ระนองคึกนักพนันหนีเขมรเข้าเกาะสองพม่าแทน | คมชัดลึก

จากการเข้าไปสังเกตการณ์บริเวณท่าเทียบเรือของอันดามันคลับ ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางไปยังบ่อนกาสิโนบนเกาะสนประเทศพม่าพบว่ามีความคึกคักเป็นอย่างมาก มีรถยนต์ส่วนตัวซึ่งเดินทางมาจากทั่วประเทศจอดทิ้งไว้นับ 1,000 คัน รวมถึงรถทัวร์ที่นักท่องเที่ยวใช้เหมาเข้ามาท่องเที่ยวจอดเรียงรายนับ 10 คัน    
        
 จากการสอบถามพนักงานบริเวณเคาเตอร์ท่าเทียบเรือทราบว่าในช่วงวันศุกร์ เสาว์ อาทิตย์ นักท่องเที่ยว แต่ละวันที่เดินทางไปยังเกาะสนไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 คน ซึ่งสาเหตุที่มีนักเสี่ยงโชคเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมากในช่วงนี้อาจเป็นเพราะบ่อนชายแดนด้านเขมรมีปัญหา ทำให้นักเสี่ยงโชคส่วนหนึ่งหันมาเดินทางเข้ามายังบ่อนด้านจังหวัดระนองแทน
 
        ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ข้ามฟากไปสังเกตการณ์ยังเกาะสน ที่ตั้งของโรงแรมอันดามันคลับ และบ่อนกาสิโนขนาดใหญ่พบว่าในบริเวณชั้น 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งของเครื่องสล็อต ประมาณ 1,000 เครื่อง ตามปกติในช่วงวันธรรมดาจะไม่ค่อยมีคนเข้าใช้บริการ แต่ขณะนี้พบว่ามีผู้เข้าใช้บริการเกือบเต็มแทบทุกวัน ส่วนด้านบนซึ่งเป็นบ่อนกาสิโน ก็มีนักท่องเที่ยวเต็มทุกโต๊ะเล่นเช่นกัน

หาดใหญ่โพลคนใต้ชี้“ทักษิณ”ไม่เหมาะนั่งที่ปรึกษาเขมร

  สำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ หรือหาดใหญ่โพล ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนใน 14 จังหวัดภาคใต้ เรื่อง “ ประชาชนคิดอย่างไรกับความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ” โดยเก็บรวบรวมข้อมูลประชาชน จำนวน 1,190 ตัวอย่าง และใช้แบบสำรวจเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ดำเนินการสำรวจระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2552

 สำหรับผลสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้พบว่าประชาชนร้อยละ 87.9 ไม่เห็นด้วยกับ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร ในการรับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้กับรัฐบาลกัมพูชา โดยประชาชนให้เหตุผลว่า อดีตนายกรัฐมนตรีสุ่มเสี่ยงกับการเป็นบุคคลขายชาติมากที่สุด รองลงมาอดีตนายกรัฐมนตรีอาจนำข้อมูลหรือความลับของประเทศไปให้กับกัมพูชา และอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นผู้กระทำผิดของประเทศไทย ตามลำดับ

กมม.แนะรัฐบาลหนักแน่นแจ้งประชาคมโลก

 นายสำราญ รอดเพชร ว่าที่โฆษกพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาว่า พรรคสนับสนุนรัฐบาลต่อการดำเนินการทุกด้านในช่วงที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนสถานการณ์ขณะนี้ จะยิ่งรุนแรงขึ้นตามลำดับ พรรคจึงขอเสนอให้รัฐบาลหนักแน่นต่อไป โดยต้องไม่ตกเป็นเหยื่อยั่วยุของผู้นำกัมพูชา และรัฐบาลต้องไม่ตั้งรับเพียงอย่างเดียว แต่ต้องนำเสนอข้อมูลข่าวสารต่อประชาคมโลกและคนไทย โดยเฉพาะประชาชนระดับรากหญ้า ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องมีศักยภาพ และแสดงภาวะผู้นำในการสร้างความเป็นเอกภาพแห่งชาติให้ประจักษ์ชัด

"โฆษกพท.” จี้“อภิสิทธิ์”เปลี่ยนรมว.บัวแก้ว

 ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 10.00 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยแถลงเรียกร้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปลี่ยนตัวรมว.ต่างประเทศ หลังมีปัญหาความสัมพันธ์ไทย – กัพูชา ว่า ตามที่ขณะนี้มีปัญหาความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา และกลายเป็นความตรึงเครียดที่กระทบเศรษฐกิจการค้า ซึ่งปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้ดุลการค้ากัมพูชาถึง 80,000 ล้านบาท

 ดังนั้นหลังจากที่นายอภิสิทธิ์กลับจากการประชุมที่ประเทศสิงคโปร์ ขอให้ทบทวนตัวปัญหา คือ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่นายอภิสิทธิ์อุ้มมาตลอด 11 เดือน ซึ่งทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังกับกัมพูชา และขณะนี้กำลังจะเกิดปัญหากับประเทศพม่า รวมทั้งประเทศลาวที่จะจัดกีฬาซีเกมส์  โดยนายอภิสิทธิ์ ควรเปลี่ยนตัวคนที่จะทำให้ถูกฝาถูกตัว เพราะการทำงานของนายกษิตถือว่าล้มเหลว ขณะที่นายอภิสิทธิ์จะต้องปรับนโยบายต่างประเทศ โดยนายอภิสิทธิ์ จะต้องยึดผลประโยชน์ประเทศชาติ ประโยชน์ค้าและการลงทุนเป็นหลัก ไม่ใช่ประโยชน์และความสัมพันธ์ภายในของพรรคประชาธิปัตย์

เทพไทถามพัลลภเคยเป็นทหารประเทศไหน

 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ. พัลลภ ปิ่นมณี พูดถึงสงครามถ้าจะเกิดขึ้นนั้นว่าไทยจะพ่ายแพ้ต่อกัมพูชา ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดเช่นนี้จะออกมาจากปากของนายทหารระดับพลเอกของกองทัพไทย คำพูดเช่นนี้ถือว่าเป็นการพูดดูถูกเกียรติศักดิ์ เกียรติภูมิของตัวเอง ดูถูกกองทัพของตัวเอง

 “ วันนี้ต้องถามพลเอกพัลลภ ว่าเป็นทหารของประเทศไทย หรือว่าเป็นทหารของประเทศอื่น ฉะนั้น รัฐบาลไม่ว่าสถานการณ์จะตรึงเครียดเลวร้ายอย่างไรก็ตาม รัฐบาลหลีกเลี่ยงการใช้กำลัง หรือสงครามอย่างที่สุด แม้แต่การปิดพรหมแดนตามมาตรการทางการทูตแบบสากลขั้นสูงนายกรัฐมนตรียืนยันชัดเจนว่าจะไม่มีการปิดพรหมแดนเพราะจะเสียหายกับประชาชน แต่การทำสงครามคือความเสียหายมากกว่าพฤติกรรมใดๆที่เกิดขึ้นมากกว่ามาตรการทางการทูต ไทยจะไม่เข้าสู่สงครามตามที่ พลเอกพัลลภท้าทาย ” โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว