
'อนุทิน'ลั่น ไม่ร่วม รบ.เสียงข้างน้อย
'อนุทิน'ลั่น ไม่ร่วม รบ.เสียงข้างน้อย ยอมเป็นฝ่ายค้านหากไม่เอากัญชา
วันที่ 20 พ.ค. ที่โรงแรมโมเดน่า บาย เฟร์เซอร์ จ.บุรีรัมย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นประธานเปิดการปฐมนิเทศ ส.ส. ภท.
นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้บอกให้ส.ส. ลงพื้นที่ไปรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้าน เกี่ยวกับทิศทางของพรรคว่าต้องการให้เดินไปทางไหน โดยจะนำมาพูดคุยหารือในวันนี้ด้วย
เมื่อถามว่า หากรับฟังความคิดเห็นของส.ส.ที่ไปฟังเสียงชาวบ้านมาแล้ว จะสามารถเคาะบทสรุปท่าทีของพรรคในวันนี้ได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องรับฟังก่อน คนอื่นเขารอถึงวันที่ 23-24 พ.ค ทำไมต้องมาเร่งตนด้วย
เมื่อถามต่อว่า แต่หลายคนคาดหวังว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีอะไรคืบหน้า นายอนุทินกล่าวว่า สมมุติตนจะตัดสินใจหรือจะทำอะไร ก็เหมือนกับพรรคอื่นที่ต้องขอฉันทานุมัติจาก ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคว่าจะให้ใครเป็นตัวแทนของพรรคในการตัดสินใจเรื่องทิศทางทางการเมือง ก็น่าจะเป็นตน ซึ่งอาจจะมีอะไรในใจแล้วก็ได้ แต่ยังไม่จำเป็นต้องบอกตอนนี้ เพราะคนอื่นก็เลื่อนเหมือนกัน ถามว่าวันนี้มีใครมาหาเราหรือยัง ก็ยังไม่มี อย่าลืมว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคลำดับที่ 5 ถามว่าพรรคลำดับที่ 1 จัดรัฐบาลหรือยัง จัดได้หรือไม่ ถ้าจัดไม่ได้ พรรคลำดับ 2 จัดหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ตนดูจากข่าว ก็มีการบอกว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นขั้วที่ 3 กับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ตนยืนยันว่ายังไม่ได้คุยอะไรกันกับพรรคประชาธิปัตย์
“ตอนนี้ต้องนิ่ง เพราะการนิ่งคือสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งต้องดูว่าความคิดเห็นของชาวบ้านเป็นอย่างไร เพราะผมจะต้องรับฟังจากส.ส.ทุกคน หรือผมอาจจะให้ส.ส.ทุกคนโหวตลับก็ได้ ว่าอยากไปในทิศทางไหน เพราะนี่เป็นประชาธิปไตย เราต้องรับฟังทุกมิติ ไม่ต้องสนใจแรงกดดันใดๆ เพราะพรรคจะไม่มีการชี้นำและโน้มน้าว วันนี้ขอให้ทุกคนปล่อยอารมณ์มาเต็มที่ว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งผลการโหวต ผมจะอ่านคนเดียว แล้วก็จะไปนั่งบริกรรมของผม” นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามถึงกรณีสวนดุสิตโพลเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ระบุอยากเห็นรัฐบาลขั้วที่ 3 นายอนุทิน ย้อนถามว่า โพลไหนเพราะแต่ละโพล ก็ต่างกันไป บอกไปทางนี้ อีกฝั่งก็ด่า บอกไปอีกทาง อีกฝั่งก็ด่า เพราะฉะนั้น ต้องประเมินให้ถูก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร เพราะพูดไว้ชัดเจนว่าบ้านเมืองเป็นใหญ่ และประชาชนคือคนที่พรรคต้องคอยปกป้องและรักษาผลประโยชน์ ตนบอกชัดเจนแล้วว่า ส.ส.500 คนต้องนำส.ว. 250 คน ดังนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยจะไม่มีพรรคภูมิใจไทยแน่นอน เราต้องเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเท่านั้น
เมื่อถามว่า สื่อบางสำนักได้จัดทำโผ ครม. ให้นายอนุทินเป็น รมว.สาธารณสุข นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ดีเหมือนกัน เพราะตนเคยอยู่มา 2 สมัยแล้ว แต่ตอนนี้เรายังไม่ไปไกลถึงตรงนั้น สำหรับกระทรวงสาธารณสุข คนอาจมองว่าพ่อของตนเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการมาก่อน อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ ไม่มีปัญหา หากได้เป็นจริงก็ถือเป็นเรื่องดี เนื่องจากนโยบายกัญชา จะได้ถูกผลักดันเป็นรูปธรรมมากขึ้น แต่ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าจะได้เป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล เพราะเรายังไม่ได้คุยอะไรกับใครเลย อย่างไรก็ตาม วันนี้คงจะได้รับฉันทานุมัติ ซึ่งตนก็ต้องนำไปคิดให้มาก เพราะเป็นเรื่องของบ้านเมือง จะมาทำอะไรตามอารมณ์และความรู้สึกไม่ได้ ต้องปล่อยวาง ต้องเป็นกลางมากๆ
เมื่อถามว่า นอกจากรอฟังความเห็นของประชาชนแล้ว ยังมีเงื่อนไขอื่นอีกหรือไม่ที่จะนำมาประกอบการตัดสินใจ นายอนุทินกล่าวว่า เงื่อนไขเรามี 4 ข้อ ที่ประกาศตลอดเวลา คือ เรื่องความจงรักภักดี เรื่องความตั้งใจทำงาน ซึ่งต้องไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่มีความขัดแย้ง ต้องรักประชาชน และต้องรับทุกนโยบายของ ภท. ไปปฏิบัติเป็นรูปธรรม ดังนั้น หากจะไปคุยกับใครหรือฝ่ายไหน เราก็ต้องฟังเงื่อนไขของเขา และดูว่าเรารับได้หรือไม่ ใครจะมาบอกให้เราเป็น รมว.สาธารณสุข ก็ต้องฟังว่าเพราะอะไร และคนอื่นคิดว่าอย่างไร หรือถ้าเป็นฝ่ายค้านจะทำอย่างไร เงื่อนไขของเรา ท่านรับได้หรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องกัญชา หากไม่มีใครเอาด้วย เราก็จะเป็นฝ่ายค้าน ณ วินาที นั้น