เพชฌฆาตไอเอสมือตัดคอตัวประกันสิ้นชีพในฐานที่มั่นหลักสุดท้าย

 

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย ยืนยันว่า มูฮัมหมัด ไซฟุดดิน วัย 40 ปี ที่มักจะใช้นามแฝงว่า อาบู วาลิด กับการิม ยูซอพ ฟาอิซ เสียชีวิตแล้ว ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม หลังถูกยิงด้วยกระสุนจากรถถังของซีเรีย ที่จังหวัดแดร์ เอซเซอร์ ของซีเรีย ที่มั่นเกือบสุดท้ายของไอเอส ที่กองกำลังนานาชาติพยายามจะยึดคืน 
 

 

ภาพ dailymail

 

ไซฟุดดิน ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่เกณฑ์ชาวอินโดนีเซียไปเข้าร่วมกับไอเอสในวิดีโอของเว็บไซต์หัวรุนแรงหลายชุด รวมทั้งวิดีโอที่เขากับพรรคพวกชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีก 2 คน ตัดศีรษะตัวประกันชาวต่างชาติ 3 คน เมื่อปี 2559

พี่ชายของเขาบอกว่า ครอบครัวทราบเรื่องนี้จากแอพพลิเคชั้นส่งข้อความออนไลน์ และภาพศพที่เขาจำได้ 

 

ภาพ dailymail

 

 

เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว สหรัฐฯขึ้นบัญชีดำ ไซฟุดดิน กับโมฮัมหมัด ราฟี อูดิน ชาวมาเลเซีย และโมฮัมเหม็ด เรซา ลาฮามัน คิรัม ชาวฟิลิปปินส์ เป็นผู้ก่อการร้ายสากล

พี่ชายของไซฟุดดิน กล่าวว่า ไม่ได้ข่าวจากเขานับตั้งแต่เขาพาภรรยาและลูกไปเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสในซีเรีย เมื่อ 4 ปีก่อน และเชื่อว่าเขาจะฝักใฝ่หัวรุนแรงตั้งแต่สมัยเกิดเหตุขัดแย้งระหว่างชาวคริสต์กับชาวมุสลิม ที่จังหวัดอัมบอนของอินโดนีเซีย ช่วงระหว่างปี 2542-2544 โดยร่วมมือกับพี่ชายฝาแฝดที่ตายในสมรภูมิก่อนหน้านี้ 

 

 

ภาพ dailymail

 

 

โซเฟียน ทเซารี เพื่อนของผู้ตาย ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกเครือข่ายเจไอที่ต้องโทษคดีวางระเบิดบาหลี ในปี 2545 ก่อนหันมาร่วมมือกับสำนักงานต่อต้านก่อการร้ายของอินโดนีเซีย กล่าวว่าในแวดวงสุดโต่ง เชื่อกันว่า ไซฟุดดินได้รับความไว้วางใจจากนายอาบู บัคร์ อัล บักดาดี ผู้นำสูงสุดของไอเอส และยกให้เป็นสมาชิกสายเอเชียอาคเนย์  

ไซฟุดดินหลบหนีไปทางใต้ของฟิลิปปินส์หลังร่วมก่อวินาศกรรมบาลี พร้อมกับแกนนำอาวุโสชาวอินโดนีเซียอีก 2 คน และถูกจับในฟิลิปปินส์ขณะพยายามกลับอินโดนีเซียพร้อมอาวุธและระเบิด ถูกตัดสินจำคุก 9 ปีในปี 2550 

หลังได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนดในปี 2556  เขาแต่งงานกับหญิงม่ายที่สามีเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย และไม่ได้อยู่ในเรดาร์ของทางการเท่าไหร่นัก กระทั่งมาปรากฎตัวอีกครั้งในวิดีโอชวนเชื่อของไอเอส  เรียกร้องมุสลิมอินโดนีเซียต่อต้านรัฐบาล และเดินทางไปร่วมกับไอเอสในซีเรีย หรือทางใต้ของฟิลิปปินส์