"เสือขาว"ไฮไลท์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

อนุชา ดำรงมณี กรรมการบริหารปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ซึ่งรับผิดชอบดูแลเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กล่าวกับ “คม ชัด ลึก” ถึงแผนพัฒนาเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีระหว่างนำทีมงานโรดโชว์ในงาน ITB 2019 ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ว่าตอนแรกจะเอาช้างมาเป็นกลุยทธ์ในการดึงนักท่องเที่ยวแต่ติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมายกฎระเบียบไซเตส จึงต้องเลือกเสือขาวมาเป็นตัวชูโรงแทน โดยเสือขาวตัวแรกนั้นได้มาจากจีนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนนี้ได้ออกลูกออกหลานมีจำนวนเพิ่มขึ้น ขณะนี้มีทั้งหมด 42 ตัว จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจำนวน 2.2 แสนคน เมื่อปีที่แล้ว กว่า 70% ตั้งใจจะมาดูเสือขาว

“ผมเพิ่งมารับตำแหน่งแค่ 6 เดือน การตลาดเมื่อก่อนเราไม่ทำเหมือนธุรกิจ คือไนท์ซาฟารีบริหารแบบธุรกิจไม่ใช่บริการประชาชนแบบสวนสัตว์ทั่วไป เพราะฉะนั้นต้องคิดแบบธุรกิจ สิ่งที่ดูตอนนี้เราจะต้องไปพัฒนาโครงพื้นฐานอินฟราสตรัคเจอร์ต่างๆ ใหม่หมด เราจะต้องไปพัฒนาตรงนั้นให้เป็นเวิลด์คราวเดสทิเนชั่น ซึ่งงบประมาณตั้งแต่ปีนี้ปีหน้าจะมุ่งไปที่การพัฒนาพื้นฐานความเป็นอยู่ของสัตว์และการท่องเที่ยวให้อยู่ในระดับเวิลด์คลาสให้ได้”

อนุชา กล่าวถึงการทำโรดโชว์ในงาน ITB 2019 ว่าเป็นครั้งแรกที่เรามาทำตลาดที่นี่ เป็นการมาเปิดตลาดใหม่เพื่อเจาะตลาดยุโรปแทนที่ยึดฐานตลาดเอเชียเพียงอย่างเดียว  โดยจีนมากที่สุดประมาณ 80% ส่วนที่เหลือก็จะเป็นคนไทยและคนเอเชีย มีฝรั่งบ้างแต่ไม่มากนัก  

“เราจะต้องหามาร์เก็ตแชร์ส่วนอื่นเข้าไปเสริมเพื่อที่จะบาลานซ์ให้ได้ สิ่งที่เรามีดีก็คือสิ่งที่เขาไม่มีในยุโรป บ้านเขาไม่มี บ้านเรามี เราจะต้องหาจุดที่เป็นซิกเนเจอร์ใครมาต้องดู สวนสัตว์ไปยืมแพนด้ามาแต่มันยังเป็นของจีน แต่เราพยายามสร้างของเรามาให้ได้ ตอนนี้จับจุดได้ว่านักท่องเที่ยวที่มาเขาชอบมาดูเสือขาว การแสดงของเสือ ทั้งสองโซนเต็มตลอด” อนุชากล่าวย้ำ