอยประมาณเกือบ 2 เดือน
จนกระทั่งมีผู้เสียหายรายอื่นโทรศัพท์เข้ามาหาตน บอกว่าตนไม่ได้รับของ ซึ่งเป็นที่นอนตุ๊กตา ตนจึงตกใจว่าไม่เคยขายสินค้าชนิดนี้ และไม่รู้เรื่องดังกล่าว จึงได้รู้ว่าตนเองถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารให้กับมิจฉาชีพ โดยเงินที่ผ่านบัญชี ทั้ง 2 บัญชี ประมาณ 2 แสนกว่าบาท แต่ตนเองได้เงินจากนายบอย รวมๆ แล้วประมาณไม่เกิน 9,000 บาท ซึ่งนายบอยได้บอกกับตนเองว่า จะให้โบนัสที่ทำงานดี แต่ก็ไม่เคยได้เลย หลังจากที่รู้ว่าตนถูกหลอก ก็ไม่ได้หลบหนี และได้เคยไปแสดงความบริสุทธิ์ใจที่สถานีตำรวจแล้ว จนกระทั่งทราบว่ามีหมายจับและถูกจับกุมดำเนินคดี
พล.ต.ต.จิรภพ เปิดเผยว่า คดีที่เกิดขึ้นอยากจะขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยไปยังประชาชนว่า อย่าได้หลงเชื่อว่ามีรายได้ดีโดยไม่ต้องทำงาน เพราะท่านอาจตกเป็นเหยื่อหลอกใช้เปิดบัญชีธนาคาร เพื่อนำบัญชีของท่านไปกระทำความผิดกฎหมายได้