ข่าว

ทน.ขอนแก่นจัด"บุญคูนเมือง"รู้เหง้าตัวเอง

ทน.ขอนแก่นจัด"บุญคูนเมือง"รู้เหง้าตัวเอง

11 พ.ย. 2552

เทศบาลนครขอนแก่นจัดงานใหญ่ "บุญคูนเมือง" หวังสร้างให้เยาวชนหันมาสนใจศิลปวัฒนธรรม และรากเหง้าของตนเอง โดยดึงเครือข่ายวัฒนธรรมร่วมจัดงาน ทั้ง ศิลปะ ดนตรี วัฒนธรรม และวรรณกรรม

 นายธวัชชัย รื่นรมย์สิริ รองนายกเทศมนตรีฝ่ายการศึกษาเทศบาลนครขอนแก่น ได้เชิญเครือข่ายวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่นเข้าร่วมประชุมเพื่อหารือการจัดงาน "บุญคูนเมือง" ในระหว่างวันที่ 3-5 ธ.ค.นี้ ที่ศาลหลักเมืองขอนแก่น โดยภายในงานจะเน้นสื่อสารเรื่องศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี และวรรณกรรม เพื่อเชื่อมโยงเข้าหากัน โดยมีเนื้อหาเน้นไปที่การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมที่มีอยู่ โดยเอาเทคโนโลยีและสื่อต่างๆเข้ามาจับ

 โดยจุดประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้คือบูชาศาลหลักเมืองที่เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนชาวขอนแก่น  อีกทั้งประชาชนทั่วไปที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนก็จะมาเคารพสักการะบูชาศาลหลักเมือง  เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าศาลหลักเมืองเป็นโบราณสถานที่อยู่คู่เมืองขอนแก่นมายาวนาน   ทางเทศบาลจึงตั้งใจว่าจะจัดงานบุญคูณเมืองนี้ให้เป็นงานประจำปี  โดยในปีนี้จัดเป็นปีที่ 2 แล้ว

 สำหรับวันแรกคือวันที่ 3 ธ.ค.จะมีการประกอบพิธีกรรมทั้งทางศาสนาพุทธและศาสนาพราหมณ์  ในช่วงเช้าจะมีการตักบาตรเล็กและมีพิธีบายศรีสู่ขวัญ  ส่วนบรรยากาศในตอนเย็นนั้นจะคล้ายกับบรรยากาศของงานวัดสบายๆ  เหมาะกับการที่จะพาครอบครัวมาเดินเที่ยวชมงาน ดูการแสดงต่างๆ  ที่ปัจจุบันนี้หาดูได้ยากแล้ว  เช่น  การแสดงรำวงย้อนยุค พร้อมกับขายตั๋วราคาถูกให้ผู้ที่มาเที่ยวในงานได้เข้าไปร่วมรำวงด้วย 
พอเหน็ดเหนื่อยจากการรำวงก็จะมีปาเป้า  สาวน้อยตกน้ำ  ให้กับผู้ที่มาร่วมงานได้เข้าไปร่วมสนุกอย่างเต็มที่    อีกทั้งยังมีการฉายหนังกลางแปลงเรื่องเวลาในขวดแก้ว และเสวนาวรรณกรรมภายใต้หัวข้อ  “อุ่นรักไอฝันกับวันเวลาในขวดแก้ว  25  ปี” ในเวลา 18.30 น. ในเวทีนี้จะมีการเสวนา โดยประภัสสร  เสวิกุล  ผู้ประพันธ์นวนิยายเรื่องเวลาในขวดแก้วมาเป็นผู้ให้ความรู้ถึงที่มาที่ไปของผลงานชิ้นนี้  พร้อมกับเชิญบุคคลที่สนใจ มาร่วมรับฟัง และร่วมพูดคุยถึงนวนิยายเรื่องนี้ด้วย ควบคู่กับการฉายภาพยนต์เรื่อง เวลาในขวดแก้ว และ เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

 นอกจากนั้นยังมีการเสวนาเรื่อง "ตำนาน ภาพถ่าย ความทรงจำ" ที่จะมีการนำภาพถ่ายตั้งแต่ยุคแรกๆในการตั้งเมืองขอนแก่น จนมาถึงยุคปัจจุบันมาจัดนิทรรศการและมีการเชิญนักวิชาการ และคนเก่าแก่ของเมืองขอนแก่นมาพูดคุยและบอกเล่าเรื่องราวการสร้างบ้านแปงเมืองในครั้งนี้ด้วย โดยการเสวนาจะเริ่มเวลา 20.00 น.

 สำหรับในวันที่สอง  จะมีการรำบวงสรวงศาลหลักเมือง  บวงสรวงเชิดสิงโต  รำถวายเจ้า   ช่วงเวลาเย็นจะเริ่มต้นทำพิธีวางพานพุ่ม  ในเวลา  19.09 น.  ต่อจากนั้นจะมีงานแสดงศิลปะภาพถ่าย และการจัดแสดงงาน " Art Lane "  มีการเปิดร้านขายสินค้าทำมือ  และทำกิจกรรมด้านศิลปะต่างๆ โดยการวางจำหน่ายจะไม่มีการเก็บค่าเช่าที่แต่อย่างใด พร้อมการแสดงบนเวทีที่จะมีการแสดงละคร หุ่นละครเล็ก และละครสร้างสรรค์ของเด็กๆ ด้วย

 ส่วนวันที่ 5 ธ.ค.วันสุดท้าย  ช่วงเช้าก็จะมีการตักบาตรใหญ่  มีโรงเจ  พร้อมกับมีการแจกเบี้ยยังชีพให้กับเด็กและคนชรา  ส่วนช่วงค่ำเวลา  19.19 น.  ก็จะเป็นฤกษ์ที่กำหนดไว้ในการประกอบพิธีกรรมนั่งอธิษฐานจิตที่บริเวณศาลหลักเมือง เพื่อส่งกระแสจิตให้ประเทศชาติ คนไทย และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้หายจากพระอาการประชวรด้วย  จากนั้นก็จะมีกิจกรรมในส่วนของการแสดงคอนเสิร์ตเล็กๆของวงดนตรีเยาวชนที่สนใจมาจัดแสดงในงานด้วยโดยจะเน้นดนตรีที่อนุรักษ์วัฒนธรรม ไม่เสียงดัง ฟังสบายๆ เหมือนฟังดนตรีในสวน

 "การจัดงานทั้งหมด มุ่งไปที่กลุ่มเป้าหมายคือเด็กและเยาวชนในเมืองขอนแก่น ที่จะมีโอกาสได้ซึมซับบรรยากาศแบบโบราณ ร่วมสมัยกับปัจจุบัน โดยเอาสื่อต่างๆ เข้ามานำเสนอ เพราะอย่างน้อยอยากจะให้เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้รู้จักอดีตของเมืองที่ตนเองอยู่ ก่อนจะไปสนุกสนานรื่นเริงกับสิ่งที่เป็นอยู่ในชีวิตปัจจุบันและอนาคต"นายธวัชชัย กล่าว