
จับพระนักเทศน์ชื่อดังมั่วสีกานานนับปี
ชาวบ้านโร่แจ้งตำรวจ จับพระนักเทศน์ชื่อดังเมืองอุตรดิตถ์มั่วสีกา หลังพบพฤติกรรมเปิดบ้านเช่าอยู่กับสีกาสาวนานนับปี ด้านเจ้าตัวยอมรับ ลักลอบมีสัมพันธ์มานานกว่า 2 ปี
เหตุพระนักเทศน์มั่วสีการายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน ร.ต.อ.ศักดา จันจี พงส. (สบ 1) สภ.เมืองอุตรดิตถ์ รับแจ้งจากนายอุดม ประคุณคงชัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านไผ่ล้อม-ขอนแก่น ต.น้ำริด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ว่ามีพระภิกษุสงฆ์อยู่กับสีกาที่บริเวณตึกแถวห้องเช่าอาคารพาณิชย์ เลขที่ 96/6 ภายในหมู่บ้าน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย ด.ต.สนั่น บุตรยา และ ด.ต.พายับ พุทธา เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยบริการประชาชนบ้านน้ำริด พบเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นครึ่งจำนวน 9 ห้อง ติดถนนสายบ้านน้ำริด-หัวดง ทางแยกเข้าสำนักงานเทศบาลตำบลน้ำริด และมีชาวบ้านกว่า 20 คน ปิดล้อมหน้าอาคารพาณิชย์ดังกล่าว
เมื่อเข้าตรวจสอบพบชายหนุ่มสวมหมวกแก๊ปสีดำ สวมเสื้อยึดคอกลมทับด้วยเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ อยู่ภายในรถเก๋ง ยี่ห้อเรโนลต์ สีเหลือง ทะเบียน กข 2010 อุตรดิตถ์ นั่งอยู่ในที่นั่งคนขับ ด้านข้างมีผู้หญิงนั่งอยู่ด้วย 1 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอความร่วมมือจากบุคคลทั้งสอง เนื่องจากมีคนต้องสงสัยเป็นคนต่างพื้นที่มาเช่าบ้านพักอาศัยอยู่กระทำตัวแบบหลบซ่อน หรือปกปิดใบหน้าอยู่ตลอด และหวั่นว่าจะเป็นคนร้ายที่หลบหนีคดีมาซ่อนตัวอยู่ จึงขอตรวจบัตรประจำตัวประชาชน โดยฝ่ายชายไม่สามารถหาหลักฐานทางราชการมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ส่วนผู้หญิงทราบชื่อตามบัตรประจำตัวประชาชนคือ น.ส.ชลธิดา
จากนั้นจึงตรวจภายในรถยนต์พบผ้าสีขาวผืนใหญ่คลุมสิ่งของบางอย่างอยู่เบาะด้านหลังคนขับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขออนุญาตเปิดดู พบจีวรพระ ผ้าสบง ผ้าประคดรัดเอว อย่างละ 1 ชิ้น ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจพบกระเป๋าย่ามสีเขียวอ่อน ภายในย่ามมีหนังสือมนต์พิธี ซึ่งเป็นหนังสือท่องบทสวดมนต์และพิธีกรรมทางศาสนา และใบสุทธิ หรือสมุดคู่มือประจำตัวพระ สถานะเดิมชื่อ นายภิรมณ์ เอี่ยมสอาด อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 421/9 ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ โดยได้รับฉายา พระภิรมณ์ จิตตสังวโร อุปสมบท เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2549 ณ วัดวังกะพี้ ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เมื่ออายุ 27 ปี โดยพระครูพิศาลจริยธรรม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระใบฎีกาสมจิตร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดสมบัติ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และมีภาพถ่ายพระสงฆ์หน้าตรง ซึ่งก็คือชายหนุ่มที่นั่งในรถยนต์คันดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปส่งมอบให้พระเทพปริยัติวิธาน เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่วัดคลองโพธิ์ พร้อมแจ้งปัญหาเรื่องราวให้ได้รับทราบ ซึ่งเจ้าคณะจังหวัดกล่าวว่า พระภิรมณ์ จิตตสังวโร ดำรงตำแหน่งเลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ และเป็นพระนักเทศน์ชื่อดังของ จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งได้ขาดจากการเป็นพระด้วยเหตุปาราชิกแล้ว เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับสีกาด้วยการเสพเมถุน เป็นศีลข้อห้ามในศีล 227 และเป็นศีลต้องห้าม ซึ่งต้องปาราชิก โดยไม่จำเป็นต้องจับมาลาสิกขาต่อหน้าพระสงฆ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปทำบันทึกประจำวัน ก่อนที่จะปล่อยตัวออกไป
นายภิรมย์ให้การยอมรับว่า เป็นพระลูกวัดวังกะพี้ มีตำแหน่งเป็นเลขานุการเจ้าคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ และเป็นพระนักเทศน์ในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ โดยเทศนาเกี่ยวกับพระคุณพ่อ และพระคุณแม่เป็นหลัก เกิดรักใคร่ชอบพอกับสีกามานาน จึงลักลอบแอบมีสัมพันธ์กันมานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยให้ น.ส.ชลธิดา ตระเวนเช่าบ้านพักอยู่อาศัยตามหมู่บ้านต่างๆ ให้ห่างจากวัดที่บวช 3-4 เดือนก็จะย้าย เพื่อไม่ให้คนอื่นๆ สงสัย
ทั้งนี้ จะแอบไปหาและนอนอยู่ด้วยในช่วงเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และในวันธรรมดาหลังช่วง 4 ทุ่มไปแล้ว ซึ่งก็ได้เปลี่ยนบ้านเช่ามาโดยตลอด เนื่องจากหวั่นว่าญาติโยมจะจับได้ เมื่อเสร็จภารกิจแล้วก็จะขับรถคันดังกล่าวกลับออกจากบ้านเช่า มาถึงที่วัดในตอนเช้ามืด โดยที่พระในวัดจะไม่ทราบว่าไปไหนมา และออกเดินบิณฑบาตตามปกติเหมือนพระทั่วไปเป็นประจำทุกวัน ส่วนเงินที่ได้จากการเทศนาธรรม ก็จะแบ่งให้สีกาใช้เป็นประจำตลอดจนกระทั่งมาถูกจับได้