ข่าว

อัยการไทยยื่นคำร้องขอศาลอาญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน "ฮาคีม" แล้ว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลอาญารับคำร้องอัยการขอวินิจฉัยส่ง "อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน" กลับประเทศ รับโทษถูกตัดสินคุก 10 ปี 4 ข้อหาคดีชุมนุม

 

               1 ก.พ. 62 ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา  อัยการสำนักงานต่างประเทศ ได้ยื่นคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน “นายฮาคีม อาลี โมฮัมเหม็ด อาลี อัล โอไรบี” (Hakeem Ali Mohamed Ali Al Oraibi) หรือ “นายฮาคีม อาลี โมฮัมเหม็ด อาลี อไลราบี” (Hakeem Ali Mohamed Ali Alaraibi) อายุ 25 ปี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน กลับไปดำเนินคดีที่ประเทศบาห์เรน ตามคำขอของทางการบาห์เรนที่ส่งมาให้ทางการไทย

 

 

 

               โดยก่อนหน้านี้ “นายฮาคีม” ถูก ตม. จับกุมตัวขณะเดินทางจากประเทศออสเตรเลียเข้ามายังประเทศไทยที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 61 ซึ่ง “นายฮาคีม” ถูกกล่าวหาดำเนินคดีในประเทศบาห์เรนฐานทำลายทรัพย์สิน จากการสร้างความเสียหายต่อสถานีตำรวจในบาห์เรน โดยเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 61 อัยการได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอขังตัว “นายฮาคีม” ไว้ชั่วคราวเป็นเวลา 60 วัน ระหว่างรอคำร้องขอจากบาห์เรน ที่ขอให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนดังกล่าว

               ขณะที่คำร้อง "อัยการ" ที่ยื่นวันนี้ ขอให้ศาลวินิจฉัยการส่งตัวเป็นผู้ร้าย ระบุว่า ประเทศบาห์เรนและประเทศไทย ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน โดยพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 กำหนดให้รัฐบาลต่างประเทศสามารถร้องขอต่อรัฐบาลไทยให้ส่งตัวบุคคลที่กระทำผิดตามกฎหมายของประเทศที่ร้องขอแม้ว่าประเทศนั้นไม่ได้มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย โดยให้รัฐบาลประเทศผู้ร้องขอนั้นทำคำรับรองที่จะปฏิบัติต่างตอบแทนกับรัฐบาลไทย โดยคดีนี้รัฐบาลบาห์เรนได้ให้คำรับรองดังกล่าวแล้ว ขณะที่การกระทำความผิดซึ่งมีการร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้นจะต้องเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายไทย และความผิดดังกล่าวจะต้องเป็นความผิดกำหนดโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่เป็นความผิดที่มีลักษณะทางการเมือง หรือเป็นความผิดทางทหาร

 

 

 

               โดยคดีนี้รัฐบาลบาห์เรนได้มีหนังสือลงวันที่ 3 ธ.ค. 61 และเอกสารประกอบคำร้องขอ พร้อมคำแปลภาษาไทยส่งผ่านวิถีทางการทูต ขอให้รัฐบาลไทยจับกุมและคุ้มขังชั่วคราว "นายฮาคีม" สัญชาติบาห์เรน ซึ่งถือหนังสือเดินทางบาห์เรน เพื่อดำเนินการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ไปรับโทษตามคำพิพากษาที่ประเทศบาห์เรน ในความผิดฐาน 1. ลอบวางเพลิงสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน 2. ชุมนุมโดยมิชอบด้วยกฎหมายมากกว่า 5 คน ในที่สาธารณะ และใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่ออาชญากรรมและก่อกวนความสงบเรียบร้อยของประชาชน 3. ครอบครองวัตถุไวไฟ ซึ่งเป็นระเบิดขวด เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่ออันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 4. ทำให้รถยนต์ส่วนบุคคลของผู้อื่นเสียหายตามประมวลกฎหมายอาญาบาห์เรน มาตรา 178 , 179 , 277/1 , 277/2 , 277 ทวิ , 409/1 , 414/1 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกเกิน 1 ปีขึ้นไป และคดียังไม่ขาดอายุความ โดย "นายฮาคีม" นั้นเป็นจำเลยที่ 4 ในคดีอาญาดังกล่าว ซึ่งศาลได้พิจารณาลับหลังและพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 4 ให้จำคุกเป็นเวลา 10 ปี แต่ "นายฮาคีม" หลบหนี สำนักงานอัยการบาห์เรน จึงได้ออกหมายจับเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 54

               ซึ่งคดีนี้ กระทรวงการต่างประเทศในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจฝ่ายบริหารได้พิจารณาคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนของทางการบาห์เรนแล้วเห็นว่า แม้ประเทศไทยกับประเทศบาห์เรนจะไม่มีสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน แต่รัฐบาลไทยก็สามารถให้ความร่วมมือกับรัฐบาลบาห์เรนได้บนพื้นฐานหลักปฏิบัติต่างตอบแทน และคำร้องขอของทางการบาห์เรนก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตามพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 โดยเป็นความผิดอาญาที่สามารถลงโทษจำคุก 1 ปีขึ้นไป และไม่เป็นความผิดที่มีลักษณะในทางการเมืองหรือทางการอาหาร ซึ่งทางการบาห์เรนก็ให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติตามตอบแทนหากรัฐบาลไทย ร้องขอลักษณะที่คล้ายคลึงกันในอนาคต โดยคำรับรองของทางการบาห์เรนดังกล่าวลงไว้เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 61

 

 

 

               ทั้งนี้ อัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลางก็ได้พิจารณาพยานหลักฐานที่ปรากฏแล้วเห็นว่า การกระทำของ "นายฮาคีม" จำเลย ตามคำร้องขอที่เป็นความผิดตามกฎหมายของประเทศบาห์เรนนั้น เทียบได้เป็นความผิดอาญาซึ่งกฎหมายไทยกำหนดให้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218 , 358 พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 16 , 31 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4 , 38 ซึ่งกฎหมายไทยและกฎหมายบาห์เรนดังกล่าวกำหนดโทษจำคุก 1 ปีขึ้นไป และคดียังไม่ขาดอายุความ อันเป็นความผิดที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนแก่กันได้ และจำเลยก็ยังไม่เคยได้รับการพิจารณาหรือปล่อยตัวสำหรับความผิดดังกล่าวในประเทศไทยหรือประเทศบาห์เรนมาก่อน อีกทั้งได้มีการออกหมายจับจำเลยไว้แล้ว

               ขณะที่เจ้าพนักงานตำรวจของไทย จับกุม "นายฮาคีม" ได้ตามหมายจับ และเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 61 อัยการก็ได้นำตัว "นายฮาคีม" มาขอให้ศาลมีคำสั่งขังไว้ก่อน ซึ่งศาลอาญาได้มีคำสั่งในวันที่ 11 ธ.ค. 61 นั้นให้ขัง "นายฮาคีม" ไว้ก่อนมีกำหนด 60 วัน เพื่อรอหนังสือคำร้องขอให้ส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดน กระทั่งวันที่ 18 ม.ค. 62 รัฐบาลบาห์เรนได้มีหนังสือพร้อมเอกสารหลักฐาน ส่งถึงอัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลางผ่านทางวิถีทางการทูตให้ส่งตัว "นายฮาคีม" ซึ่งเป็นบุคคลสัญชาติบาห์เรนเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ไปรับโทษตามคำพิพากษาที่ประเทศบาห์เรน ดังนั้น "โจทก์" จึงขอให้ศาลเบิกตัว "นายฮาคีม" ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ มาพิจารณาการร้องขอส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป ซึ่งหากจำเลยจะยื่นคำร้องขอประกันตัวในชั้นนี้ก็ขอให้ศาลพิจารณาไม่อนุญาตการประกันตัวดังกล่าวด้วย เพราะหากจำเลยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวก็มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าจะหลบหนี และจะไม่ได้ตัวมาดำเนินการที่จะพิจารณาเพื่อส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป ซึ่งจะเป็นผลเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยศาลอาญาได้ประทับรับคำฟ้องการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนดังกล่าวไว้เป็น คดีดำหมายเลข ผด.6/2562

 

 

 

               ภายหลัง "นางณัฐาศิริ เบิร์กแมน" นักกฎหมายจากสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากนายฮาคิมให้เป็นทนายความนั้น ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ระบุว่า เพิ่งทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่าพนักงานอัยการมีคำสั่งขอให้ศาลขังนายฮาคีมเพื่อส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้กับทางการบาห์เรน ซึ่งเรื่องนี้ตามกระบวนการแล้วจะต้องส่งคำร้องดังกล่าวให้นายฮาคีมรับทราบด้วย โดยตนจะขอพิจารณาคำร้องและยื่นคำคัดค้านพร้อมชี้เหตุผลให้กับศาลพิจารณาว่าไม่ควรส่งนายฮาคีมให้ทางการบาห์เรนด้วยเหตุผลอย่างไรบ้าง จากนั้นศาลจะนัดทำการไต่สวน ทั้งฝ่ายอัยการผู้ร้องและฝ่ายนายฮาคีมผู้คัดค้าน ซึ่งตนยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะนำใครเข้าไต่สวนบ้างเพราะต้องรอดูทางอัยการก่อนว่าจะนำใครมาเบิกความ ทั้งนี้ จะต้องขอพิจารณาคำร้องจากอัยการอย่างละเอียดอีกครั้ง

               สำหรับ “นายฮาคีม” นั้นเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงในประเทศบาห์เรน ก่อนที่จะมาเล่นให้กับทีมฟุตบอล Pascoe Vale สโมสรฟุตบอลกึ่งอาชีพในนครเมลเบิร์น ได้รับสถานภาพผู้ลี้ภัยและอยู่อาศัยถาวรในประเทศออสเตรเลีย

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง "ศาลอาญา" มีคำสั่ง ประทับฟ้องคดีที่อัยการสำนักงานต่างประเทศ ยื่นขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน "นายฮาคีม" แล้ว ศาลอาญา ก็ให้ออกหมายขัง "นายฮาคีม" ระหว่างพิจารณา นัดไต่สวน ซึ่งปัจจุบันตัว "นายฮาคีม" ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยศาลให้สำเนาคำฟ้องดังกล่าวให้จำเลย และให้เบิกตัวจำเลยจากเรือนจำ มาในวันนัดสอบคำให้การวันจันทร์ที่ 4 ก.พ. นี้ เวลา 09.00 น. เพื่อสอบถามว่าจะยินยอมให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ