ทบ.ย้ายผู้บังคับการกรมทั่วประเทศ256อัตรา | คมชัดลึก

 (2 พ.ย.)รายงานข่าวจากกองบัญชาการกองทัพบกว่า เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (ผบ.นขต.ทบ.) ระดับนายพลขึ้นไป โดยมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. พล.อ. ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ พล.อ. วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผบ.ทบ.และ พล.อ. พิรุณ แผ้วผลสง เสนาธิการทหารบก รวมถึงแม่ทัพภาคที่ 1,2,3 และ 4 เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง

 รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนการประชุมได้แจกจ่ายสำเนาคำสั่งการปรับย้ายนายทหารระดับ (พันเอกพิเศษ) หรือการปรับย้ายนายทหารระดับรองผู้บัญชาการ , รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบก (ผบ.มทบ.) , รองเจ้ากรม และผู้บังคับการกรม ซึ่งเป็นการปรับย้ายนายทหารระดับผู้บังคับการกรมในหน่วยต่างจังหวัด ก่อนที่ พล.อ.อนุพงษ์ จะลงนามคำสั่งดังกล่าวที่ 291/2552 เรื่องให้นายทหารรับราชการ และปรับระดับเงินเดือน จำนวน 256 ตำแหน่ง ในช่วงเย็นวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ได้แจกจ่ายคำสั่งในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งคำสั่งปรับย้ายนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ได้หารือและร่วมจัดทำกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานบอร์ดการพิจารณาย้ายนายทหารระดับพันเอกพิเศษ

รายงานข่าวระบุว่า การปรับย้ายนายทหารระดับ พ.อ.พิเศษ ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้จัดวางนายทหารคนใกล้ชิดเข้าไปรับตำแหน่งในหน่วยสำคัญระดับรองผู้บัญชาการกองพล และผู้การกรม เพื่อจ่อคิวในการปรับย้ายครั้งหน้า โดยมีตำแหน่งที่น่าจับตา เพราะมีการปรับย้ายนายทหารจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) หรือบูรพาพยัคฆ์ เข้ามารับตำแหน่งสำคัญในหน่วย กทม. ร่วมทั้งโยกผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.21 รอ.) หรือหน่วยทหารเสือราชินี ขึ้นจ่อเป็นรอง ผบ.พล.ร.2 รอ. เพื่อเตรียมขยับคุมตำแหน่งเป็นผบ.พล.ร.2 รอ. ในเดือนตุลาคมนี้

 โดยจะโยก พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผบ.พล.ร.2 รอ. คนสนิท พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ในปีหน้า เพื่อจ่อคิวขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับการก้าวรับตำแหน่ง ผบ.ทบ. ที่คาดว่า พล.อ. อนุพงษ์ จะเสนอชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. แทน พล.อ. อนุพงษ์ ที่เกษียณในวันที่ 1 ตุลาคม 2553

 สำหรับตำแหน่งที่สำคัญประกอบด้วย พ.อ.สุรพล ตาปนานนท์ (ตท.22) นายทหารฝ่ายเสธ.ประจำ ผบ.ทบ. โยกมาเป็นผู้อำนวยการส่วนสนับสนุนกองบัญชาการกองทัพบก (ผอ.สสน.บก.ทบ.) ดูแลกำลังหลักในกองบัญชาการกองทัพบกทั้งหมด พ.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ (ตท.18) ผบ.ร.21 รอ. หรือทหารเสือราชินี ซึ่งเป็นนายทหารคนสนิท พล.อ. ประยุทธ์ ขึ้นเป็น รองผบ.พล.ร.2 รอ. เพื่อจ่อคิวเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. โดยโยก พ.อ.บัญชา ทองวิลัย รองผบ.พล.ร.2 รอ. เป็น รองผบ.มทบ.12 ดูแลฝั่งชายแดน จ.สระแก้ว และ จ.ปราจีนบุรี

 พ.อ.สิงหศักดิ์ อุทัยมงคล (ตท.16) รอง ผบ.มทบ.12 ข้ามฝากมาจ่อเป็น รองผบ.มทบ.11 พร้อมดึง พ.อ.จิระพันธ์ มาลีแก้ว (ตท.17) ผู้บัญชาการกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.31 รอ.) มาเป็น รองผบ.มทบ.11 เช่นเดียวกับลูกหม้อทหารเสือฯคนอื่นๆ อาทิ พ.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ (ตท.22) รอง ผบ.ร.21 รอ.ขึ้นเป็น ผบ.ร.21 รอ. พ.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ (ตท.22) รอง ผบ.ร.31 รอ.เป็น ผบ.ร.31 รอ. พ.อ.เครือนาค เกิดขำ (ตท.16) ผู้บัญชาการกรมทหารราบที่ 29 (ผบ.ร.29) เป็นรองผบ.พล.ร.9 ดูแลพื้นที่ฝั่งตะวันตก พ.อ.เกษม เบญจนิรัติศัย ผู้บังคับการกรมสนับสนุนกองพลทหารราบที่ 9 (ผบ.กรม สน.พล.ร.9) เป็น ผบ.ร.29

 พ.อ.สิทธิ จันทร์สมบูรณ์ (ตท.15) รองผบ.มทบ. 23 เป็นรอง ผบ.พล.ร.3 พ.อ.วิชา สิงหสุรศักดิ์ (ตท.15) รองผบ.จทบ.สุรินทร์ เป็น รองผบ.มทบ.21 พ.อ.ณรงค์ศักดิ์ ศรีพิกุล (ตท.14) ผู้บังคับการกรมปืนใหญ่ที่ 6 (ผบ.ป.6) เป็น รองผบ.มทบ. 22 พ.อ.จารุเกียรติ ชัยวงษ์ (ตท.14) รอง ผบ.จทบ.สุรินทร์ เป็น รองผบ.มทบ.23 พ.อ.ยงยุทธ สอนไม้ (ตท.16) รอง ผบ.ป.3 เป็นผบ.ป.3 พ.อ.มนัส หนูวัฒนา (ตท.17) รองผบ.ป.6 เป็น ผบ.ป.6 พ.อ.ชัยณรงค์ แกล้วกล้า (ตท.17) เสนาธิการกองพลทหารม้าที่ 1 (เสธ.พล.ม.1) เป็น รองผบ.พล.ม.1 พ.อ.สราวุธ เมืองแมะ (ตท.19) รองผู้บัญชาการกรมทหารช่างที่ 3 (รอง ผบ.ช.3) เป็น ผบ.ช.3

 พ.อ.สายัณห์ เมืองศรี (ตท.18) ผู้อำนวยการกองกำลังพลหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผอ.กกพ.นสศ.) เป็น ผู้บัญบังคับการกรมรบพิเศษที่ 5 (ผบ.รพศ.5) พ.อ.อาชาไนย ศรีสุข (ตท.15) เสธ.พล.ม.2 รอ.เป็น รองผบ.พล.ม.2 รอ. พ.อ.ทัตเทพ รอดจิตต์ (ตท.19) รองผบ.พล.ม.1 รอ. เป็น ผบ.ม.4 รอ. พ.อ.บรรลือ อ่ำบุญ (ตท.18) นายทหารปฏิบัติการศูนย์การทหารปืนใหญ่ (ศป.) เป็น ผบ.ป.72 พ.อ.อรรถพร อินทรทัต (ตท.21) ผู้บังคับหน่วยข่าวกรองทางทหารกองทัพภาค (ผบ.หน่วย ขกท.ทภ.) เป็น ผบ.หน่วยข่าวกรองทางทหารหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ขกท.นสศ) ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของ พล.อ. ไตรรงค์ อินทรทัต หรือเสธ.ไอซ์ เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 10 (ตท.10) กับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี