รัฐบาลไอซ์แลนด์สวนภาวะตลาดไม่ต้องการ และเมินกระแสต้าน ให้โควตาล่าวาฬกว่า 2,000 ตัวใน 5 ปี
คริสเตียน ทอร์ ยูลิสสัน รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและประมงไอซ์แลนด์ เปิดเผยเื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า จะอนุญาตให้ชาวประมงล่าวาฬฟิน 209 ตัว วาฬมิงกี 217 ตัวต่อปี ไปจนถึงปี 2566
ยูลิสตัน กล่าวว่า รัฐบาลตัดสินใจใช้ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศบนความยั่งยืน โดยอาศัยคำแนะนำสถาบันวิจัยทางทะเล และรายงานมหาวิทยาลัยไอซแลนด์ เกี่ยวกับการล่าวาฬและผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาค
รัฐบาลระบุว่า ผลสำรวจในปี 2558 พบว่าประชากรวาฬฟิน ในมหาสมุทรแอตแลนติกกลาง-เหนือ มีอยู่ราว 3.7 หมื่นตัว หรือเพิ่มขึ้น 3 เท่านับจากปี 2530
แม้ชาวไอซแลนด์จำนวนมากสนับสนุนการล่าวาฬ แต่นอกจากนักเคลื่อนไหวและนักอนุรักษ์ที่คัดค้านแล้ว นักธุรกิจและนักการเมืองจำนวนมากก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน
เพราะมองว่าการล่าวาฬไม่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของอีกต่อไป แต่ประเทศต้องพึ่งพาการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญที่สุด
การล่าวาฬกระทบธุรกิจท่องเที่ยว ทำให้การล่องเรือชมวาฬต้องออกไปไกลมากขึ้น อีกทั้งทำลายภาพลักษณ์ประเทศ ที่ยังยอมให้ล่าวาฬเพื่อการค้าดำเนินต่อไป
สมาคมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไอซแลนด์ออกแถลงการณ์ในวันเดียวกันว่า รัฐบาลทำลายผลประโยชน์หลักและชื่อเสียงของชาติ เอื้อประโยชน์อุตสาหกรรมล่าวาฬที่มีขนาดเล็กมากและดิ้่นรนขายเนื้อวาฬ “ตลาดเนื้อวาฬคือญี่ปุ่น นอรเวย์ และสาธารณรัฐปาเลา แต่ตลาดของเราคือทั่วทั้งโลก”
ไอซ์แลนด์ มีเรือล่าวาฬ 4 ลำ ของบริษัท 3 ราย ที่อยู่ในภาวะขาดทุนหรือกำไรน้อยมาก ปีที่แล้ว อุตสาหกรรมนี้ล่าวาฬมิงกีไปเพียง 5 ตัว กับวาฬฟิน 145 ตัว
นับตั้งแต่ไอซ์แลนด์รื้อระบบการล่าวาฬตามโควตาในปี 2549 บริษัทประมงไม่เลยล่าเต็มโควตา ดังนั้น วาฬคงไม่ถูกฆ่า 2,130 ตัวตามโควตาเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง