ข่าว

เปิดสถิติโต๊ะเล็กไทย เป็นรอง ญี่ปุ่น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โหมโรงก่อนเกมอุ่นแข้ง นัดแรก 1 ก.พ.นี้

 ศึกฟุตซอลอุ่นเครื่องนัดพิเศษซึ่งมีคะแนนสะสม ฟีฟ่าแรงกิ้ง เป็นเดิมพัน ระหว่าง "ช้างศึกโต๊ะเล็ก" ทีมชาติไทย พบ "ซามูไรบลูส์” ทีมชาติญี่ปุ่น ซึ่งจะฟาดแข้งด้วยกัน 2 นัด  คือ วันที่ 1 ก.พ. เวลา 19.00 น. และ วันที่ 3 ก.พ. เวลา 16.00 น. ที่ สนาม บางกอก อารีน่า โดยเปิดให้แฟนฟุตซอเข้าชมฟรี  และ จะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางเฟซบุ๊คแฟนเพจ ฟุตซอลไทยแลนด์ ทั้ง 2 นัด

ความพร้อมของ "ทัพช้างศึกโต๊ะเล็ก" ทีมชาติไทย ซึ่งปัจจุบันนี้รั้งอยู่ในอันดับที่ 3 ของเอเชีย โดยมี 1,317 คะแนน ภายใต้การคุมทัพของ โฆเซ่ มาเรีย ปาซอส เมนเดส “ปูลปิส” เฮดโค้ชใหญ่ชาวสเปน ซึ่งได้เรียก 21 นักเตะที่ดีที่สุดเข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อมตลอด 1 สัปดาห์เต็ม นำโดย "กัปตันช้าง" กฤษดา วงษ์แก้ว และ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร 2 ผู้เล่นตัวเก๋าของทีมที่ถูกเรียกตัวกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งในรอบ 9 เดือน นับตั้งแต่ฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2018 ที่ ไต้หวัน โดยทั้งคู่ก็จะมาร่วมผนึกกำลังกับผู้เล่นชุดแชมป์อาเซียน 2018 อาทิ วรุฒ หวังสะมาแอล , ชัยวัฒน์ แจ่มกระจ่าง และ อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ 

ทว่า ทีมชุดนี้ไม่มีชื่อของ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ดาวยิงเบอร์ 1 ของไทย ที่อยู่ในช่วงพักฟื้นจากการผ่าตัดหัวเข่าเมื่องช่วงต้นปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม "ปูลปิส" ก็ได้เรียกผู้เล่นเข้ามาทดแทนในตำแหน่งที่ขาดหายไปของ ศุภวุฒิ ไม่ว่าจะเป็น มูฮัมหมัด อุสมานมูซา , อนันตชัย ปราบวงษา รวมถึง พีระพัฒน์ แก้ววิลัย โดยความพร้อมของทีมนั้นผู้เล่นอาจจะไม่ฟิตสมบูรณ์ 100 % เนื่องจากเพิ่งกลับมาจากการพักผ่อนในช่วงฟุตซอลลีกปิดฤดูกาล แต่ทาง "ปูลปิส" เองก็เชื่อมั่นว่าทีมชุดนี้มีดีพอที่จะต่อกรกับทีมชาติญี่ปุ่นได้อย่างสนุก รวมถึงยังพร้อมที่จะให้โอกาสผู้เล่นผู้คนได้ลงสนาม เพื่อเป็นการทดสอบว่าสามารถเล่นเกมในระดับเอเชียได้หรือไม่

ขณะที่ "ซามูไรบลูส์” ทีมชาติญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันรั้งในอันดับที่ 2 ของเอเชีย โดยมี 1,366 คะแนน ภายใต้การทำทีมของ บรูโน่ การ์เซีย เฮดโค้ชขาวสเปน ผู้ที่เคยพาทีมชาติเวียดนามผ่านเข้าไปเล่นฟุตซอลชิงแชมป์โลกรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เมื่อปี 2016 ที่ ประเทศโคลอมเบีย ก่อนที่เจ้าตัวจะเข้ามารับหน้าที่เป็นเฮดโค้ชใหญ่ของทีมชาติญี่ปุ่นหลังจบฟุตซอลชิงแชมป์โลกในปีดังกล่าว โดยสภาพความพร้อม "ทัพซามูไรบลูส์” ที่เพิ่งเดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 มกราคม  ก่อนที่จะมีการซ้อมด้วยกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประกาศรายชื่อผู้เล่นทั้งหมด 16 คน ที่ประเทศไทย ซึ่งผู้เล่นชุดนี้นำโดย 2 ผู้เล่นที่ค้าแข้งในลีกของทวีปยุโรป อย่าง ราฟาเอล เฮนมี่ ดาวเตะวัย 26 ปี จากทีมเบนฟิก้าในลีกของประเทศโปรตุเกส และ ชิมิซุ คาซุยะ ที่ค้าแข้งกับทีมเอลโปโซ่ ซิลดาส เด มูเซีย ทีมในลีกดิวิชั่น 1 ของสเปน นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นตัวเก๋าอย่าง คาโอรุ โมริโอกะ ดาวเตะวัย 39 ปี 

บรูโน่ การ์เซีย เฮดโค้ชใหญ่ของทีมชาติญี่ปุ่น ยอมรับว่า "เราเพิ่งจะได้มารวมทีมเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทย เพราะการแข่งขันฟุตซอลลีกของญี่ปุ่นเพิ่งจะแข่งขันและพักเบรกไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เราต้องรีบฝึกซ้อมและปรับจูนทีมให้เร็วที่สุด ซึ่งการพบกับทีมชาติไทยนั้น ถือเป็นเรื่องดีที่ทีมจะได้เคลื่อนไหวและที่สำคัญ ไทยก็มีความแข็งแกร่งและเป็นทีมในระดับต้นๆของเอเชีย ส่วนเป้าหมายก็แน่นอนว่าจะทำให้ดีที่สุดและคาดหวังที่จะเอาชนะ ไทย ให้ได้ทั้ง 2 เกม"

 สถิติการพบกันระหว่าง ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติญี่ปุ่น เคยพบกันในเกมอย่างเป็นทางการมาแล้วทั้งหมด 19 นัด ซึ่ง ทีมชาติญี่ปุ่น เอาชนะไปได้ 11 นัด เสมอ 5 นัด และทีมชาติไทยเอาชนะได้ 3 นัด โดยครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองนี้พบกัน คือ การแข่งขันเอเชียน อินดอร์เกมส์ 2017 รอบแบ่งกลุ่ม ที่ประเทศเติร์กเมนิสถาน ซึ่งเกมนั้นทีมชาติญี่ปุ่นเอาชนะทีมชาติไทย 6-4

 สำหรับการแข่งขันฟุตซอลอุ่นเครื่อง ระหว่าง ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติญี่ปุ่น จะแข่งขัง 2 นัด โดยนัดแรกในวันที่ 1 ก.พ. เวลา 16.00 น. และ นัดที่สองในวันที่ 3 ก.พ. เวลา 19.00 น. ที่ สนามบางกอก อารีน่า ซึ่งแฟนๆสามารถเข้าชมการแข่งขันได้ฟรี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ