ประกาศ"กระแสต้านวัคซีน"คือภัยคุกคามสาธารณสุขโลก 

ภัยคุกคามสาธารณสุขโลก 10 อย่างที่องค์การอนามัยโลกประกาศว่าจะต้องให้ความใส่ใจในปี 2019 นอกจากโรคภัยไข้เจ็บและสถานการณ์สาธารณสุขที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว ยังมีอีกภัยที่อาจสร้างความประหลาดใจแก่หลายคนนั่นคือ กระแสต่อต้านวัคซีน 

วัคซีนช่วยป้องกันการเสียชีวิตทั่วโลก ปีละ 2 ล้าน ถึง 3 ล้านคน แต่กระแสที่องค์การอนามัยโลกใช้คำว่า vaccine hesitancy ซึ่งหมายถึงการชะลอรับวัคซีน หรือปฏิเสธวัคซีน  อาจจะทำให้ความก้าวหน้าในการต่อสู้โรคติดต่อ พลิกตาละปัตรได้ 

ยกตัวอย่าง โรคหัด โรคที่ป้องกันด้วยวัคซีน มีอัตราเพิ่มขึ้น 30 % ทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่า กระแสต้านวัคซีนอาจมีส่วนสำคัญ ในบางประเทศที่ใกล้ขจัดโรคนี้ได้แล้ว กลับพบผู้ป่วยกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง  

ดร.อาเมช อาดัลจา นักวิชาการอาวุโส ศูนย์ความปลอดภัยสาธารณสุขจอห์นส์ ฮอปกินส์ ในเมืองบัลติมอร์ กล่าวว่า การบรรจุกระแสต่อต้านวัคซีนอยู่ในภัยคุกคามสาธารณสุขโลก  คือการตอกย้ำอันตรายของกระแสนี้ 

 “หากมีการจัดทำลิสต์เมื่อ 100 ปีก่อน ภัยคุกคามสาธารณสุข 10 ชนิด ก็คงเป็นโรคติดต่อทั้งหมด แต่ปัจจุบัน ไม่ใช่ นั่นเพราะวัคซีน ความไม่เชื่อมั่นในวัคซีนจึงคุกคามความก้าวหน้ามหาศาลที่บังเกิดขึ้น” 

ดร.อดัลจา กล่าวว่า ความไม่เชื่อในวัคซีน เป็นปัญหาซับซ้อนยากสะสาง เพราะเหตุผลในการปฏิเสธวัคซีนแตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคล บางคนกังขาเรื่องความปลอดภัยทั้งที่ผลศึกษามากมายยืนยันว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ขณะอีกส่วนก็อาจคิดว่า ลูกหลานของตนได้รับวัคซีนมากเกินไปในช่วงเวลาอันสั้น และขอให้ทิ้งช่วง แต่ตารางการรับวัคซีนแบบทางเลือก ทำให้เด็กเสี่ยงติดเชื้อโรคติดต่อที่ป้องกันได้ 

องค์การอนามัยโลกระบุว่า อีกเหตุผลหนึ่งของการลังเลรับวัคซีนก็คือ ความนิ่งนอนใจ คนมองว่าความเสี่ยงโรคติดเชื้อ ไม่มากนัก ทั้งที่โรคเหล่านี้คือภัยคุกคามของแท้ 

สำหรับ 10 ภัยคุกคามสาธารณสุขโลกที่องค์การอนามัยโลกประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่ 
-มลพิษทางอากาศ และภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง 
-โรคไม่ติดต่อ 
-ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดทั่วโลก
-กลุ่มประชากรเปราะบางและอ่อนไหวต่อภัยสุขภาพ เช่น กลุ่มผู้อพยพ กลุ่มลี้ภัยสงคราม กลุ่มเด็ก ฯลฯ
-เชื้อโรคดื้อยา
-โรคอีโบลา และเชื้อที่มีความรุนแรงสูง
-ระบบสาธารณสุขมูลฐานที่ย่ำแย่
-ความไม่เชื่อมั่นในวัคซีน 
-โรคไข้เลือดออกเดงกี
-โรคติดเชื้อ HIV