
คาดคนลาวฆ่ายกครัว4ศพคาอู่ซ่อมรถชุมแพ
ฆ่ายกครัว 4 ศพ เจ้าของอู่ซ่อมรถเมืองชุมแพ แม๊คการช่าง ตร.เชื่อฆ่าชิงทรัพย์ หลังลูกจ้างชาวลาวกระหน่ำตีด้วยค้อนและเหล็กแป๊บคาห้องนอน ก่อนหลบหนีไปพร้อมรถกระบะ
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 17 พ.ย. 2552 พ.ต.ท.กิตติเดช สุพรรณ สารวัตรเวร สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิต 4 ศพ อยู่ภายในบ้าน ซึ่งเป็นอาคารพานิชย์ 4 ชั้น 5 คูหา เปิดเป็นอู่ซ่อมรถยนต์-รถจักรยานยนต์ ชื่อแม็คการช่าง ตั้งอยู่เลขที่ 331/2 ม.18 ถ.มะลิวัลย์ ต.หนองไผ่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น จึงได้รายงาน พ.ต.อ.ศรีพงษ์ เตียประพงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.คัชชา ธาตุศาสตร์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.ท.ชินภัทร ประทุมดี สวป.สภ.ชุมแพ หน่วยวิทยาการเขต 23 แพทย์เวร รพ.ชุมแพ และหน่วยกู้ภัยจือแซเกาะขอนแก่น
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพานิชย์ 4 ชั้น เปิดให้บริการซ่อมรถยนต์ ชื่อ แม๊คการช่าง เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดประตูเหล็กเข้าไปถึงกับต้องตกตะลึงเมื่อกลิ่นเหม็นเน่าส่งกลิ่นมาอย่างรุนแรง โดยภายในชั้นล่างตรงบันไดทางขึ้นพบศพนายแก้วตา ลาภนภากุล อายุ 60 ปี เจ้าของร้านดังกล่าวนอนเสียชีวิตสภาพศพขึ้นอืดทั้งตัว โดยมีรอยเลือดลากเป็นทางยาวจากชั้น 2 ลงมาตามบันได
นอกจากนี้ ที่บริเวณห้องนอนชั้น 2 พบศพ ด.ญ.ไอรญา ชาติวิชัย อายุ 9 ขวบ นอนเสียชีวิต อยู่บนเตียงนอน ส่วนห้องนอนชั้น 3 พบศพ นายแม๊ค ชาติวิชัย อายุ 33 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอนเช่นกัน และบริเวณระเบียงชั้น 4 พบศพ น.ส.อรทัย ลาภนภากุล อายุ 35 ปี ลูกสาวนายแก้วตา นอนเสียชีวิตเช่นกัน ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 วัน และจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยของการต่อสู้ มีเพียงค้อนตอกตะปูถูกทิ้งอยู่ที่บริเวณหลังร้าน
พ.ต.อ.คัชชา ธาตุศาสตร์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า เบื้องต้นเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันซึ่งเปิดเป็นสถานีวิทยุชุมชนได้พบสิ่งผิดสังเกตเนื่องจาก ไม่พบรถของผู้ตายอีกทั้งยังได้กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วทั้งบริเวณ จึงได้แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้ามาทำการตรวจสอบจนกระทั่งพบว่าครอบครัวของผู้ตายทั้ง 4 คนถูกกระหน่ำตีด้วยค้อน เหล็กแปบ และของแข้งที่ศีรษะ มันสมองเกลื่อนกระจาย
จากการตรวจสอบยังคงพบว่า รถกระบะของผู้ตาย คือ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนท์เงิน หมายเลขทะเบียน บบ-2735 ขอนแก่น หายไป และจากการสอบถามเพื่อนบ้านทราบว่าเมื่อ 4 วันที่ผ่านมา ได้พบครอบครัวของผู้ตายพร้อมกับเพื่อนคนงาน ประกอบด้วย นายพัฒน์ ชาวลาว และคนงานชาวไทย อีก 2 คน ได้หลบหนีไป ทำให้เชื่อว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากการที่ผู้ตายมีปากเสียงทะเลาะกับคนงานชาวลาว ก่อนที่จะคนงานชาวลาวจะบันดาลโทสะ ด้วยการกระหน่ำตีครอบครัวของผู้ตาย โดยเฉพาะหลานสาวที่ไม่ทราบเรื่อง ที่ต้องมาจบชีวิตลงพร้อมกับครอบครัว
“จากรูปการและการสอบปากคำเพื่อนบ้านและพยานที่เห็นเหตุการณ์ ต่างให้การตรงกันว่านายแก้วตา และนายแม็ค ได้มานั่งดื่มสุรากับลูกจ้างทั้งชาวลาวและชาวไทย ซึ่งไม่เชื่อว่าน่าจะมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เชื่อว่าจะมีปากเสียงหรือมีปัญหากันระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง จนกระทั่งเพื่อนบ้านมาได้กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วทั้งบริเวณอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามขณะนี้ทำให้การสืบสวนสอบสวนเหลือเพียงการตัดประเด็นไปที่การฆ่าชิงทรัพย์ของกลุ่มลูกจ้างที่อาจไม่พอใจนายจ้างก่อนที่จะลงมือยิงอย่างเหี้ยมโหดตายทั้งครอบครัว และจากการตรวจสอบทำให้มั่นใจว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้โดยเร็ว”
พ.ต.อ.คัชชา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ที่เกิดเหตุยังคงพบเห็นรอยเลือดของผู้ตายถูกลากมาเป็นทางยาว ทำให้เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีมากกว่า 1 คน และชำนาญการกับอาวุธเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับพฤติกรรมที่ฆ่าอย่างเลือกเย็น เพราะหลังลงมือก่อเหตุมีการปิดประตูเหล็กด้านหน้าร้านลงมาและล๊อคกลอน ก่อนที่จะมีการชิงทรัพย์รถหลบหนีไป โดยขณะนี้ได้มีการประสานงานไปยังตำรวจพื้นที่ใกล้เคียงและประเทศเพื่อนบ้านในการแจ้งเบาะแส และแจ้งหมายเลขทะเบียนรถ และจุดต้องสงสัย รูปพรรณสันฐานของรถและรูปร่างของคนร้ายเพื่อเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว