
ปชป.โวยแบ่งเขตเลือกตั้งสุโขทัย เอื้อปย.บางพรรค
ปชป.โวยแบ่งเขตเลือกตั้งสุโขทัย เอื้อปย.บางพรรค ปลุกคนสุโขทัยสั่งสอน ไม่เอาคนโกง-ไม่อยู่ข้างเผด็จการ แฉสารพัดกลโกง แจก-จ่ายก่อนประกาศ พรฎ.ลต.จี้ กกต.ลงพื้นที่
วันที่ 29 พ.ย. 61 -นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล อดีตส.ส.สุโขทัย พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่ กกต. ได้แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ว่า “แค่เริ่มแบ่งเขตก็เริ่มไม่โปร่งใสแล้ว กกต.จ.สุโขทัยผ่านรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งไป 3 รูปแบบ กลับมีแบบที่ 4 โผล่มา แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่หมด ทั้งๆ ที่สุโขทัยมีการแบ่งเขตเลือกตั้งไปแล้วเมื่อปี 57 และปีนี้เขตเลือกตั้งเท่าเดิม (ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง ตอนนี้ประธาน กกต.ยังไม่ได้เซ็นต์นะครับ) จำนวนประชากรแบบเก่ากับแบบใหม่อาจใกล้เคียงกัน แต่พื้นที่เขตเลือกตั้งในเขต 2 ระหว่างอำเภอบ้านด่านลานหอยกับอำเภอทุ่งเสลี่ยมมันติดกันตรงไหนครับ มีส่วนติดกันอยู่แค่ประมาณ 500 เมตร ไม่เป็นไปตามกฎหมาย พรป.ส.ส.เลยซักนิดที่ว่า "พื้นที่เลือกตั้งในแต่ละเขตต้องติดต่อใกล้ชิดกัน" มันติดต่อใกล้ชิดกันตรงไหน (ตามรูปที่ส่งมาเลยครับ ที่ผมวงกลมสีแดงไว้)
“ผมขอปลุกพลังคนสุโขทัยครับ ว่าเราต้องไม่เอาคนโกงมาเป็นตัวแทนของเรา "จังหวัดสุโขทัยไม่ใช่จังหวัดของคนขี้โกง" และประกาศไปเลยครับว่า เราไม่ขออยู่ข้างเผด็จการ โดยใช้การเลือกตั้งในครั้งนี้สั่งสอน ไม่เป็นไรครับ เล่นมาแบบนี้ ผมจะทำให้เซอร์ไพรส์ยิ่งกว่า...”
ทั้งนี้ นายสัมพันธ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ตนเคยบอกไว้ว่าเผด็จการจะชนะประชาธิปัตย์ได้ไม่กี่วิธี เช่น 1.การดูด ส.ส.จากทุกภาค ทุกพรรคเข้าไปสังกัดพรรคเครือข่ายของเผด็จการทหาร 2.ถ้าจังหวัดไหนผู้สมัครของเขาเสียเปรียบก็จะแก้เกมโดยการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ด้วยการใช้อำนาจหัวหน้าคสช.มาตรา 44 มารองรับรับ 3.ก่อนการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ส.ส.จะมีการปูพรมแจกจ่ายทั้งเงินและผลประโยชน์ต่างตอบแทนในรูปแบบต่างๆ ผ่านระบบตัวแทน เป็นเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ คือ ให้ผู้นำชุมชนเก็บบัตรประชาชนของชาวบ้านในตำบลและหมู่บ้าน มีการแบ่งสายไปฟังการปราศรัยในชุมชนนั้นๆ 15-20 นาที หลังการฟังปราศรัยจากผู้สมัครของพรรคการเมืองที่สนับสนุนคสช.ก็มีการรับเงินจากตัวแทนหัวละ 300 บาท ส่วนบัตรที่เก็บไปอ้างว่าจะนำไปทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ทุกคน โดยรวบรวมไปส่งที่ผู้สมัครพรรคการเมืองดังกล่าว ซึ่งการกระทำเช่นนี้ก็เพื่อหวังผลทางการเมืองในการเลือกตั้ง จึงขอให้ กกต.ส่งฝ่ายสืบสวน สอบสวนไปเก็บข้อมูล เบื้องลึกในพื้นที่.