หมากเหนือชั้นปลุกกระแสชาตินิยมเขมรรักฮุนเซนก็ต้องรักเพื่อนฮุนเซน | คมชัดลึก

 ต้องบอกว่าวันนี้ (10 พ.ย.) สมเด็จฮุน เซน ได้ดูแลอารักขา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างแน่นหนาตั้งแต่ก้าวแรกที่อดีตนายกฯ ทักษิณเดินทางมาถึงสนามบินทหาร ด้วยเครื่องบินส่วนตัว

 พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมากับผู้ติดตามไม่ถึง 10 คน และจากการตรวจสอบแล้ว ไม่มีบรรดา ส.ส.จากทางฝั่งพรรคเพื่อไทยติดตามไปด้วย

 สมเด็จฮุน เซน ให้ความสำคัญกับเพื่อนรักต่างแดน โดยใช้เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหารรวมกันกว่า 100 นายต้อนรับอดีตนายกฯ ทักษิณ แถมบอดี้การ์ดที่อยู่ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณที่สุด ก็เป็นกลุ่มบอดี้การ์ดประจำตัวของฮุน เซน ด้วย

 นอกจากนี้ บรรยากาศการเตรียมงานทุกอย่าง ก็ทำราวกับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เสมือนเป็นผู้นำของกัมพูชา อีกรายเลยทีเดียว

 ดูเหมือนว่า เครือข่ายอำนาจของอดีตนายกฯ ของไทย ในถิ่นของเพื่อนรักฮุน เซน  ยังมีอิทธิฤทธิ์ที่สามารถไหว้วานให้บรรดาข้าราชการของกัมพูชาเตรียมการต่างๆ ทั้งการแถลงข่าวที่ถูกกำหนดไว้ตอน 16.00 น. แต่ต้องยกเลิกไป

 หรือ การเตรียมการสัมมนาทางเศรษฐกิจกับข้าราชการกระทรวงเศรษฐกิจและการเงินของกัมพูชาที่จะมีขึ้นตามกำหนดวันที่ 12 พฤศจิกายนด้วย

 นอกจากท่าทีของรัฐบาลแล้ว เสียงจากประชาชนชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ ดูเหมือนจะตอบรับการเดินทางมาในครั้งนี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณในทางบวก

 หลายวงสนทนานำเรื่องการเดินทางมาของอดีตนายกฯ ทักษิณ มาเป็นประเด็นหลักในวงพูดคุย

 ชาวกัมพูชาที่สนิทสนมกับคนไทย เดินทักทายกันด้วยคำถามที่ว่า "วันนี้ทักษิณมากัมพูชารู้หรือยัง?"

 ความนิยมที่อดีตนายกฯ ไทย ได้รับนี้ต้องบอกว่าเป็นผลบุญจากสมเด็จฮุน เซน ที่ประชาชนทุกหย่อมหญ้าในกัมพูชาเคารพรักอยู่มาก ทำให้ใครก็ตามที่สมเด็จฮุน เซน ตกปากว่าเป็นเพื่อน คนกัมพูชาก็จะรู้สึกดีไปด้วย

 "เฮง ลี" คนขับสามล้อ บอกว่า เขาไม่สนว่าความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชาในระดับชาติจะเป็นอย่างไร เพราะฮุน เซน เป็นคนที่พวกเขาฝากความหวังไว้ได้ และทักษิณก็ทำให้เศรษฐกิจกัมพูชาดีขึ้น

 "เสร็ง เห่ง" เจ้าของร้านขายรถจักรยานยนต์ ก็ไม่เกรงกลัวว่าจะไทยจะตัดความสัมพันธ์ทางการค้า เพราะรถมอเตอร์ไซค์ที่เขาขายอยู่ทุกวันนี้ถ้ารับจากไทยไม่ได้ เขาก็รับมาจากญี่ปุ่นได้

  ท่าทีของสมเด็จฮุน เซน ที่ให้อิสระและอำนาจแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ มาตลอดทั้งวัน ถูกตอกย้ำด้วยการจัดงานต้อนรับที่พรรคประชาชนกัมพูชา (Cambodia People Party)

 ฉากการเมืองฉากนี้ เหมือนกับ "เหยียบย่ำหัวใจคนไทย" ก็เพราะที่ทำการของพรรคประชาชนกัมพูชา อยู่ใกล้ๆ กับสถานทูตประเทศไทยประจำกรุงพนมเปญ นั่นเอง

 หลายคนอดคิดไม่ได้ว่า การจำเพาะเจาะจงเลือกที่ทำการพรรค เพื่อต้อนรับ "บุคคลที่ทางการไทย" ต้องการ แทนที่สมเด็จฮุน เซน จะเลือกบ้านพักของตัวเอง กระทั่งโรงแรมชื่อดัง ไม่อาจตีความไปอื่นใดเลยว่า สมเด็จฮุน เซน กำลังยั่วยุให้รัฐบาลไทย "ตบะแตก"

 และแม้ว่า ณ วันนี้ จะยังไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการจาก อดีตนายกฯ ไทย ว่าจะรับหรือไม่รับ เป็นกุนซือเศรษฐกิจของผู้นำเขมร

 ทว่า...ท่าทีที่สมเด็จฮุน เซน ซึ่งแบกเกียรติยศประเคนส่งให้เพื่อนรัก บนก้าวแรกที่สัมผัสแผ่นดินกัมพูชา คงไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลไทยคาดหวังว่า ประเทศเพื่อนบ้าน จะส่งผู้ร้ายข้ามแดน กลับคืนมาให้เลยแม้แต่น้อย