5 เขื่อนใหญ่ 23 เขื่อนกลางโคราชลดฮวบ | คมชัดลึก

 

            นครราชสีมา-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำจากการเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมงของศูนย์วิเคราะห์สถานการณ์น้ำ สำนักชลประทานที่ 8  นครราชสีมา ล่าสุด ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2562 พบว่า 5 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของ จ.นครราชสีมา ปริมาณน้ำลดลงต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีน้ำฝนไหลลงอ่างฯ ประมาณ 3,000 ลูกบาศก์เมตร

 

 

 

            โดยอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำกักเก็บคงเหลืออยู่ 168 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 53 เปอร์เซ็นต์ของความจุกักเก็บ  เป็นน้ำใช้การได้ 145 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 49 เปอร์เซ็นต์ ,อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง มีปริมาณน้ำกักเก็บ อยู่ที่ 22 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 14 เปอร์เซ็นต์ของความจุกักเก็บ  และเป็นน้ำใช้การได้ 21 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 13 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยเข้าขั้นวิกฤติ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

            ขณะที่อ่างเก็บน้ำลำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำกักเก็บ 43 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นน้ำใช้การ 36 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 26 เปอร์เซ็นต์ , อ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำกักเก็บ 97 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 35 เปอร์เซ็นต์ เป็นน้ำใช้การ 90 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 33 เปอร์เซ็นต์ และอ่างเก็บน้ำลำนางรอง อ.เสิงสาง มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่ที่ 36 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 30เปอร์เซ็นต์ เป็นน้ำใช้การได้ 33 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 28 เปอร์เซ็นต์ของความจุกักเก็บ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

            ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลางอีก 23 แห่งของจังหวัดฯ เหลือน้ำทั้งหมด 97 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 29 เปอร์เซ็นต์ เป็นน้ำใช้การได้ 73 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 23 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเมื่อเทียบกับสภาพน้ำปีที่แล้วช่วงเวลาเดียวกัน ปีนี้มีปริมาณน้ำเหลือน้อยกว่า 2 เท่าตัว อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานได้เตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เพื่อช่วยเหลือพื้นที่นาปี นาปรัง อุปโภคบริโภค พืชไร่ และอุทกภัย ในช่วงฤดูฝน ปี 2562 ไว้แล้ว

            โดยจังหวัดนครราชสีมา ได้รับสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลือพื้นที่นาปีและพืชไร่ จำนวน 2 เครื่อง และเพื่อการอุปโภค-บริโภค อีกจำนวน 13 เครื่อง ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทําให้ประเทศไทยตอนบน ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง  จึงคาดว่า ปริมาณฝนจะช่วยเติมน้ำลงในอ่างเก็บน้ำได้มากขึ้น แต่การส่งจ่ายน้ำยังอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ชลประทานอย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอตามแผนจัดการน้ำที่วางไว้