รวบ "ไอ้แบงค์" ปล้นรถขนเงิน 7.2 ล้าน

      สน.หนองค้างพลู - เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย  พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.กัมปนาท โสภโณดร ผบก.น.9 พ.ต.อ.นพศิลป์ พลูสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายจิรายุส หรือแบงค์ สวนมิ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลตลิ่งชัน ที่จ.79/2562 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ในฐานความผิด”ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีและใช้อาวุธขู่เข็ญชิ่งทรัพย์ โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นการจับกุม ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน” พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก 125i สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

           พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ มีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 2 ราย ขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ยิงข่มขู่จี้ชิงทรัพย์รถขนเงิน ขณะทางพนักงานรถขนเงิน บริษัท BRINKS จำนวน 2 คน ได้เบิกเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เอ๊กตร้า ถนนเพชรเกษม กทม. เพื่อเตรียมนำไปเก็บรักษาชั่วคราวยังรถขนเงินของ บริษัท BRINKS ซึ่งเป็นเงินสด จำนวน 7,270,000 บาท โดยระหว่างรอขึ้นเงินส่วนอื่นอยู่นั้นจู่ๆมีคนร้าย 2 ราย ขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ pcx สีดำ แผ่นป้ายทะเบียน 5กว 8564  กทม. หรือ 5กว 8764 กทม. ( ป้ายทะเบียนได้จากทางพยานในที่เกิดเหตุเห็น) ซึ่งเป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ โดยคนซ้อนลงมาแล้วใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า 1 นัด เป็นเหตุให้พนักงานขนเงินรีบวิ่งหลบวิ่งหนีไป 1 ราย จากนั้นคนร้ายได้ข่มขู่พนักงานอีกคนที่ถือถุงเงินอยู่ให้ส่งมาให้ ก่อนพนักงานตัดสินใจโยนถุงเงินให้คนร้ายก่อนลากถุงเงินขึ้นรถแล้วเปลี่ยนมาเป็นคนขี่ก่อนพากันหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาในการก่อเหตุเพียงแค่ 10 วินาที เหตุเกิดบริเวณหน้าทางเข้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เอ๊กตร้า ถนนเพชรเกษม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม.

               พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า ต่อมาวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เจ้าที่ตำรวจสามารถติดตามและสืบสวนกระทั่งออกหมายจับ ผู้ต้องหาได้ทั้ง 2 รายคือ นายทักษ์ดนัย หรือ กอล์ฟ เหนี่ยวรั้งใจ อายุ 27 ปี หมายจับเลขที่ จ.78/2562 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ และนายจิรายุส หรือแบงค์ สวนมิ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลตลิ่งชัน ที่จ.79/2562 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ในฐานความผิด”ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีและใช้อาวุธ ขู่เข็ญเพื่อมห้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์ โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นการจับกุม ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน” 

             พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า ช่วงเย็นในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลังเข้าจับกุมตัว นายจิรายุส ซึ่งเป็นคนซ้อนท้ายได้ที่ย่านบางบอน จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุกับนายทักษ์ดนัย ซึ่งก่อนก่อเหตุประมาณ 2 วันได้มาดูลาดเลา บริเวณหน้าทางเข้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เอ๊กตร้า จนพบว่าข่วงเวลา 18.00-20.00 น. พนักงานของบริษัท รักษาความปลอดภัย BRINKS จำกัด จะมีการนำรถมาจอดหน้าอาคารห้างสรรพสินค้า และขึ้นไปเบิกเงินจากธนาคารและนำเงินใส่ถุงขึ้นรถขนเงินไป คนร้ายจึงได้ลงเมื่อก่อเหตุก่อหลบหนีไป  

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะควบคุมตัวนายจิรายุส อยู่นั้น นางขนิษฐา นาถะภักติ วัย 35 ปี มารดาของนายจิรายุส ได้เดินทางมาสังเกตการณ์ในการสอบปากคำของลูกชาย พร้อมเปิดเผยว่า ตนและสามีแยกทางกัน โดยนายจิรายุสไปอาศัยอยู่กับย่า ปกติพวกตนไม่ค่อยได้ติดต่อกัน เจอครั้งสุดท้ายสัปดาห์ที่แล้ว และยังขอเงินไปตัดผม 200 บาท วินาทีแรกที่ทราบเรื่องตนช็อคมาก ไม่คิดว่าลูกชายจะก่อเหตุถึง 2 ครั้ง แต่เชื่อว่าลูกจะไม่ทำสิ่งไม่ดีหากไม่มีคนชักชวน ตอนนี้อยากกอดลูก และอยากให้ลูกยอมรับผิด โทษจะได้เบาลง  

           ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายจิรายุส​ สวนมิ​ มาตรวจค้นห้องพักภายในซอยเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้​  4/1-1 ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้​ แขวงและเขตหนองแขม​ กรุงเทพ​ โดยตำรสจสืบทราบว่า​ ภายหลังจากเกิดเหตุนายทักษดนัย​ ได้เป็นคนเข้ามาเซ็นต์สัญญาเช่า​ จากการตรวจภายในห้องพบเพียงกระเป๋าสะพายสีดำ​ 2 ใบ​ ภายในมีเงินสดซุกซ่อนอยู่

           ทางด้าน​ พล.ต.อ.จักรทิพย์​ ชัยจินดา​ ผบ.ตร.เปิดเผยว่า​ ทางตำรวจได้​สืบทราบว่า​ นายทักษดนัย ได้เข้ามาเซ็นต์สัญญาเช่าทันทีหลังเกิดเหตุ​ โดยมีสัญญาเช่า​ ระบุวันที่​ 25​ ก.พ.​ และตรวจค้นภายในห้องพัก​ พบกระเป๋าเป้สีดำ​ 2  ใบ​ ภายในมีเงินสดซุกซ่อนอยู่​ 3,600,000 บาท​ แต่ไม่พบอาวุธปืน​ เบื้องต้นได้สั่งการให้หาอาวุธปืนโดยเร็ว​ และเกรงว่าคนร้ายที่หลบหนีจะคิดสู้​ จึงกำชับให้เจ้าหน้าดำเนินการด้วยความระมัดระวัง

             ด้าน​ พล.ต.ต.อิทธิพล​ อัจฉริยะประดิษฐ์​ ผบก.สส.บช.น.​ เปิดเผยว่า​ ทาง​ ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำให้เร่งติดตามจับกุมนายทักษ์ดนัย​ หรือกอล์ฟ​ เหนี่ยวรั้งใจ โดยเร็ว​ เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน​ สำหรับคนร้ายจะชอบสะพายกระเป๋าข้าง​ ใส่กางเกงขาสามส่วน​ และใส่รองเท้าแตะ​ ทั้งนี้ตำรวจได้ตั้งรางวัลผู้ให้เบาะแส​ จำนวน​ 50,000​ บาท​ หรือ​ โทรศัพท์​ มาที่เบอร์โทรศัพท์​ 062-879-2453​ ได้ตลอด​ 24​ ชั่วโมง