ข่าว

แบ่งเค้ก "พท. - พปชร." 5 เก้าอี้ "ชพน." 3 "ภท." 1

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นครราชสีมา - คมข่าวทั่วไทย

 

นครราชสีมา   จังหวัดนครราชสีมาหรือ โคราช เป็นประตูสู่อีสานเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทยถึง 20493.964 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ จำนวน 2,639,226 คน  แบ่งการปกครองออกเป็น 32 อำเภอ   มีเขตเลือกตั้ง จำนวน 14 เขต มีจำนวน ส.ส. 14 คน   หลังจากที่ผู้สมัครลงพื้นที่หาเสียงประกอบกับอาศัยฐานคะแนนเสียงเดิมที่หลายคนเคยเป็นแชมป์เก่า เป็นทายาทนักการเมือง เป็นนักการเมืองท้องถิ่นรวมทั้งเคยเป็นข้าราชการหรือผู้นำชุมชนในแต่ละเขตเลือกตั้งจนถึงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงพอจะวิเคราะห์และสรุปได้ว่าสนามเลือกตั้งจ.นครราชสีมาจะเป็นการชิงเก้าอี้ระหว่างผู้สมัครจาก 4 พรรคการเมือง ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย,พรรคพลังประชารัฐ,พรรคชาติพัฒนาและพรรคภูมิใจไทย โดยคู่ชิงเก้าอี้ ส.ส. 14 เขตเลือกตั้งมีดังนี้

 

 

 

เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอเมืองนครราชสีมา เฉพาะตำบลในเมือง ตำบลหนองจะบก ตำบลโพธิ์กลาง และตำบลหนองไผ่ล้อม  

เขตนี้เดิมเป็นเมืองหลวงหรือเป็นเขตหัวใจของพรรคชาติพัฒนาแชมป์เก่าจากการนำของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา โดยศึกเลือกตั้งครั้งนี้”สุวัจน์”ได้ปรับกลยุทธ์หวังจะรักษาเมืองหลวงของพรรคเอาไว้โดยดึงเอา”ธงชัย ลืออดุลย์” อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาผู้ซึ่งมีผลงานโดดเด่นในการรื้อถอนร้านอาหารบริเวณ”มอปลาย่าง”ที่รุกล้ำเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้วและปล่อยสิ่งปฏิกูลลงเขื่อนมานานจนได้รับคำชื่นชมจากคนโคราช รวมทั้งมีผลงานผลักดันให้มีการผันน้ำจากเขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มาใช้ผลิตประปาในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาเป็นผลสำเร็จ มาลงรักษาเก้าอี้ในเขตนี้แทน”นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล” และ”เทวัญ ลิปตพัลลภ” ในขณะที่พรรคเพื่อไทย “คุณหญิงสุดารัตน์  เกยุราพันธ์”และ”ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ก็ได้ส่ง “ร.ต.อ.สุปชัย อินทรักษา”หรือ นายกหลี อดีตรองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาและอดีตนายกเทศมนตรีตำบลปรุใหญ่ อ.เมืองนครราชสีมา และยังเคยเป็นอดีตเลขานุการของ”สุวัจน์ ลิปตพัลลภ”อีกด้วย ส่วนพรรคพลังประชารัฐโดย”วิรัช รัตนเศรษฐ”แกนนำโคราชส่ง”นายเกษม ศุภรานนท์” อดีต ผอ.รร.อนุบาลนครราชสีมา ลงสู้ศึก  

ด้านพรรคภูมิใจไทย  ส่ง”อดุลย์ อยู่ยืน” อดีตสจ.เขตอำเภอเมืองนครราชสีมาซึ่งเคยเป็น สจ.ในสังกัด”ชาติพัฒนา”ลงชิงเก้าอี้ ซึ่งศึกเลือกตั้งครั้งนี้”สุวัจน์”ทุ่มสุดตัวและมั่นใจในความนิยมของชาวโคราชที่มีต่อ”ธงชัย  ลืออดุลย์” อดีตผู้ว่าฯนครราชสีมา ที่ฝากผลงานไว้หลายเรื่องก่อนเกษียณอายุราชการ โดยมี”สุรวุฒิ เชิดชัย”นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาและ สจ.ของพรรคชาติพัฒนาเป็นหัวหอกทำการบ้านให้อย่างหนักมาตลอด “สุวัจน์”จึงมั่นใจจะรักษาเก้าอี้เขต 1 ดัน”ธงชัย”เข้าสภาได้ โดยจะมี”สุปชัย (นายกหลี) อินทรักษา” จากเพื่อไทยเบียดมาแบบหายใจรดต้นคอ และยังมี”อดุลย์ อยู่ยืน”จากภูมิใจไทยและ”เกษม ศุภรานนท์”จากพลังประชารัฐจะเป็นตัวสอดแทรก ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ส่ง”ทนายชุบ ชัยฤทธิ์ไชย”  หวังแบ่งคะแนนปาร์ตี้ลีสต์

 

 

 

แบ่งเค้ก "พท. - พปชร." 5 เก้าอี้ "ชพน." 3 "ภท." 1

 

 

 

เขตเลือกตั้งที่ 2 อำเภอเมืองนครราชสีมา เฉพาะตำบลจอหอ ตำบลบ้านใหม่ ตำบลหมื่นไวย ตำบลโคกสูง ตำบลพุดซา ตำบลบ้านโพธิ์ ตำบลหนองกระทุ่ม ตำบลตลาด ตำบลสีมุม ตำบลหนองไข่น้ำ ตำบลบ้านเกาะ ตำบลมะเริง ตำบลพลกรัง ตำบลโคกกรวด และตำบลสุรนารี   

สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 2 นี้ การแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ถึงแม้จะมีการโยก 4 ตำบลไปอยู่เขตเลือกตั้งอื่นแต่ 7 ตำบลที่มาเพิ่มก็เป็นฐานเสียงเดิมของพรรคชาติพัฒนา”วัชรพล โตมรศักดิ์”แชมป์เก่าจากชาติพัฒนาซึ่งมีผลงานและสร้างชื่อเสียงทางด้านกีฬามาตลอดไม่ว่าจะเป็นทีมฟุตบอลนครราชสีมา  มาสด้า เอฟซี หรือ”สวาทแคท”ที่เลื่อนชั้นจากดิวิชั่น 1 ขึ้นสู่ไทยลีกและทีมวอลเลย์บอลนครราชสีมาทั้งชายและหญิงที่ดึงผู้เล่นทีมชาติมาอยู่ในทีมครบครันล้วนเป็นผลงานของ”วัชรพล” ทั้งสิ้น ประกอบกับเจ้าตัวมีบุคลิกอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอต้นเสมอปลายเป็นนักประสานสิบทิศเข้าได้กับทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน พรรคชาติพัฒนาจึงมั่นใจว่า"วัชรพล"จะรักษาเก้าอี้ไว้ได้อีกสมัยโดยมี ”สุธรรม พรสันเทียะ”นักธุรกิจบ้านจัดสรรจากเพื่อไทยและ “ ประพิศ  นวมโคกสูง”อดีตครู รร.อนุบาลนครราชสีมา จากพลังประชารัฐ   และ”ลบพาล  ธีระบุตร” นักธุรกิจบ้านจัดสรรจากภูมิใจไทย ลงสนามท้าชิงเก้าอี้

 

 

 

เขตเลือกตั้งที่ 3 อำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสอและ อำเภอสีคิ้ว เฉพาะตำบลสีคิ้ว ตำบลลาดบัวขาว
ตำบลหนองน้ำใส ตำบลคลองไผ่  ตำบลมิตรภาพ และตำบลหนองหญ้าขาว

เขตนี้เดิม”ประเสริฐ บุญชัยสุข”อดีต รมว.อุตสาหกรรมและอดีตเลขาธิการพรรคชาติพัฒนาเป็นแชมป์เก่ามีฐานเสียงหลักในอำเภอขามทะเลสอและอำเภอสูงเนิน แต่ศึกเลือกตั้งครั้งนี้หลังมีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่”ประเสริฐ จันทรรวงทอง”อดีต รมช.คมนาคมจากเพื่อไทยได้รับผลกระทบเต็มๆเพราะอำเภอสีคิ้วซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญของ”ประเสริฐ จันทรรวงทอง”มาตลอดถูกผ่าออกเป็น 2 เขตเลือกตั้ง ทำให้”ประเสริฐ” ต้องผันตัวเองมาลงสมัครในเขตเลือกตั้งที่ 3 แทน เพราะ 6 ตำบลของอ.สีคิ้วฐานเสียงเดิมของประเสริฐฯกว่า 8 หมื่นคะแนนมาอยู่ในเขตนี้ นอกจากนี้พรรคพลังประชารัฐยังส่ง “จันทิมา  โกสินทร์รักษา อดีต” นายก อบต.หนองตะไก้ อ.สูงเนิน มาท้าชิงเก้าอี้อีกด้วย  ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็ยังยืนยันส่ง“รักชาติ กิริวัฒนศักดิ์ “อดีตนายก อบจ.นครราชสีมาและอดีต สจ.เขตอำเภอสูงเนิน ลงสู้ศึก จึงถือได้ว่าสนามเลือกตั้งเขต 3 นี้ เป็นศึกช้างชนช้างโดยแท้ของจ.นครราชสีมา เพราะทั้งชาติพัฒนาโดย”สุวัจน์ ลิปตพัลลภ”ประกาศชัดเจนว่าสนามนี้ชาติพัฒนาเป็นแชมป์เก่าแพ้ไม่ได้เด็ดขาด ส่วนเพื่อไทย”ประเสริฐ จันทรรวงทอง”ซึ่งเป็นประธานรับผิดชอบผู้สมัคร ส.ส.จ.นครราชสีมาทั้ง 14 เขตเลือกตั้งก็ยิ่งต้องแพ้ไม่ได้เช่นกัน คอการเมืองฟันธง “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” จากเพื่อไทยน่าจะเบียดกับ”ประเสริฐ บุญชัยสุข” จากชาติพัฒนาอย่างสนุก

 

 

 

เขตเลือกตั้งที่ 4 อำเภอโนนสูงและ อำเภอโนนไทย เฉพาะตำบลกำปัง ตำบลถนนโพธิ์ ตำบลสำโรง ตำบลด่านจาก และตำบลมะค่า อำเภอพิมาย เฉพาะตำบลสัมฤทธิ์ ตำบลท่าหลวง ตำบลกระเบื้องใหญ่ และตำบลชีวาน

สนามเลือกตั้งนี้ เดิม”ทัศนียา รัตนเศรษฐ” อดีต ส.ส.เพื่อไทยภริยาของ”วิรัช รัตนเศรษฐ” เป็นแชมป์เก่าเจ้าของเก้าอี้ แต่เลือกตั้งครั้งนี้ย้ายไปซบ”พลังประชารัฐ” และ”วิรัช”ก็จัดการโยก”ทัศนียา”ไปลงสมัครในเขตเลือกตั้งที่ 7 (อำเภอพิมาย-ชุมพวง) เปิดทางให้บุตรชาย”ทวิรัฐ รัตนเศรษฐ” มาลงแทน  โดยมี “สมเกียรติ ตันดิลกตระกูล”อดีต สจ.อำเภอโนนสูง จากภูมิใจไทยและ”จักรกฤช  ผาสุกมูล”   นักธุรกิจคนรุ่นใหม่จากเพื่อไทย เป็นสองผู้ท้าชิง  คอการเมืองฟันธงเขตนี้สู้กันมันหยด”วิรัช”น่าจะดัน “ทวิรัฐ”ลูกชายเข้าสภาได้แต่ก็ประมาททั้ง”จักรกฤช”  จากเพื่อไทยและ”สมเกียรติ”จาก ภูมิใจไทยไม่ได้เช่นเดียวกัน

 

 

 

เขตเลือกตั้งที่ 5 อำเภอบัวใหญ่ อำเภอแก้งสนามนาง อำเภอบัวลาย อำเภอสีดา อำเภอบ้านเหลื่อม

 เขตนี้เดิม”โกศล  ปัทมะ” จากเพื่อไทยเป็นแชมป์เก่า ครั้งนี้”โกศล”ต้องพบกับศึกหนักเพราะพรรคพลังประชารัฐส่ง”ดร.อรทัย  พลวิเศษ” ภรรยาของ”ภิรมย์ พลวิเศษ” เลขานุการ“นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ”ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐมาท้าชิงเก้าอี้  โดยสนามนี้”สุริยะ” บอกกับ”ภิรมย์”ต้องเต็มที่”อรทัย”แพ้ไม่ได้เด็ดขาด  ส่วน”สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์”และ”นพดล ปัทมะ” จากเพื่อไทยก็กำชับ”โกศล”ว่าต้องรักษาเก้าอี้แชมป์เก่าไว้ให้ได้เสียเท่าไรก็ยอม คอการเมืองจึงเชื่อกันว่า สนามเลือกตั้งเขตนี้”โกศล”กับ”อรทัย”จะสู้กันถึงขั้นฏีกาเลยทีเดียว

 

 

 

เขตเลือกตั้งที่ 6 อำเภอประทาย อำเภอโนนแดง อำเภอเมืองยาง อำเภอลำทะเมนชัยและ อำเภอคง 
เฉพาะตำบลเทพาลัย ตำบลขามสมบูรณ์ และตำบลตาจั่น  

สนามนี้เดิม “อธิรัฐ รัตนเศรษฐ” หรือปลัดแบ้งค์ จากเพื่อไทยเป็นเจ้าของเก้าอี้ เลือกตั้งครั้งนี้”อธิรัฐ” ย้ายไปซบพลังประชารัฐพร้อมกับครอบครัว”รัตนเศรษฐ”มีฐานเสียงหลักที่อ.ประทายและอ.โนนแดง แต่สนามนี้”อธิรัฐ”ต้องสู้กับกระแสพรรค”เพื่อไทย” โดยเพื่อไทยส่ง”สมชาย ภิญโญ” อดีต สจ.อำเภอแก้งสนามนางน้องชาย”สุชาติ ภิญโญ” อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เป็นผู้ท้าชิงแต่ทั้งสองคนจะประมาท”ราเมศ  เรืองธนานุรักษ์”อดีต สจ.อำเภอประทายจากภูมิใจไทย ไม่ได้เพราะ"ราเมศ"พร้อมที่จะเป็นตัวสอดแทรกได้ตลอดเวลา คอการเมืองฟันธงพรรคพลังประชารัฐโดย “วิรัช รัตนเศรษฐ”จะดัน"อธิรัฐ รัตนเศรษฐ" บุตรชาย แบบสุดตัวเพื่อรักษาเก้าอี้โดยมี”สมชาย ภิญโญ”จากเพื่อไทยเบียดมาติดๆ

 

 

 

เขตเลือกตั้งที่ 7 อำเภอชุมพวงและ อำเภอพิมาย ยกเว้นตำบลสัมฤทธิ์ ตำบลท่าหลวง ตำบลกระเบื้องใหญ่ และตำบลชีวาน

สนามเลือกตั้งเขตนี้เดิม”จรูญพงศ์  พันธุ์ศรีนคร”หรือ ส.จ.แดง จากพรรคเพื่อไทยเป็นแชมป์เก่ามีฐานเสียงสำคัญในอำเภอพิมายคอยสนับสนุน แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ”จรูญพงศ์” เมื่อต้องพบกับศึกหนักโดยพรรคพลังประชารัฐที่ได้เปรียบทั้งเรื่องผลงานและอำนาจรัฐโดย”วิรัช รัตนเศรษฐ” โยกเอา”ทัศนียา รัตนเศรษฐ” ศรีภรรยามาลงสมัครในเขตนี้ หวังล้ม”จรูญพงศ์” จากเพื่อไทยโดยเฉพาะซึ่ง”วิรัช” ตั้งเป้าโกยคะแนนเขตอำเภอชุมพวงทั้งอำเภอให้ได้มากที่สุดเพราะเป็นฐานเสียงหลักโดยมี”กลวัชร  อึ้งสวัสดิ์ ”อดีต สจ.อำเภอชุมพวง จากพรรคภูมิใจไทย เป็นตัวสอดแทรก  ฟันธงเขตนี้"ทัศนียา"จากพลังประชารัฐน่าจะเหนือกว่าโดยมี”จรูญพงศ์” จากเพื่อไทยหายใจรดต้นคอ

 

 

 

เขตเลือกตั้งที่ 8 อำเภอห้วยแถลง, อำเภอจักราช และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ

สนามเลือกตั้งเขตนี้ถือเป็นสนามช้างชนช้างอีกสนามหนึ่งของจ.นครราชสีมา เดิม”พลพีร์ สุวรรณฉวี”บุตรชาย"ว่าที่ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี"นายก อบจ.นครราชสีมา จากพรรคเพื่อไทยเป็นแชมป์เก่า แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ “พลพีร์”ย้ายไปซบ”ภูมิใจไทย” มีฐานเสียงหลักในเขตอ.จักราช เลือกตั้งครั้งนี้ “พลพีร์”ต้องพบกับศึกหนักเมื่อ”วิรัช  รัตนเศรษฐ”จากพลังประชารัฐ ดัน”ทัศนาพร เกษเมธีการุณ”น้องสาว”ทัศนียา รัตนเศรษฐ”ภรรยาตนเองลงสมัคร โดย”ทัศนาพร”เป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำบลห้วยแถลงมีฐานเสียงหลักในเขตอ.ห้วยแถลง  ส่วนพรรคเพื่อไทยส่ง”ประชาธิปไตย คำสิงห์นอก” แมวเก้าชีวิตลงท้าชิงเก้าอี้  สนามนี้เชื่อกันว่า”ทัศนาพร”จากพลังประชารัฐเหนือกว่า”พลพีร์”จากภูมิใจไทยอยู่เล็กน้อย แต่ทั้งสองก็มีของพร้อมปล่อยตลอดเวลาคอการเมืองเชื่อว่าจะสู้กันจนนาทีสุดท้าย

 

 

 

เขตเลือกตั้งที่ 9 อำเภอโชคชัย อำเภอหนองบุญมาก อำเภอเมืองนครราชสีมา เฉพาะตำบลหัวทะเล
ตำบลหนองระเวียง และตำบลพะเนา

สนามนี้ เดิม “บุญจง วงศ์ไตรรัตน์” อดีต รมช.มหาดไทย จากภูมิใจไทยเป็นแชมป์เก่า เลือกตั้งครั้งนี้”บุญจง”ย้ายไปซบ”พลังประชารัฐ” ขยันลงพื้นที่ทำการบ้านมาตลอดเพื่อหวังรักษาเก้าอี้ไว้ให้ได้โดยมี”ปื๊ด” อภิชา เลิศพัชรกมล” อดีตผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย ที่ย้ายมาซบภูมิใจไทยท้าลงชิงเก้าอี้ โดยทั้ง”บุญจง”และ”อภิชา”มีฐานเสียงหลักในอ.โชคชัยและอ.หนองบุญมาก ส่วนพรรคชาติพัฒนาส่งอดีต สจ.เขตอ.เมืองนครราชสีมา “องอาจ พฤกษ์พนาเวศ” ลงท้าชิงเก้าอี้ โดย”องอาจ”มีฐานเสียงในเขต 3 ตำบลของอ.เมืองนครราชสีมา  และที่ฮือฮาคือพรรคเพื่อไทยส่ง “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” ลงสนามท้าชิงเก้าอี้โดย”อนุสรณ์”อาศัยกระแสพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก คอการเมืองยังยืนข้าง”บุญจง” จากพลังประชารัฐ แชมป์เก่ามาหลายสมัยน่าจะรักษาเก้าอี้ไว้ได้โดยมี”อภิชา”จากภูมิใจไทยหายใจรดต้นคอและยังประมาท”อนุสรณ์” จากเพื่อไทยและ”องอาจ”จากชาติพัฒนาไม่ได้เช่นกัน

 

 

 

เขตเลือกตั้งที่ 10 อำเภอครบุรี อำเภอเสิงสาง อำเภอวังน้ำเขียว เฉพาะตำบลวังน้ำเขียว และตำบลไทยสามัคคี

เขตเลือกตั้งนี้ถือเป็นสนามช้างชนช้างของจ.นครราชสีมาอย่างแท้จริง เดิม”สัมภาษณ์ อัตถาวงศ์” พี่ชาย”สุภรณ์ อัตถาวงศ์”แรมโบ้อีสาน จากเพื่อไทยเป็นแชมป์เก่า แต่เลือกตั้งครั้งนี้”สุภรณ์” และ”สัมภาษณ์  อัตถาวงศ์” ย้ายไปอยู่พลังประชารัฐ โดย “สุภรณ์”  โดย”สุภรณ์”ลงสมัครแทนพี่ชายและต้องพบศึกหนักเมื่อ”วีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล”กำนันป้อ อดีต สว.นครราชสีมา เจ้าของโรงแป้งมันสำปะหลังเอี่ยมเฮง เสิงสาง และปัจจุบันเป็นแกนนำพรรคภูมิใจไทย ส่ง “พรชัย  อำนวยทรัพย์” อดีตสจ.เขตอ.เสิงสาง ลงชิงเก้าอี้ โดย”วีระศักดิ์”ทำการบ้านวางแผนกักตุนคะแนนเสียงมานานอย่างต่อเนื่องโดยฐานเสียงหลักเป็นเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่อ.เสิงสางและอ.ครบุรีแต่ขณะเดียวกัน”สุภรณ์”แรมโบ้อีสาน จากพลังประชารัฐก็ขยันลงพื้นที่เป็นขวัญใจชาวบ้านมาตลอด  ส่วนพรรคเพื่อไทยส่ง”พ.ต.อ.ปฏิวัติ  นาคำ” อดีตนายตำรวจที่ลาออกมาลงสนามท้าชิงเก้าอี้ ส.ส.เขตนี้ คอการเมืองฟันธงเขตนี้”พรชัย”และ”สุภรณ์”จะสู้กันแบบดุเดือดถือเป็นสนามช้างชนช้างอีกแห่งของเมืองโคราชเพราะต่างคนต่างมีลูกพี่คอยส่งเสบียงสนับสนุนในสนามรบเต็มที่ผลแพ้ชนะน่าจะเฉือนกันแบบเฉียดฉิว

 

 

 

เขตเลือกตั้งที่ 11 อำเภอปักธงชัย อำเภอวังน้ำเขียว  ยกเว้นตำบลวังน้ำเขียว และตำบลไทยสามัคคี อำเภอเมืองนครราชสีมา เฉพาะตำบลหนองบัวศาลา และตำบลไชยมงคล อำเภอปากช่อง เฉพาะตำบลวังกระทะ

เขตเลือกตั้งนี้  เดิม”ประนอม โพธิ์คำ” จากพรรคเพื่อไทยเป็นแชมป์เก่า แต่เลือกตั้งครั้งนี้”ประนอม” ย้ายไปซบพลังประชารัฐและลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อเพื่อหลีกทางให้ “สมศักดิ์ พันธุ์เกษม” อดีต ส.ส.นครราชสีมา ที่ย้ายมาจากพรรคชาติพัฒนา ลงสมัครแทนโดยสมศักดิ์ฯมีฐานเสียงหลักในเขตอ.ปักธงชัย  และจากการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ใหม่มีการแยก 2 ตำบล ของอ.วังน้ำเขียวประกอบด้วย ตำบลวังน้ำเขียวและตำบลไทยสามัคคี ไปอยู่เขตเลือกตั้งที่ 10 ส่งผลให้พื้นที่หาเสียงเอื้อกับ”สมศักดิ์ พันธุ์เกษม” ค่อนข้างชัดเจนเพราะ”สมศักดิ์”เคยแพ้”ประนอม”ใน 2 ตำบลนี้มาก่อน  ส่วนพรรคชาติพัฒนาส่ง”ไกรสีห์ หล่อธราประเสริฐ” ตี๋น้อย ลงสู้ศึก ส่วนพรรคเพื่อไทย ส่ง”วรพล บวรลัทธพล”และพรรคภูมิใจไทยส่ง “นรเสฏฐ์ ศิริโรจนกุล” ลงเป็นตัวสอดแทรก  คอการเมืองฟันธง”สมศักดิ์”จาก พปชร.น่าจะคว้าเก้าอี้ไปครองได้แบบไม่เหนื่อยมากนัก

 

 

 

เขตเลือกตั้งที่ 12 อำเภอปากช่อง ยกเว้นตำบลวังกระทะ

สนามเลือกตั้งเขตนี้ในการเลือกตั้งปี 2557 เสี่ยเคี้ยง “ศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ” จากเพื่อไทยเป็นแชมป์เก่าครั้งนี้”ศิรสิทธิ์”ยังคงปักหลักอยู่พรรคเพื่อไทยไม่สนแรงดูดโดยฐานเสียงหลักของ”เสี่ยเคี้ยง”อยู่ในเขตอ.ปากช่อง โดยมี”นายอัฏฐกร อินทร์ศร”อดีต สจ.เขตอำเภอปากช่อง จากพลังประชารัฐเป็นคู่ท้าชิง และมี”นายมิชา พงษ์สว่าง”อดีต นายก อบต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง สวมเสื้อภูมิใจไทยลงสู้ศึกโดยมี”อนุทิน ชาญวีรกุล” หัวหน้าพรรคฯที่บ้านพักอยู่เขาใหญ่คอยเป็นกุนซือ  นอกจากนี้พรรคชาติพัฒนายังส่ง”นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์”อดีตสว.นครราชสีมา และอดีต ผวจ.นครพนม  ที่”สุวัจน์”หมายมั่นว่าเขตนี้น่าจะเป็นเป้าหมายของชาติพัฒนาอีกหนึ่งเขตได้   คอการเมืองฟันธงว่าเขตเลือกตั้งที่ 12 เป็นสนามช้างชนช้างอีกเขตหนึ่งของจ.นครราชสีมา โดย”ศิรสิทธิ์”จากเพื่อไทยในฐานะแชมป์เก่าน่าจะเหนือคู่แข่งอยู่นิดๆผลแพ้ชนะคะแนนสูสีแบบหายใจรดต้นคอเลยทีเดียว

 

 

 

เขตเลือกตั้งที่ 13 อำเภอด่านขุนทด อำเภอเทพารักษ์ อำเภอสีคิ้ว ยกเว้นตำบลสีคิ้ว ตำบลลาดบัวขาว
ตำบลหนองน้ำใส ตำบลคลองไผ่ ตำบลมิตรภาพ และตำบลหนองหญ้าขาว

เดิมสนามนี้ ”วิสิทธิ์ พิทยาภรณ์” หรือ ส.ส.ต๋อง จากภูมิใจไทยเป็นแชมป์เก่าเจ้าของเก้าอี้ ซึ่งเลือกตั้งครั้งนี้”วิสิทธิ์”ยังคงอยู่กับ”ภูมิใจไทย” ฐานเสียงหลักของ”วิสิทธิ์”อยู่ในเขตอำเภอด่านขุนทด โดยมี”รชตะ ด่านกุล” อดีต สจ.ด่านขุนทด จากพรรคเพื่อไทยที่มีฐานเสียงและผู้สนับสนุนหลักอยู่ในเขตตัวอำเภอด่านขุนทดและยังหวังฐานเสียงเดิมของ”ประเสริฐ จันทรรวงทอง” จาก 6 ตำบล ของอ.สีคิ้วที่แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่กว่า 42,000 เสียง มาช่วยเติมพลัง และนอกจากนี้ยังมีนักการเมืองรุ่นเก๋าอย่าง”จำลอง ครุฑขุนทด”อดีต รมช.ศึกษาธิการ จากพลังประชารัฐ มาลงชิงชัยอีกคนโดย”จำลอง” เป็นชาวอ.ด่านขุนทดโดยกำเนิดมีฐานเสียงในเขตด่านขุนทดและอ.เทพารักษ์ สนับสนุนเช่นกัน และ”สุวัจน์ ลิปตพัลลถ” จากชาติพัฒนาตัดสินใจส่งลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ “ดร.สำเร็จ วงษ์ศักดา”อดีตผอ.วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ อ.ด่านขุนทดที่มีลูกศิษย์กระจายอยู่ทั่วทั้งอำเภอลงชิงเก้าอี้ โดยเขตนี้คอการเมืองฟันธงซดกันมันส์หยดแน่ผลแพ้ชนะน่าจะเบียดกันระหว่าง”รชตะ”จากเพื่อไทย, “ดร.สำเร็จ” จากพรรคชาติพัฒนา,”วิสิทธิ์”จากภูมิใจไทย โดยมี”จำลอง”จากพลังประชารัฐพร้อมที่จะสอดแทรกอยู่ตลอดเวลา

 

 

 

เขตเลือกตั้งที่ 14 อำเภอขามสะแกแสง อำเภอพระทองคำ อำเภอคง ยกเว้นตำบลเทพาลัย ตำบลขามสมบูรณ์ และตำบลตาจั่น อำเภอโนนไทย ยกเว้นตำบลกำปัง ตำบลถนนโพธิ์ ตำบลสำโรง ตำบลด่านจาก
และตำบลมะค่า

 

 

 

แบ่งเค้ก "พท. - พปชร." 5 เก้าอี้ "ชพน." 3 "ภท." 1

 

 

 

เขตเลือกตั้งนี้ เดิม “สุชาติ ภิญโญ” จากเพื่อไทยเป็นเจ้าของเก้าอี้ เลือกตั้งครั้งนี้ได้ 5 ตำบลของอ.โนนไทยมาเพิ่มอีก โดยฐานเสียงหลักของ”สุชาติ”อยู่ในเขตอ.คงและอ.ขามสะแกแสง แต่ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นงานหนักของเพื่อไทย เพราะพลังประชารัฐส่ง “ดร.พจน์ เจริญสันเทียะ” อดีต ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครราชสีมา เขต 5  มาท้าชิงเก้าอี้โดยฐานเสียงหลักของ”ดร.พจน์”อยู่ในกลุ่มครู นอกจากนี้พรรคภูมิใจไทยยังส่ง “ไพศาล เกียรติชัยพัฒน” กำนันตำบลเมืองคง อ.คง มาเป็นคู่ท้าชิงอีกคน โดยฐานเสียงหลักของ”กำนันไพศาล” อยู่ที่กำนันและผู้ใหญ่บ้านในเขตอ.คงและอ.ขามสะแกแสง ซึ่งเขตเลือกตั้งนี้”สุชาติ” จากเพื่อไทย น่าจะเบียดเอาชนะได้โดยมี”กำนันไพศาล”จากภูมิใจไทยและ”ดร.พจน์”จากพลังประชารัฐคอยเป็นก้างขวางคอ

สรุปแล้วสนามเลือกตั้งจ.นครราชสีมาที่มี ส.ส.ทั้งหมด 14  ที่นั่ง คาดว่า พรรคเพื่อไทยน่าจะได้ไป 5 ที่นั่ง, พรรคพลังประชารัฐ 5 ที่นั่ง,พรรคชาติพัฒนา 3 ที่นั่งและภูมิใจไทย 1 ที่นั่ง

 

 

 

แบ่งเค้ก "พท. - พปชร." 5 เก้าอี้ "ชพน." 3 "ภท." 1

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ