"ประยุทธ์" ลั่น ไม่เป็นศัตรูกับใคร

          15 ม.ค.62-"ประยุทธ์" ลั่น ไม่เป็นศัตรูกับใคร เผย เข้ามาเป็นรัฐบาลไม่เหมาะกับตัวเอง แต่จำเป็นต้องทำ อย่ามองต้องการอำนาจ บอก ไม่มีความสุข ระบุ เห็นแววตาชาวบ้านชื่นชม ก็สะท้อนใจทำไมต้องเป็นตน

          ที่โรงเรียนอนุบาลแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เยี่ยมชมการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 โรงเรียนคุณภาพ ตามนโยบายรัฐบาล พร้อมพบปะผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 35 ลำปาง และพื้นที่บริหารการศึกษาประถมศึกษาลำปางเขต 1 -3  รวมถึงพบปะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องถิ่น           

         โดยนายกฯ กล่าวว่า ที่มาเพื่อให้รู้ว่าเรามีความจริงใจในการแก้ปัญหาให้ท่านอย่างไร และที่มาพบอย่ามองว่าตนเป็นศัตรู ไม่ได้ ตนไม่ได้เป็นศัตรูกับใครเลยแม้แต่คนเดียวในประเทศไทย หรือแม้แต่นอกประเทศก็ตาม จะเรียกร้องอะไรก็เรียกไป ตนจะไม่กล่าวถึงใครทั้งสิ้น วันนี้โซเชียลมีเดียมันเร็ว ทำผิดคนเดียวต่อให้ทำถูกร้อยคนยังไงก็โดน รัฐบาลก็โดนใครๆ ก็โดน ฉะนั้นต้องแยกแยะคนเหล่านี้ให้ออก

         "อาจจะพูดเสียงดังบ้าง แต่ให้รู้เจตนาเพื่อให้เข้าใจว่าผมต้องทำแบบนี้ และไม่โกรธผม การที่เข้ามาเป็นรัฐบาลได้ เป็นสิ่งที่มันอาจจะไม่เหมาะกับผม แต่มันเป็นเหตุผลและความจำเป็นก็ต้องทำ ขออย่ามองว่าที่ผมเข้ามาในวันนี้เพื่อต้องการมีอำนาจ ถ้าอำนาจมาแล้วมีผลประโยชน์ แล้วมีความสุข ผมว่าทุกคนก็อยากมา แต่ผมไม่มีความสุข ไม่มีความสุขจริงๆ ไม่ได้บ่น เพราะผมเห็นความหวังของชาวบ้านเยอะแยะ เห็นแววตาที่มองมาที่ผมแล้วก็ชื่นชม ผมก็สะท้อนใจทำไมต้องเป็นผม หลายท่านอาจจะไม่ชอบผมไม่เป็นไร" นายกฯกล่าว 

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายกฯและคณะ ได้กดปุ่มเปิดโครงการ 1 โครงการ 1 โรงเรียนคุณภาพ และเยี่ยมชมนิทรรศการผลงานนักเรียน อาทิ สิ่งประดิษฐ์เครื่องตรวจวัดอากาศ การแสดงนิทานหุ่นมือโดยเด็กๆได้เล่าเป็นภาษาอังกฤษ และนายกฯได้มาชมการเรียนการสอนและพบกับเด็กๆ โดยเมื่อมาถึงห้องเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นายกฯได้ร่วมกิจกรรมเต้นริมโบร๊อก" Limborock" กับเด็กๆอย่างสนุกสนาน ซึ่งเป็นการเต้นรอดไม้ เพื่อฝึกกล้ามเนื้อความสมดุลและความอ่อนตัวของร่างกาย ขณะที่เด็กๆต่างดีใจเข้าสวมกอดถ่ายภาพกับนายกฯ

"ประยุทธ์" ซัด "พรรคการเมือง" พูดไปเรื่อย "ครม.สัญจร" หาเสียง ย้อน "รัฐบาลเลือกตั้ง" มีเหมือนกัน โว ทุกคนมาต้อนรับด้วยความเต็มใจ ไม่ได้จ้างมา ยัน ตราบใดทำตามกม.อยู่ได้ก็ทำ ไปได้ถึงเมื่อไหร่พิจารณาเอง

           พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่(ครม.สัญจร) จ.ลำปาง ถึงกรณีพรรคการเมืองมองการประชุมครม.สัญจรเป็นการหาเสียง เรียกร้องให้ยุติ ว่า การที่บอกว่าการประชุมครม.นอกสถานที่เป็นการหาเสียง ตนเห็นพูดอยู่อย่างนี้ พูดไปเรื่อย อธิบายไปหลายครั้งแล้ว ทุกครั้งที่มาประชุมมารับฟังความคิดเห็นของประชาชน รับเรื่องร้องเรียนและขับเคลื่อนงาน อย่างเมื่อวันที่ 14 ม.ค. ลงพื้นที่รับเรื่องร้องเรียนมา 4-5 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นปัญหาเรื่องที่ดิน หนี้นอกระบบและได้อธิบายไปแล้ว การมาประชุมแต่ละครั้งไม่ใช่มา 2 วันแล้วจบ ทุกส่วนราชการส่งคนลงมาทำงานในแต่ละแห่ง ไม่ใช่มาตามนายกฯ อย่างเดียว ครม.ก็ช่วยกันตรวจงานประชาชนเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ซึ่งวันนี้เราต้องแก้ปัญหาใน 3 ระยะ คือ 1.มาตรการเร่งด่วนให้การช่วยเหลือ เช่นมาตรการช่วยเงินที่ให้ไปแล้ว ส่วนที่ 2 สร้างความเข้มแข็งและ3.การแก้ตามโครงสร้างซึ่งเป็นไปตามแผนแม่บท

           นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนได้สำเนารายละเอียดต่างๆว่าได้มีการหารืออย่างไรและสั่งการอะไรไปแล้วบ้างให้ผู้ว่าราชการจังหวัดว่าท่านเสนออะไรมา และรัฐบาลมีคำตอบอย่างไร เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำข้อมูลไปชี้แจงต่อประชาชนได้ว่าที่ขอมาอะไรได้บ้าง เพราะประชุมอย่างเดียวไม่มีเอกสารไม่ได้ และขอบคุณในการจัดการประชุมครั้งนี้ที่ดูแลทุกอย่างให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย การลงพื้นที่ของนายกฯหากไม่พบปะประชาชนก็ไม่รู้ต้องการอะไร ที่ผ่านมาตอนที่มีรัฐบาลเลือกตั้งก็เป็นนักการเมืองไปพบก็เหมือนนั้นแหละ ไปพบคนส่วนใหญ่ไม่ใช่ไปพบเฉพาะกลุ่ม เพราะฉะนั้นใครจะไปจะมาก็เรื่องของเขา ตนก็ถามผู้ว่าฯมีการเกณฑ์ใครมาหรือเปล่า ซึ่งทุกคนมาด้วยความเต็มใจ ถ้าไม่เต็มใจคงไม่มีใครมาพูดดีกับตนหรอก และการเกณฑ์คนไปเกณฑ์ได้ที่ไหน ไม่ได้ไปจ้างวานใครเขามา สิ่งต่างๆเหล่านี้ตนจะพิจารณาเองว่า จะทำอะไรเมื่อไหร่อย่างไร ตราบใดที่ตนยังทำตามกฎหมายอยู่ได้ตนก็ทำ คืออะไรที่ทำได้และอะไรเหมาะสม ทำได้ถึงเมื่อไหร่อย่างไรตนจะพิจารณาเอง

           พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนและขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ ทั้งสื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ ตนรู้ว่าทุกคนก็เสี่ยงในการนั่งรถรา แต่ขอให้การทำงานครั้งนี้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ สร้างการรับรู้กับประชาชนในภาพรวม ซึ่งพร้อมที่จะมีความเห็นต่าง โดยรัฐบาลพยายามที่จะถือมาตรการที่เป็นตรงกลางให้ได้ โดยนำกฎหมายมาเป็นหลักและหาวิธีการที่เหมาะสมมาดำเนินการ ไม่ใช่ทำนู่นทำนี่ให้หมด มันเป็นไปไม่ได้