เที่ยวเชิงอนุรักษ์"บ้านโคกไคร"แช่น้ำเค็มร้อน-ชมปูมดแดง | คมชัดลึก

สโลแกนของแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งนี้ คือ ทุ่งสาหร่าย หาดทรายร้อน ดอนหอบตลับ กองทัพปูแดง แหล่งชุมชนโบราณ ตำนานสองพี่น้อง ลำคลองปันแดน หมื่นแสนภูมิปัญญา เรียนรู้ค่าสมุนไพร

 นิกร สาระการ วัย 45 ปี หรือ "บังอิบ" หนึ่งในผู้บุกเบิกการท่องเที่ยว และกรรมการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านโคกไคร เล่าว่า เดิมเขาเป็นครูสอนพิมพ์ลายผ้าบาติกที่เกาะยาว จ.พังงา แต่ประทับใจกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์จึงนำแนวคิดมาประยุกต์ใช้ในชุมชน

 การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่บ้านโคกไครก็มีดีไม่แพ้เกาะยาวเช่นกัน กระนั้น บังอิบ และเพื่อนร่วมอุดมการณ์กลับมิได้ท้อถอย ตั้งใจที่จะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เพื่อลบคำสบประมาทให้ได้ โดยเริ่มจากการพัฒนาพื้นที่ "หาดตั้งเลน" หรือ "เขาตั้งเลน" ที่มีชายหาดขาวบริสุทธิ์ แต่จะได้ยลความงามเฉพาะช่วงที่น้ำลดเท่านั้น

 ส่วนจุดขายสำคัญของหาดตั้งเลน คือ "ปูมดแดง" ที่จะกรูออกมาจากรูนับแสนๆ ตัวในช่วงที่น้ำลด ซึ่งเป็นภาพธรรมชาติที่สวยงาม และน่าตื่นตาตื่นใจมาก แถมปูชนิดนี้ยังพบเห็นได้เฉพาะที่นี่ที่เดียวในประเทศไทยอีกด้วย

 อีกสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ คือ "หาดทรายร้อน(น้ำร้อนเค็ม)" ซึ่งช่วงที่น้ำลดจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนจากกลุ่มควันที่ฟุ้งตลบทั่วบริเวณ

 ทรายหรือโคลนที่นี่ยังมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นให้เลือดลมให้ไหลเวียนดีขึ้น เพียงแค่ย่ำด้วยเท้าเปล่าไปบนผืนทราย ซึ่งปกติมักจะมีคนไข้ที่มีอาการเกี่ยวเส้นเอ็น และกล้ามเนื้อพากันไปเดินย่ำทรายร้อน หรือเล่นน้ำทะเลร้อนเป็นประจำ

 ส่วนเมนูแสนอร่อยที่ขอแนะนำ คือ “หอยตลับ” หรือ “หอยปากหนา” ที่นิยมนำมาต้มตะไคร้ หรือผัดพริกเผาเป็นเมนูจานเด็ด หรือจะนำมาทำเป็น “หอยดอง” หรือ "หอยเปรี้ยว" ก็อร่อยชนิดต้องขอดก้นจานเช่นกัน

 ด้าน สมพร สาระการ หรือ "บังโสบ" กล่าวตรงกันว่า กว่าจะได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้านทั้งหมดก็ใช้เวลาไปไม่น้อย ดังนั้น ถ้าจะนับจริงๆ แล้วที่นี่เพิ่งจะเปิดทำการได้เพียงแค่ 16 เดือนเท่านั้นเอง

 สำหรับกิจกรรมการท่องเที่ยวที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งการนั่งเรือคายัคชมป่าชายเลน และเรียนรู้พืชสมุนไพร โดยจะมีหมอสมุนไพรพื้นบ้านคอยให้ความรู้ หรือถ้าใครชอบการตกปลาก็จะมีบริการตกปลาเล็กหน้าดินโดยเรือหัวโทงของชาวประมงพื้นบ้าน

 ส่วนใครที่อยากเที่ยวชมเกาะแก่งอย่างทั่วถึงที่นี่ก็มีบริการเรือหางยาวพาชมเกาะแก่งต่างๆ พร้อมทั้งศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงด้านการประมง (การเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง) และยังมีบริการโฮมสเตย์สำหรับผู้ที่ต้องการพักค้างแรมอีกด้วย

 ด้วยจุดขายที่หลากหลาย และจุดยืนในการอนุรักษ์ที่เข้มแข็งของชาวโคกไครจึงสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวไปตามๆ กันจึงเกิดการบอกต่อปากจนเกิดการเติบโตอย่างรวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง และปัจจุบันก็เริ่มมีหน่วยงานราชการมาจัดสัมมนามากขึ้นอีกด้วย

 ฤดูกาลท่องเที่ยวปีนี้ ใครต้องการสัมผัสธรรมชาติอันบริสุทธิ์ และชิมอาหารทะเลสดอร่อย บ้านโคกไครก็เป็นอีกทริปที่น่าสนใจไม่น้อย

บัญญัติ ชูเลิศ