HMD Global ส่งสมาร์ทโฟนโนเกียเจาะตลาดอเมริกาเหนือ

บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล เจ้าของลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์แบรนด์โนเกียทั่วโลกแต่เพียงผู้เดียว ประกาศความร่วมมือกับบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายชั้นนำสามแห่งในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ได้แก่ Cricket Wireless และ Verizon ในประเทศสหรัฐอเมริกาและ Rogers Communications, Inc. ในประเทศแคนาดา ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯในการส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นให้กับลูกค้าในผลิตภัณฑ์ทุกช่วงราคา และเป็นการทำงานร่วมกันกับบริษัทชั้นนำของอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ให้มากที่สุด 
 

            เอชเอ็มดี โกลบอล มีความภาคภูมิใจที่ได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความทนทานและมาพร้อมรูปลักษณ์อันโดดเด่น สรรค์สร้างขึ้นจากวัสดุชั้นเลิศ ด้วยความประณีตในทุกผลิตภัณฑ์ตามแบบฉบับของโนเกีย บริษัทฯยังคงมุ่นเน้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค และยังมีแผนที่จะเพิ่มการส่งมองสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ได้รับรางวัลให้กับผู้บริโภค ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สองรุ่นร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายในประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือนนี้ และอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ในประเทศแคนาดากับบริษัท Chatr ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Rogers
                  Nokia 3.1 Plus ถือเป็นผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นแรกที่เปิดตัวกับเครือข่าย 4G ของบริษัท Cricket ซึ่งครอบคลุมผู้ใช้ชาวอเมริกันกว่า 99% ตามข้อมูลการให้บริการเครือข่ายไร้สายในประเทศสหรัฐอเมริกา  ขณะที่ Nokia 2 V จะเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่เปิดตัวกับบริษัท Verizon โดย Nokia 3.1 Plus มีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึงสองวัน มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับลายนิ้วมือที่ติดตั้งโดยการคำนึงถึงหลักการออกแบบอุปกรณ์ให้มีความปลอดภัยและสะดวกสบายต่อการใช้งาน ร่วมกับ Google Pay ผ่านระบบ NFC  ซึ่งวางจำหน่ายในราคาสุดพิเศษ ขณะที่ Nokia 2 V นำเสนอรูปลักษณ์สไตล์นอร์ดิกที่สวยงามและทันสมัยพร้อมกับวัสดุที่เป็นโลหะ ซึ่งมอบความบันเทิงได้ต่อเนื่องยาวนานด้วยหน้าจอ HD 5.5 นิ้ว ลำโพงคู่หน้าและแบตเตอรี่สำหรับใช้งานต่อเนื่องนานถึงสองวัน โดยผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้จะมาพร้อมความประณีตและทนทานตามมาตรฐานโทรศัพท์มือถือของโนเกีย   
                   ฟลอเรียน ซีช (Florian Seiche) ซีอีโอของ เอชเอ็มดี โกลบอล กล่าวว่า  “พวกเรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากและมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการพัฒนาความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะยาวกับผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำในภูมิภาคอเมริกาเหนือ สมาร์ทโฟนของ โนเกียพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงการสร้างความ       โดดเด่นในการใช้งาน จากข้อมูลเชิงลึกของผู้ใช้งานจริง บวกกับดีไซน์และความประณีตตามสไตล์ยุโรป คุณภาพที่เหนือระดับ รวมถึงนวัตกรรมแอนดรอยด์ใหม่ล่าสุด ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งาน      ในแต่ละวันของคุณ พวกเราอยากเห็นผู้ใช้งานชาวอเมริกันรักและไว้วางใจสมาร์ทโฟนของโนเกียเช่นเดียวกันกับผู้ใช้งานโนเกียทั่วโลก”
                  มาอูริซิโอ้ อังเกโลเน่ (Maurizio Angelone) รองประธานภูมิภาคอเมริกาของ เอชเอ็มดี        โกลบอล กล่าวว่า  “ย้อนไปเมื่อประมาณสองปีก่อน พวกเราตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนของโนเกียที่มาพร้อมความทนทานและไว้วางใจได้ บวกกับดีไซน์ที่โดดเด่นและเปี่ยมความหมายให้กับผู้ใช้งานทั่วโลก ตั้งแต่นั้นมาพวกเราก็ค่อย ๆ นำมือถือระดับตำนานของโนเกียมานำเสนอใหม่ และเปิดตัวผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์อย่างต่อเนื่อง พร้อมไปกับการสร้างความร่วมมืออันดีกับบริษัท    ชั้นนำในอุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีถ่ายภาพ และด้วยเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภค พวกเราจึงรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่วันนี้พวกเราอยู่ในจุดที่สามารถจะขยายตลาดของเราไปยังภูมิภาคอเมริกา ด้วยการร่วมมือกับบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายชั้นนำในภูมิภาค    

                 ในปี 2562 พวกเราตั้งใจจะพัฒนาผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนหลากหลายรูปแบบออกมาอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าจะสามารถใช้งานได้โดยไม่ผูกติดกับผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายโดยเฉพาะ หรือใช้งานโดยเลือกผู้ให้บริการเครือข่ายเองได้ หลักความร่วมมือของเรากับผู้ให้บริการเครือข่ายไม่เน้นการทำธุรกรรม ดังนั้นในอนาคตผู้ใช้งานจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ของเราในหลากหลายช่วงราคา ซึ่งจะจัดจำหน่ายทั้งในตลาดทั่วไป และจัดจำหน่ายร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายที่เป็นพันธมิตรทั้งแบบ Prepaid และ Postpaid”  

                  เอชเอ็มดี โกลบอล ได้สร้างสรรค์ระบบนิเวศที่เข้มแข็ง ซึ่งประกอบขึ้นด้วยความร่วมมืออันแนบแน่นกับบริษัทพันธมิตรชั้นนำทั้งในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีถ่ายภาพ (กับบริษัท ZEISS Optics) อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (เพื่อมอบประสบการณ์แอนดรอยด์ชั้นนำระดับโลก) และอุตสาหกรรมการผลิต ผลลัพธ์ที่ได้คือเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้บริโภคที่ซื้อสมาร์ทโฟนของโนเกีย ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Amazon, Best Buy, B&H และช่องทางอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาอุปกรณ์สำหรับผู้บริโภคทุกประเภทไม่ได้หยุดอยู่ที่การผลิต แต่ส่วนสำคัญที่สุดอยู่ที่การส่งมอบความยืดหยุ่นในการเลือกใช้บริการเครือข่ายไร้สายให้กับแฟนๆ ของโนเกียในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา ดังนั้นก้าวต่อไปในการทำงานของโนเกีย            จึงหมายถึงการร่วมมือกับบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายชั้นนำในภูมิภาค
                   ทิฟฟานี่ เบแมน (Tiffany Baehman) รองประธานและหัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Cricket Wireless กล่าวว่า “พวกเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายที่โนเกียเลือกสำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนโนเกียในภูมิภาคอเมริกาเหนือ Nokia 3.1 Plus จะทำให้เราสามารถส่งมอบบริการเครือข่ายไร้สายในราคาย่อมเยาพร้อมไปกับสมาร์ทโฟนที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมในราคาสุดคุ้มให้กับผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง 
                   ไบรอัน ฮิกกินส์ (Brian Higgins) รองประธานฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ บริษัท Verizon กล่าวว่า “โนเกียเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านนวัตกรรม และพวกเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมงานกับ โนเกีย ผ่านความร่วมมือกับบริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล การเปิดตัวสมาร์ทโฟน Nokia 2 V ทำให้เราสามารถที่จะนำเสนอสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ อันน่าประทับใจ ทั้งยังมาพร้อมแบตเตอรี่อันทรงพลัง ในราคาย่อมเยาให้กับลูกค้าประเภท Prepaid ของเราได้”  
             การเปิดตัวสองผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ของ โนเกีย จะมีบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายเป็นผู้รับไปดำเนินการ และจะมีการขยายรุ่นผลิตภัณฑ์ของโนเกีย 

              สำหรับNokia 3.1 Plus มอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในช่วงราคาเดียวกันด้วยหน้าจอ HD+ ขนาด 5.99 นิ้วและอัตราส่วนภาพ 18:9 ทำให้สามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ในหน้าจอ      ไม่ว่าจะเป็น แอปพลิเคชัน หรือวิดีโอได้มากขึ้น ทำให้เหมาะแก่การรับชมเนื้อหาผ่านระบบสตรีมมิ่ง          และใช้งานโซเชียลมีเดีย ทั้งยังมีแบตเตอรีขนาด 3,500mAh ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึงสองวัน ทำให้คุณสามารถรับชม Netflix ได้แบบไม่มีสะดุด 
                 นอกจากนั้นยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับลายนิ้วมือที่ติดตั้งโดยคำนึงถึงหลักการออกแบบอุปกรณ์          ให้มีความปลอดภัยและสะดวกสบายต่อการใช้งาน ทำให้คุณสามารถปลดล็อกโทรศัพท์ของคุณและยืนยันตัวตนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเริ่มใช้งาน และด้วยระบบ NFC ก็ทำให้คุณสามารถชำระเงินผ่าน Google Pay ได้อย่างสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น 
                  Nokia 3.1 Plus มีระบบ Auto Focus ที่รวดเร็วไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน ด้วยกล้องหลัก 13 ล้านพิกเซลที่มาพร้อมเทคโนโลยี Phase Detection ขณะที่กล้องหลังประกอบด้วยเซ็นเซอร์ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลสำหรับตรวจจับความลึกของภาพ ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพได้ราวกับมืออาชีพ      เสมือนกำลังถ่ายภาพอยู่ในสตูดิโอ พร้อมเอฟเฟกต์ Bokeh Blur ที่มีให้เลือกมากมายและตัวเลือกสำหรับการปรับแต่งรูปภาพหลังการถ่ายภาพ กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลทำให้แน่ใจได้ว่ารูปเซลฟี่ของคุณจะต้องโดดเด่น เมื่อรวมกับระบบถ่ายภาพด้วยกล้องคู่คุณภาพสูง และเทคโนโลยี AI ก็ทำให้ Nokia 3.1 Plus กลายเป็นอุปกรณ์สำหรับการถ่ายภาพชั้นยอดในราคาที่เอื้อมถึงได้ 
                 ชิปเซ็ต Snapdragon™ 439 จาก Qualcomm ได้รับการออกแบบมาให้สนับสนุนการอัพโหลดและดาวน์โหลดที่รวดเร็ว การถ่ายภาพและการแสดงผลภาพที่คมชัด รวมถึงการทำงานแบบประหยัดพลังงาน และชิปเซ็ตรุ่นนี้จะช่วยเสริมพลังการประมวลผลในช่วงที่มีการใช้งานอย่างเข้มข้น เช่นขณะรับชมวิดีโอ เพื่อให้แน่ใจว่าสมรรถนะการทำงานจะสูงเสมอและจะไม่ส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ในการใช้งาน 
           

        Nokia 3.1 Plus เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ของโนเกีย ที่จะส่งมอบประสบการณ์การใช้งานคุณภาพสูงผ่านระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ดีที่สุด บนเครือข่ายไร้สายของบริษัท Cricket โดยทั่วไปแล้วสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ของโนเกีย ขึ้นชื่อเรื่องความจุและแบตเตอรีที่โดดเด่น บวกกับไม่มีระบบประมวลผลใดๆ แอบแฝง รวมถึงมีนวัตกรรมล้ำหน้าผู้อื่นอยู่เสมอ นอกจากนั้นสมาร์ทโฟนของ    โนเกียทุกรุ่นยังมีการอัพเดทซอฟต์แวร์เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นจากฟีเจอร์และสมรรถนะในการทำงานใหม่ๆ อยู่เสมออีกด้วย