
นายกอบต.อ่าวนาง ร้องภาครัฐเร่งแก้ปัญหาสะสม"หมู่เกาะพีพี"
หมู่เกาะ "พีพี" เป็นเพชรน้ำงามกลางทะเลอันดามัน ในพื้นที่ของ จ.กระบี่ ซึ่งแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศเดินทางไปเยี่ยมชมความงามของเกาะแก่งที่สวยแปลกตา หาดทรายขาวละเอียด และแนวปะการังที่เต็มไปด้วยฝูงปลาอยู่คลาคล่ำ
แต่ความเฟื่องฟูทางการท่องเที่ยวของเกาะพีพีก็ต้องแลกด้วยปัญหาสะสมนานัปการที่เกิดจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นทุกปี ทั้งปัญหาน้ำเสีย ปัญหาขยะ แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ปัญหายาเสพติด การบุกรุกพื้นที่ป่าในเขตอุทยาน เป็นต้น
ดังนั้น พันคำ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง จึงมุ่งที่จะหาแนวทางมาฟื้นฟูเกาะพีพีให้กลับมาสวยงามดังเดิมด้วยการจัดระบบกำจัดน้ำเสียแบบ "บึงประดิษฐ์" โดยได้รับงบสนับสนุนจากสถานทูตเดนมาร์ก จำนวน 27 ล้านบาทเศษ
บึงรับน้ำเสียสามารถรองรับปริมาณน้ำเสียได้ถึงวันละ 400 ลูกบาศก์เมตร โดย อบต.อ่าวนาง ใช้งบดูแลเดือนละ 4 แสนกว่าบาท
ส่วนการจัดเก็บขยะบนเกาะพีพีที่มีปริมาณขยะถึง 10 ตันต่อวัน อบต.อ่าวนาง ยังได้จ้างเอกชนขนขยะเดือนละ 4 แสนกว่าบาทด้วย
นอกจากนี้ อบต.อ่าวนาง ยังจัดกิจกรรม "วันรักพีพี" เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกให้ประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบนเกาะพีพีเป็นประจำทุกปี
ทั้งนี้ นอกจากปัญหาสะสมทั้งทางสังคม และสิ่งแวดล้อม เกาะพีพียังประสบปัญหาเรื่องความเสื่อมโทรมของทัศนียภาพที่เกิดจาก เรือลากร่ม เรือลากกล้วย และร่มชายหาด ซึ่งปัจจุบันบริเวณชายหาดอ่าวโละดาลัมมีร่มชายหาด และเรือลากกล้วยอยู่รกเต็มชายหาด
ทัศนียภาพที่ดูรกรุงรังดังกล่าวสวนทางกับนโยบายของจังหวัดกระบี่ที่ได้ทำข้อตกลงร่วมกันกับภาคเอกชนเมื่อปี 2540 ที่ต้องการให้เกาะพีพีมีเป็น "แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์"
นายก อบต.อ่าวนาง จึงต้องการให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาดูแลแหล่งท่องเที่ยวในหมู่เกาะพีพี ทั้งเกาะลันตา อ่าวนาง หรือหาดนพรัตน์ธารา ซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยร่มชายหาด เรือล่ม และเรือลากกล้วย ที่นับวันจะดูห่างไกลจากแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มากขึ้นไปทุกที
สิทธิชัย สิขวัตร