
พระวัดโสธรแถลงค้านแต่งตั้งเจ้าอาวาสใหม่
6องค์คณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร นำพระ-เณร กว่า 400 รูป แถลงโต้เจ้าคณะจังหวัด และค้านการแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ พร้อมแจงทุกเรื่องที่ถูกพาดพิง เผย อดทนนาน 5 ปีมิเคยปริปาก แต่ครั้งนี้ถึงคราวต้องสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์วัดโสธร ขณะชาวบ้านคณะศิษย์วัดโส ธรบุกยื
(7พ.ย.) เวลา 16.30 น. ที่ห้องประชุมใหญ่ โรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดโสธรวราราม วรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา 6 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร นำโดยพระครูโสภณ สรกิจ พระครูศรีปริยัติวิมล พระครูปลัดสันติภัทร พระครูปริยัติปัญญาธร พระครูภาวนากิจพิลาส พระมหาปรีชา เตชวณฺโณ พร้อมด้วยพระภิกษุสามเณรในวัดกว่า 400 รูป ร่วมแถล่งข่าวต่อสื่อมวล ถึงกรณีการออกมาเคลื่อนไหวและการถูกพลาดพิง โต้ตอบ กล่าวหาต่างๆ จาก พระเทพปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา
โดยพระครูโสภณ สรกิจ กล่าวว่า สาเหตุการออกมาเคลื่อนไหวของพระภิกษุสงฆ์สามเณรภายวัดโสธรนั้น ประชาชนผู้ที่ไม่เข้าใจอาจจะมองว่าไม่เหมาะสม ไม่สำรวม ไม่อดทนเชื่อฟังพระชั้นผู้ใหญ่ แต่แท้ที่จริงแล้ว คณะสงฆ์วัดโสธรอดทนมาเป็นเวลายาวนานถึง 5 ปีเต็ม จนพระพรหมสุธี เจ้าคณะภาค 12 ที่มารักษาการเจ้าอาวาสหมดวาระลง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา ก็ไม่ได้มีการดำเนินการที่จะแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรรูปใหม่ ทั้งที่การบริหารงานเกี่ยวกับการเงินของวัด ถูกปกปิดมิให้พระภายในวัดรับรู้ และไม่โปร่งใส
หลังหมดวาระลงยังจะได้แต่งตั้ง พระสงฆ์จากภายนอกวัดเข้ามาเพื่อสืบสานผลประโยชน์ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้สืบต่อกันอีกทอดหนึ่ง ทั้งที่มีพระภายในวัด ซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส ล้วนมีคุณสมบัติครบถ้วน ถึง 11 รูป กลับไม่ได้รับเลือก ซึ่งผู้มีคุณวุฒิอาวุโสสูงสุด คือ เจ้าคุณปริยัติกิจวิธาน และมีความเหมาะสมมากกว่า พร้อมทั้งมีนโยบายในการบริหารงานภายในวัดที่โปร่งใส ด้วยการจะจัดตั้งคณะกรรมการหลายชุด
ซึ่งจะประกอบด้วยคณะสงฆ์ กรรมการวัด และผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก เข้ามาดูแลบริหารจัดการเงินทำบุญ และตู้บริจาคทุกตู้ ให้เกิดความโปร่งใส มีที่มาที่ไปของเงินอย่างชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้คณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร อีกหลายรูป ซึ่งนำโดยพระครูปลัดสันติภัทร ยังแถลงตอบโต้ เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทราทุกกรณี ที่ให้ข่าวผ่านสื่อมวลชน เช่นกรณี กล่าวว่าจะแต่งตั้งนายพล จะต้องไปปรึกษาพลทหาร หรือ พระครูปลัดสันติภัทร กล่าวว่า ผู้ช่วยเจ้าอาวาสทุกรูป ล้วนมีคุณวุฒิสูง เทียบชั้นได้กับผู้ช่วยนายพล เพราะฉนั้น การจะตั้งนายพลก็ต้องนำร่วมปรึกษาหารือกันจึงจะถูก
พร้อมระบุว่า เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา และเจ้าคระภาค 12 นั้น ทำผิดกฎหมายตั้งแต่แรก ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นเกิดจากเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา แต่เพียงผู้เดียว ที่ไม่ทำตามกฎหมาย
ซึ่งการแถลงข่าวดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชารอบวัดเข้ามาร่วมรับฟังภายในห้องประชุมด้วย จึงทำให้ห้องประชุมที่บรรจุคนได้ประมาณ 1,000 คน เต็มเกือบล้น
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 17.30 น. ที่วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ (วัดเมือง) อ.เมืองฉะเชิงเทรา นายสมศักดิ์ สายหยุด อายุ 67 ปี อดีตรองผู้อำนวยการโรงเรียนมักกะสันวิทยา อ้างตัวเป็นประธานศิษย์เก่าสำนักวัดโสธร พร้อมชาวบ้านประมาณ 20 คน เดินทางเข้าพบพระเทพปัญ ญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเข้ายื่นหนังสือ ขอให้ทบทวนการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธร รูปใหม่อีกครั้ง
ซึ่งเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา ก็รับหนังสือไว้ แต่ไม่รับฟัง พร้อมกล่าวอย่างอารมฉุนเฉียวว่า พวกคุณอย่ามาใช้กฎหมู่ นำคนจำนวนมากมากดดัน
ขณะที่นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องการเจ้าอาวาสวัด ที่เข้ามาดูแลวัดได้อย่างสงบสุข ไม่ใช่มาแล้วเกิดปัญหาซ้ำซากไม่จบสิ้น จึงต้องการให้มีเจ้าอาวาสเข้ามาดูอย่างเร็วไว เพราะอยากเห็นวัดโสธรสงบเสียที



