ข่าว

กกต.แจงรายงานผลคะแนน ไม่ล่าช้า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กกต.แจงใช้เวลา 5 วันรายงานผลคะแนนเท่ากับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้ล่าช้า ย้ำรายงานฉบับสมบูรณ์ จำนวนผู้มาใช้สิทธิ 38.2 ล้านคน

 

กกต.แจงใช้เวลา 5 วันรายงานผลคะแนนเท่ากับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้ล่าช้า ย้ำรายงานฉบับสมบูรณ์ จำนวนผู้มาใช้สิทธิ 38.2 ล้านคน ไม่ใช่การเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ แนะเพื่อไทยหอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้งยื่นร้อง กกต. พบผิดจริงตามที่แถลงข่าวลงไทษหนักแน่

 

          วันที่ 2 เม.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงข้อสงสัยเกี่ยวกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งว่า ข้อมูลที่ได้แถลงเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ว่ามีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 65.96% (33,775,230 คน) เป็นข้อมูลจากระบบรายงานผลอย่างไม่เป็นทางการ 90% ของหน่วยเลือกต้ัง หรือ 83,088 หน่วย จากท้ังหมด 92,320 หน่วย ซึ่งยังคงเหลืออีก 9,232 หน่วยที่ยังไม่ได้รายงานข้อมูลเข้ามา อีกทั้งยังไม่รวมคะแนนที่มาจากการเลือกตั้งล่วงหน้า ในเขตเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้งและนอกราชอาณาจักร) อีกกว่า 2 ล้านใบ ส่วนข้อมูลในการแถลงข่าววันที่ 28 มี.ค. ที่ระบุว่ามีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนววน 74.69% หรือ 38,268,375 คน เป็นข้อมูลที่เพิ่มขึ้นเมื่อได้รับรายงานเป็นเอกสารจากทุกหน่วยเลือกต้ังครบ 100% แล้ว จึงไม่ใช่กรณีที่จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติหรือเกิดจากการทุจริต


          ทั้งนี้การรายงานผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ เป็นการรวบรวมจากเอกสารรายงานผลการนับคะแนนเลือกต้ังส.ส. ในแต่ละหน่วยเลือกตั้ง ส่งมารวมกันที่เขตเลือกตั้ง ก่อนส่งไปที่จังหวัดเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง แล้วจึงส่งเอกสารผลการนับคะแนนรายเขตเลือกต้ังมายังส่วนกลาง โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้ ใช้ระยะเวลาประมาณ 5 วัน ซึ่งเท่ากับการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้มีความล่าช้าในการรายงานผลแต่อย่างใด

 

          ส่วนกรณีที่โฆษกและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมกับผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งของพรรค ในหลายพื้นที่ ร่วมกันแถลงข่าวว่าพบเห็นสิ่งผิดปกติในการลงคะแนนเลือกตั้ง หลายหน่วยเลือกตั้ง เช่น มีการลงชื่อแทนกันในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มีชื่อผู้เสียชีวิตปรากฏในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มีการข่มขู่และเข้าไปในหน่วยเลือกตั้งของเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยไม่มีอานาจ และมีการซื้อเสียงในพื้นที่ต่างๆ หากผู้แถลงข่าวมีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดังกล่าว สามารถยื่นร้องเรียนต่อ กกต.ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวนไต่สวนและวินิจฉัย หากการสอบสวนและไต่สวนพบว่ามีผู้หนึ่งผู้ใดกระทำความผิดหรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดตามที่ปรากฎข้อเท็จจริงในการแถลงข่าว กกต.จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดจนถึงที่สุด.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ