ทูตไทยประจำเขมรเรียกนักธุรกิจไทยประชุมด่วน | คมชัดลึก

 (5พ.ย.) จากกรณีที่รัฐบาลกัมพูชาประกาศตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ทำหน้าที่ที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน และที่ปรึกษาของรัฐบาลกัมพูชาด้านเศรษฐกิจ และจะไม่ส่งตัวทักษิณกลับไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนหากว่าเขามาพักอาศัยในกัมพูชา ส่งผลให้รัฐบาลไทยแถลงทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับกัมพูชา พร้อมเรียกเอกอัครราชทูตประจำกรุงพนมเปญกลับประเทศ

 นายประเสริฐ โสตถิพัฒนพงษ์ รองประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าการค้าชายแดนด้านอำเภออรัญประเทศแน่ เพราะที่ด่านคลองลึก เป็น 1 ใน 4 ด่านที่มีมูลค่าส่งออกสินค้าไปยังประเทศกัมพูชามากที่สุดถึงปีละกว่า 18,000 ล้านบาท โดยยอดส่งออกเมื่อกลางปีลดลงไปถึง 25% แต่ช่วงนี้ยอดส่งออกกระเตี้องขึ้นมา 15% และหาก พ.ต.ท.ทักษิณ  มาเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้กับรัฐบาลกัมพูชา ก็น่าวางแผนหามาตรการสกัดกั้นการส่งออกจากไทย เพื่อให้รัฐบาลปั่นป่วนในการเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ ให้กระทบการส่งออกซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดสระแก้วและของประเทศชะงัก และไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีก ในส่วนตัวมองว่าอาจจะกระทบถึงการปิดด่านเลยทีเดียว

 นอกจากนี้หลังปีใหม่เขตการค้าเสรีอาเซียนหรือ AFTA จะบังคับใช้ ซึ่งก็จะกระทบเรื่องพืชไร่บริเวณชายแดน ก็น่าจะเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเข้ามาให้คำปรึกษาแล้วอาจมีผลกระทบกับรัฐบาลไทยไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

 รองประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว กล่าวอีกว่า จากที่ไทยเรียกเอกอัครราชทูตประจำกรุงพนมเปญกลับประเทศ ตนเองเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนนักธุรกิจในกรุงพนมเปญ (เมื่อเวลา 18.00 น.) บอกมาว่า เอกอัครราชทูตได้เรียกประชุมนักธุรกิจไทยในพนมเปญให้เตรียมรับสถานการณ์ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้น