ข่าว

 เจ้าชายมาเลย์ชนะคดีชายาหมิ่นประมาท

เจ้าชายมาเลย์ชนะคดีชายาหมิ่นประมาท

05 พ.ย. 2552

กลันตัน-เจ้าชายรัฐกลันตันของมาเลเซียชนะคดีหมิ่นฟ้องประมาทชายาลูกครึ่งอินโดนีเซีย-อเมริกัน

 นายโมฮัมหมัด ฮาซิก พิเลย์ ทนายความของ เต็งกู ฟากฮรี อิสลามาอิล เปตรา พระโอรสพระองค์ที่ 4 ในสุลต่านรัฐกลันตัน ทางเหนือของมาเลเซีย เปิดเผยว่า ศาลสูงมาเลเซียมีคำพิพากษาเมื่อวันพฤหัสบดี (5 พ.ย.) ให้ เต็งกู ฟากฮรี ชนะคดีหมิ่นประมาทที่ทรงฟ้องร้องพระชายา คือ นางมาโนฮารา โอเดเลีย พีโนต์ นางแบบลูกครึ่งอินโดนีเซีย-อเมริกัน วัย 17 ปี เพราะนางมาโนฮาราไม่มีทนายความที่เป็นตัวแทนเธอในศาล

 นางมาโนฮาราซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงในอินโดนีเซีย สมรสขณะมีอายุ 16 ปี กับ เต็งกู ฟากฮรี ซึ่งปัจจุบันมีพระชันษา 31 ปี เมื่อปีที่แล้ว แต่ได้หลบหนีจากโรงแรมแห่งหนึ่งในสิงคโปร์กลับอินโดนีเซียเมื่อเดือนพฤษภาคม ขณะตามเสด็จเจ้าชายที่ทรงพาพระบิดามารักษาโรคพระหทัยวายที่โรงพยาบาลและเธอกับมารดาได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนในเวลาต่อมาว่าถูกเจ้าชายกักขังและปฏิบัติต่อเธอเสมือนเป็นทาสทางเพศ และว่าเธอถูกทำร้ายร่างกายด้วย

 คณะทนายความชาวมาเลเซียที่เธอว่าจ้าง ลาออกเมื่อเดือนกันยายน โดยให้เหตุผลว่าเธอไม่ยอมให้ความร่วมมือ ไม่ออกคำสั่งที่ชัดเจน และปฏิเสธที่จะเดินทางกลับมาเลเซียเพื่อร่วมหารือกับพวกเขา ทำให้ศาลสูงระบุในตอนนั้นว่าจะตัดสินให้ฝ่ายเจ้าชายชนะคดี หากนางมาโนฮาราไม่อาจหาทนายความชุดใหม่ในมาเลเซียได้

 นายพิเลย์ กล่าวด้วยว่า เจ้าชายทรงระบุในคำฟ้องเรียกค่าเสียหายจากนางมาโนฮาราและมารดา 30 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,050 ล้านบาท) โทษฐานทำให้พระองค์เสื่อมเสียชี่อเสียง ซึ่งศาลจะตัดสินว่าพวกเธอสมควรจะต้องจ่ายค่าเสียหายมากเท่าใด และจะใช้มาตรการทางกฎหมายใดบังคับให้เธอจ่ายค่าเสียหาย และเน้นว่า เจ้าชายทรงสนพระทัยมากกว่าที่จะปกป้องชื่อเสียงของพระองค์ พระองค์ทรงพิสูจน์แล้วว่าทรงไม่มีความผิด แต่ถูกใส่ความให้เสียชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งล้วนเป็นเรื่องโกหก เพราะพวกเธอมีโอกาสจะกลับไปพิสูจน์ตัวเองที่มาเลเซีย แต่ไปยอมกลับไป

 เต็งกู ฟากฮรี ยังได้ฟ้องพระชายาในศาลชาเรียอิสลามเมื่อเดือนกรกฎาคมด้วย โดยเรียกร้องให้นางมาโนฮารากลับไปหาพระองค์และทำหน้าที่ในฐานะชายา คาดว่าศาลจะมีคำพิพากษาภายในไม่กี่สัปดาห์นี้ ซึ่งนายพิเลย์กล่าวว่า เจ้าชายจะดำเนินการหย่าร้างหากเธอปฏิเสธคำเรียกร้องของพระองค์