
ทน.ขอนแก่นจัด"บุญคูนเมือง"รู้เหง้าตัวเอง
เทศบาลนครขอนแก่นจัดงานใหญ่ "บุญคูนเมือง" หวังสร้างให้เยาวชนหันมาสนใจศิลปวัฒนธรรม และรากเหง้าของตนเอง โดยดึงเครือข่ายวัฒนธรรมร่วมจัดงาน ทั้ง ศิลปะ ดนตรี วัฒนธรรม และวรรณกรรม
นายธวัชชัย รื่นรมย์สิริ รองนายกเทศมนตรีฝ่ายการศึกษาเทศบาลนครขอนแก่น ได้เชิญเครือข่ายวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่นเข้าร่วมประชุมเพื่อหารือการจัดงาน "บุญคูนเมือง" ในระหว่างวันที่ 3-5 ธ.ค.นี้ ที่ศาลหลักเมืองขอนแก่น โดยภายในงานจะเน้นสื่อสารเรื่องศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี และวรรณกรรม เพื่อเชื่อมโยงเข้าหากัน โดยมีเนื้อหาเน้นไปที่การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมที่มีอยู่ โดยเอาเทคโนโลยีและสื่อต่างๆเข้ามาจับ
โดยจุดประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้คือบูชาศาลหลักเมืองที่เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนชาวขอนแก่น อีกทั้งประชาชนทั่วไปที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนก็จะมาเคารพสักการะบูชาศาลหลักเมือง เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าศาลหลักเมืองเป็นโบราณสถานที่อยู่คู่เมืองขอนแก่นมายาวนาน ทางเทศบาลจึงตั้งใจว่าจะจัดงานบุญคูณเมืองนี้ให้เป็นงานประจำปี โดยในปีนี้จัดเป็นปีที่ 2 แล้ว
สำหรับวันแรกคือวันที่ 3 ธ.ค.จะมีการประกอบพิธีกรรมทั้งทางศาสนาพุทธและศาสนาพราหมณ์ ในช่วงเช้าจะมีการตักบาตรเล็กและมีพิธีบายศรีสู่ขวัญ ส่วนบรรยากาศในตอนเย็นนั้นจะคล้ายกับบรรยากาศของงานวัดสบายๆ เหมาะกับการที่จะพาครอบครัวมาเดินเที่ยวชมงาน ดูการแสดงต่างๆ ที่ปัจจุบันนี้หาดูได้ยากแล้ว เช่น การแสดงรำวงย้อนยุค พร้อมกับขายตั๋วราคาถูกให้ผู้ที่มาเที่ยวในงานได้เข้าไปร่วมรำวงด้วย
พอเหน็ดเหนื่อยจากการรำวงก็จะมีปาเป้า สาวน้อยตกน้ำ ให้กับผู้ที่มาร่วมงานได้เข้าไปร่วมสนุกอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีการฉายหนังกลางแปลงเรื่องเวลาในขวดแก้ว และเสวนาวรรณกรรมภายใต้หัวข้อ “อุ่นรักไอฝันกับวันเวลาในขวดแก้ว 25 ปี” ในเวลา 18.30 น. ในเวทีนี้จะมีการเสวนา โดยประภัสสร เสวิกุล ผู้ประพันธ์นวนิยายเรื่องเวลาในขวดแก้วมาเป็นผู้ให้ความรู้ถึงที่มาที่ไปของผลงานชิ้นนี้ พร้อมกับเชิญบุคคลที่สนใจ มาร่วมรับฟัง และร่วมพูดคุยถึงนวนิยายเรื่องนี้ด้วย ควบคู่กับการฉายภาพยนต์เรื่อง เวลาในขวดแก้ว และ เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
นอกจากนั้นยังมีการเสวนาเรื่อง "ตำนาน ภาพถ่าย ความทรงจำ" ที่จะมีการนำภาพถ่ายตั้งแต่ยุคแรกๆในการตั้งเมืองขอนแก่น จนมาถึงยุคปัจจุบันมาจัดนิทรรศการและมีการเชิญนักวิชาการ และคนเก่าแก่ของเมืองขอนแก่นมาพูดคุยและบอกเล่าเรื่องราวการสร้างบ้านแปงเมืองในครั้งนี้ด้วย โดยการเสวนาจะเริ่มเวลา 20.00 น.
สำหรับในวันที่สอง จะมีการรำบวงสรวงศาลหลักเมือง บวงสรวงเชิดสิงโต รำถวายเจ้า ช่วงเวลาเย็นจะเริ่มต้นทำพิธีวางพานพุ่ม ในเวลา 19.09 น. ต่อจากนั้นจะมีงานแสดงศิลปะภาพถ่าย และการจัดแสดงงาน " Art Lane " มีการเปิดร้านขายสินค้าทำมือ และทำกิจกรรมด้านศิลปะต่างๆ โดยการวางจำหน่ายจะไม่มีการเก็บค่าเช่าที่แต่อย่างใด พร้อมการแสดงบนเวทีที่จะมีการแสดงละคร หุ่นละครเล็ก และละครสร้างสรรค์ของเด็กๆ ด้วย
ส่วนวันที่ 5 ธ.ค.วันสุดท้าย ช่วงเช้าก็จะมีการตักบาตรใหญ่ มีโรงเจ พร้อมกับมีการแจกเบี้ยยังชีพให้กับเด็กและคนชรา ส่วนช่วงค่ำเวลา 19.19 น. ก็จะเป็นฤกษ์ที่กำหนดไว้ในการประกอบพิธีกรรมนั่งอธิษฐานจิตที่บริเวณศาลหลักเมือง เพื่อส่งกระแสจิตให้ประเทศชาติ คนไทย และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้หายจากพระอาการประชวรด้วย จากนั้นก็จะมีกิจกรรมในส่วนของการแสดงคอนเสิร์ตเล็กๆของวงดนตรีเยาวชนที่สนใจมาจัดแสดงในงานด้วยโดยจะเน้นดนตรีที่อนุรักษ์วัฒนธรรม ไม่เสียงดัง ฟังสบายๆ เหมือนฟังดนตรีในสวน
"การจัดงานทั้งหมด มุ่งไปที่กลุ่มเป้าหมายคือเด็กและเยาวชนในเมืองขอนแก่น ที่จะมีโอกาสได้ซึมซับบรรยากาศแบบโบราณ ร่วมสมัยกับปัจจุบัน โดยเอาสื่อต่างๆ เข้ามานำเสนอ เพราะอย่างน้อยอยากจะให้เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้รู้จักอดีตของเมืองที่ตนเองอยู่ ก่อนจะไปสนุกสนานรื่นเริงกับสิ่งที่เป็นอยู่ในชีวิตปัจจุบันและอนาคต"นายธวัชชัย กล่าว