หนุ่มอเมริกันเผยนาทีชีวิตรอดกรงเล็บ-ฆ่าสิงโตภูเขา  | คมชัดลึก

 

ล่าสุด เขาออกมาเล่าถึงการเอาตัวรอด และปลิดชีวิตแมวยักษ์ตัวนั้นได้อย่างไร 

คอฟแมน แถลงข่าวในสภาพที่ยังเห็นร่องรอยบาดแผล บนใบหน้าและลำคอ ที่ได้มาจากวิบากกรรมร่วม 10 นาที เขาเล่าว่าขณะกำลังจ็อกกิงในพื้นที่ที่เรียกว่า พื้นที่เปิดบนภูเขาฟันม้า ห่างจากเมืองเดนเวอร์ ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 100 ก.ม. ได้ยินเสียงกรอบแกรบด้านหลัง จึงหยุดและเมื่อหันไปก็เจอ เสือคูการ์ตัวหนึ่ง 

 

 

 

ใจหล่นไปที่ตาตุ่มขณะประมวลสถานการณ์ ก่อนตัดสินใจยกมือขึ้น และตะโกนสุดเสียงหวังให้มันกลัว แต่มันโถมเข้าใส่ และงับเขี้ยวที่ข้อมือขวา กับตะปบที่หน้า คอฟแมนพยายามปัดป้องโดยใช้ท่อนไม้ฟาดแต่ไม่เป็นผล แต่หลังยื้อหยุดกัน จังหวะหนึ่งเขาใช้เท้ากดขาหลังมันไว้ได้ และใช้หินทุบที่หัว ก่อนใช้เท้าขวากดเหยียบที่คอของมันจนหยุดโจมตี ในระหว่างนั้น เขาก็กลัวไปด้วยว่า อาจจะมีเสือคูการ์อีกตัวออกมาอีก ความกลัวนั้นทำให้เขายิ่งพยายามออกแรง ไม่นานมันก็แน่นิ่งไป 

 

 

คอฟแมนรีบวิ่งหนีเพราะกลัวว่าอาจมีตัวอื่นตามออกมาอีก ที่สุดก็ไปเจอกับนักวิ่งและนักเดินเขาคนอื่นๆ พวกเขาให้น้ำและพาไปโรงพยาบาล 

 

 

สิงโตภูเขา หรือที่เรียกกันว่า เสือคูการ์ พูมา หรือแพนเทอร์ เป็นสัตว์พื้นถิ่นในทวีปอเมริกา มีแหล่งอาศัยกว้างใหญ่ตั้งแต่แถบภูเขายูคอนในแคนาดาจนถึงปลายสุดของอเมริกาใต้ แต่เหตุเสือคูการ์ทำร้ายคนพบน้อยมาก ในรอบ 100 ปี มีเหตุรับแจ้งผู้เสียชีวิตจากถูกโจมตีไม่ถึง 20 คนในอเมริกาเหนือ 

ประเมินว่ารัฐโคโลราโด มีสิงโตภูเขาราว 4,500-5,500 ตัว และนับจากปี 2533 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 16 คน เสียชีวิต 3 คนจากสิงโตภูเขาขย้ำ 

 

 

 

คอฟแมน ซึ่งสูง 178 ซ.ม. หนัก 70 ก.ก. กล่าวว่า เขาไม่เคยฝึกศิลปะป้องกันตัวหรือมวยปล้ำมาก่อนเลย การตัดสินใจทุกอย่างเป็นไปตามสัญชาตญาณการเอาตัวรอดและอะดรีนาลีนล้วนๆ กับอีกปัจจัยก็คือเขาไม่สวมหูฟังเพลง ซึ่งก็มีส่วนด้วย  

หนุ่มคนนี้ยอมรับว่า โชคดีมากที่รอดตายมาได้โดยไม่ได้บาดเจ็บถาวร นอกจากเย็บแผลกว่า 20 เข็ม ที่ขา ข้อมือ คอ และใบหน้า และน่าจะซื้อลอตเตอรี