
สลดหนุ่มอเมริกันผู้รอดจาก9/11 เสียชีวิตจากโจมตีโรงแรมในเคนยา
โศกนาฏกรรมชายอเมริกัน รอดจากเหตุวินาศกรรม 9/11 แบบโชคช่วย 18 ปีต่อมา ต้องมาจบชีวิตจากการก่อการร้ายในอีกทวีป
เหตุการณ์ที่ชาย 5 คนพร้อมอาวุธปืนและระเบิด บุกโจมตีโรงแรม ดุสิต ดี 2 ในกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เมื่อบ่ายวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ยืดเยื้อถึงเช้าของอีกวัน ได้คร่าชีวิตผู้เคราะห์ร้ายอย่างน้อย 21 คน โดยหนึ่งในนั้น คือนายเจสัน สปินด์เลอร์ นักธุรกิจชาวอเมริกันที่เสียชีวิตก่อนถึงวันเกิดครบรอบ 41 ปีในสัปดาห์หน้า
สปินด์เลอร์ จบด้านธุรกิจจากมหาวิทยาลัยเท็กซัส และได้รับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เป็นผู้ก่อตั้ง เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ ) และกรรมการผู้จัดการของ ไอ-ดีอีวี อินเตอร์เนชันแนล บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนและกลยุทธที่ต้องการขยายธุรกิจในตลาดเกิดใหม่อย่างเคนยา
ซาราห์ สปินด์เลอร์ มารดาของเขา กล่าวว่า ก่อนมาเปิดบริษัทเอง เขาเคยทำงานเป็นนักวิเคราะห์ที่โซโลมอน บราเทอร์ส อยู่ที่อาคารเวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์ ในนิวยอร์ก
ในเช้าของวันที่ 11 กันยายน 2544 เขาไปทำงานสายกว่าปกติ ขณะสลัดอากาศขับเครื่องบินพุ่งชนตึกแฝด และอาคารหลังแรกเริ่มพังลงมา เขาเพิ่งออกจากสถานีรถไฟใต้ดิน
ในปี 2546 สปินด์เลอร์ลาออกจากย่านวอลล์สตรีท มาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน ให้กับกลุ่ม ซาโลมอน สมิธ บาร์นีย์/ซิติกรุ๊ป ให้คำปรึกษาบริษัทขนาดเล็กหรือกลางในตลาดเกิดใหม่
สองปีต่อมา สมัครเข้าร่วม พีซ คอร์ปส์ เป็นอาสาสมัครพัฒนาธุรกิจและเศรษฐกิจ ช่วยเหลือเกษตรกรทางเหนือของเปรู ดำเนินงานสหกรณ์ที่จะช่วยให้พวกเขานำผลิตผลออกขายตลาดใหญ่
มารดาของเขากล่าวว่า เพราะความช่วยชอบช่วยเหลือผู้อื่นผ่านการทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุน เป็นเหตุให้เขาไปตั้งบริษัทอยู่ในกรุงไนโรบี และพำนักที่นั่นมา 5 ปีแล้ว นับจากเปิดบริษัทเมื่อปี 2550
สปินด์เลอร์กำลังรับประทานอาหารในร้านอาหารของโรงแรม แบบที่ทำเป็นประจำ และถูกโจมตีพร้อมกับลูกค้าและแขกที่เข้าพักในโรงแรม ในจำนวนนี้รวมถึง ลุค พอตเทอร์ พ่อชาวอังกฤษที่ทำงานกับองค์กรกุศลแห่งหนึ่งในเคนดา
คริส ชโรเดอร์ เพื่อนของเขา เขียนบนเฟซบุ๊กว่า เจสัน สปินด์เลอร์ เป็นหนึ่งในคนที่หาได้ยาก เป็นที่รักของทุกคนที่รู้จักทั้งในเคนยาและทั่วโลก สปินด์เลอร์เลือกใช้ชีวิตด้วยความหวังและเปิดรับทุกสิ่ง เขาดีใจที่ได้รู้จักและเรียนรู้จากคนคนนี้