
มานิตแจงเหตุกกต.เชือดใบหุ้นทรูหาย
มานิต แจงขายหุ้น ทรู ก่อนเป็น รมต. แต่ทำใบหุ้นหาย ยันมี ใบแจ้งความ สภอ.ราชบุรี เป็นหลักฐานชัด ระบุยังไม่ลาออกจาก รมช.สธ. มีงานรออีกมากต้องอยู่ช่วย รมว.สธ.ก่อน แถมกรณี ไชยา เมียซุกหุ้น ยังทำงาต่อได้จนศาล รธน.ชี้ขาด ย้ำไม่หนักใจ แต่ขอให้ทำบรรทัดฐาน
ที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 4 พ.ย. นายมานิต นพอมรบดี รมช. สาธารณสุข กล่าวถึงกรณี กกต.ชี้มูลให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีกรณีถือหุ้นขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 267 ว่า หลังทราบผลตนได้แจ้งต่อนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และผู้ใหญ่ภายในพรรคทราบซึ่งอยู่ระหว่างประชุมพรรคเพื่อที่จะได้หารือว่าการวินิจฉัยของ กกต. มาจากสาเหตุใด ซึ่งกรณีการถือหุ้นของบริษัทบริษัททรู คอปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 500 หุ้น ที่ทาง กกต.นำมาวินิจฉัยนั้น
เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนได้ทำใบหุ้นหายไป และก่อนที่ตนจะเข้าดำรงตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข เมื่อทราบเรื่องนี้ก็ได้เข้าแจ้งความต่อ สภอ.เมืองราชบุรี เพื่อเป็นหลักฐานไว้ว่า ใบหุ้นนี้หายไปก่อนที่ตนมารับตำแหน่ง และกระบวนการออกใบหุ้นใหม่นั้นก็ต้องใช้เวลา โดยระหว่างนั้นตนก็ได้ทำสัญญาขายหุ้นไปแล้ว มูลค่าหุ้นในขณะนั้นราคาเพียงแค่หุ้นละบาทกว่าเท่านั้น เงินที่ได้มาแค่ไม่กี่ร้อยบาท และการส่งเอกสารที่ชี้แจง กกต. ก็ส่งเอกสารเหล่านี้ไปด้วย ดังนั้นที่รอดูคำวินิจฉัยจาก กกต. ก็เพื่อดูว่า เป็นเรื่องนี้หรือไม่ และจะรวบรวมข้อมูลเพื่อชี้แจงในขั้นศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
นายมานิต กล่าวว่า ส่วนจะต้องแสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยนั้น เห็นว่า เรื่องนี้ตนอยากทำเป็นบรรทัดฐาน เพราะหุ้นเหล่านี้ ขณะที่เปิดออกขายหลายคนก็คงซื้อจองไว้และก็ลืมไป เพราะเป็นเงินแค่เล็กน้อย ดังนั้นเรื่องนี้ก็อยากให้มีบรรทัดฐานว่า ผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อใบหุ้นที่ถือไว้หายไปจะต้องทำอย่างไร มีขั้นตอนปฏิบัติอย่างไรเพื่อให้ถูกต้อง เพราะตนก็ได้แจ้งความที่เป็นการแสดงเจตนาไว้แล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ตนคงต้องรอผลวินิจฉัยจาก กกต.อย่างเป็นทางการก่อน จึงจะนำเรื่องมาดูว่าจะทำอย่างไรต่อไป เช่น การยื่นไปยังศาลปกครองเพื่อขอการคุ้มครองชั่วคราว ในระหว่างที่รอการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนการทำงานในตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข หลังจาก กกต.วินิจฉัยนั้น นายมานิต กล่าวว่า หากไม่มีผลกระทบอะไรในส่วนรับผิดชอบ เราก็ยังทำงานต่อไปได้ ซึ่งก่อนหน้านี้นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีต รมว.สาธารณสุข หลังถูก กกต. วินิจฉัยก็ยังทำงานอยู่ จึงจะดูว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง
“ไม่รู้สึกหนักใจ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นควรที่จะมีการวางบรรทัดฐานว่า ในกรณีที่ใบหุ้นหายควรทำอย่างไร เพื่อที่จะได้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง หากใครไม่ระมัดระวังก็จะเจอเหมือนผม ถือเป็นอุทธาหรณ์” นายมานิต กล่าว และว่า ทั้งนี้ตนยังไม่เสียกำลังใจและยังทำงานได้อยู่ ซึ่งมีงานอีกมากที่ยังรอแก้ปัญหาอยู่ โดยเฉพาะโรคระบาด ซึ่งยังต้องช่วย รมว.สาธารณสุขทำงานต่อไปก่อน เพราะก่อนหน้านี้คณะทีมที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนกรณีนี้จะนำไปสู่การปรับ ครม. หรือไม่ คงต้องให้ผู้ใหญ่ในพรรคเป็นผู้พิจารณา
ต่อข้อซักถามว่า มองอย่างไรกับ มาตรา 267 ตามรัฐธรรมนูญ นายมานิต กล่าวว่า กฎหมายทุกฉบับเราคงต้องน้อมรับ เพราะการออกกฎหมายต่างมีเจตนาที่ดี เพียงแต่ในฐานะคนปฏิบัติตามกฎหมายจะดูให้ดี รอบครอบ เนื่องจากกฎหมายปัจจุบันข้อที่ต้องปฏิบัติตามมากขึ้น ดังนั้นนักการเมืองต้องยอมรับและทำตามหากจะเข้ามาทำงานการเมืองให้กับประชาชน ดังนั้นไม่ว่าจะมีการขีดกรอบอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตาม ทั้งนี้ตอนที่ตนเข้ามาทำงานการเมืองและรับตำแหน่งก็ให้นักกฎหมายช่วยดูเพื่อที่จะได้ดำเนินการให้ถูกต้อง แต่ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 ค่อนข้างละเอียด จึงฝากเตือนไปยังนักการเมืองว่า ต่อไปคนที่จะเข้ามาเล่นการเมืองจะต้องละเอียดรอบคอบพอสมควรเพื่อจะไม่เกิดปัญหา