ข่าว

 โจรร้อยเล่ห์สุดแสบ..หนีศาล 3ครั้ง

โจรร้อยเล่ห์สุดแสบ..หนีศาล 3ครั้ง

02 พ.ย. 2552

บ่ายแก่ๆ วันที่ 16 ตุลาคม 2552 เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทราวิ่งวุ่นทั่วศาล เมื่อผู้ต้องหาคนหนึ่งอาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่ไขกุญแจห้องควบคุมหลังอาคารศาล

 เพื่อนำตัวผู้ต้องหาคนหนึ่งไปขึ้นศาล แล้ววิ่งสวนออกมาฝ่าฝูงชน ตรงไปยังโรงจอดรถผู้พิพากษาฝั่งถนนสวนสมเด็จฯ ที่มีต้นไม้และเถาวัลย์ขึ้นปกคลุมหนาแน่น เหยียบหลังคารถกระโดดข้ามกำแพงเหล็กหลบหนีออกไปขึ้นรถเก๋งมิตซูบิชิ โหลดเตี้ย ติดสปอยเลอร์หลัง ที่มาจอดคอยอยู่นานแล้ว เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งความชุลมุนสับสนไว้เบื้องหลัง พร้อมกับกุญแจมืออีกคู่ไว้ดูต่างหน้าในห้องควบคุม

 หลังเกิดเหตุ "สุริยนต์ โสดพิทักษ์" ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ออกมาระบุว่าผู้ต้องหาที่หลบหนีเป็นผู้ต้องหาคดีวิ่งราวทรัพย์ท้องที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ตามคดีหมายเลขดำที่ 3513/52 ถูกควบคุมตัวมาส่งคืนขอถอนประกันตัวจากนายประกัน

 คล้อยหลังไม่นาน "อุรุชา สุขพรศิริ" ผู้อำนวยการสำนักงานประจำศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เดินทางเข้าพบ ร.ต.ต.เทอดพงศ์ เมืองบัน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา แจ้งความถึงกรณีผู้ต้องหาหลบหนีศาล

 โจรร้อยเล่ห์พันมารยาคนนี้มีพฤติกรรมสุดแสบ เคยหลบหนีในชั้นจับกุมส่งศาลมาแล้วถึง 3 ครั้ง 3 หน กระทั่งครั้งล่าสุดก็ยังหลุดรอดจากการควบคุมของศาลจังหวัดฉะเชิงเทราอีก จากการตรวจสอบของตำรวจพบว่า ผู้ต้องหารายนี้ คือ นายเจษฎา คำโพธิ์ อายุ 20 ปี เดิมมีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 17/1 หมู่ 3 ต.ประดาง อ.วังเจ้า จ.ตาก เคยก่อเหตุทั้งคดีลักทรัพย์และพยายามฆ่ามาแล้วโชกโชน เคยถูกตำรวจ สภ.แม่ท้อ อ.เมืองตาก จ.ตาก จับกุมมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2551 และหลบหนีในชั้นศาลจังหวัดตาก

 นอกจากนี้ หลังรอดพ้นเงื้อมมือกฎหมายครั้งแรกมาได้ ยังก่อคดีร่วมกันลักทรัพย์และร่วมกันพยายามฆ่า ตามคดีดำที่ 318/2551 และคดีร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน ตามคดีดำที่ 240/2551 ต่อมาได้หลบหนีในชั้นจับกุมคดีวิ่งราวทรัพย์ ท้องที่รับผิดชอบ สภ.เมืองตาก

 พฤติกรรมสุดแสบของผู้ต้องหารายนี้ยังไม่จบเพียงแค่นี้ หลังจากหลบหนีในชั้นศาลมาได้ถึง 2 ครั้ง 2 คราแล้ว ยังชะล่าใจถึงกับก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะตามคดีดำที่ 1348/2551 ในท้องที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ และหลบหนีออกมาจากศาลจังหวัดนครสวรรค์ได้อีกคำรบหนึ่ง จากนั้นได้เปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามเสียใหม่จาก "เจษฎา คำโพธิ์" วัย 20 ปี มาเป็น "ฉัตรชัย น้อมมนัส" วัย 18 ปี ชาว อ.หนองวัว จ.อุดรธานี เข้ามาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในพื้นที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวส่งฟ้องศาล ท้ายที่สุดก็อาศัยความช่ำชองที่มีอยู่เดิม สะเดาะกุญแจมือหลบหนีไปได้

 หลังก่อเหตุมาอย่างโชกโชนและสามารถหลบหนีออกไปได้ราวปาฏิหาริย์ มีการวิเคราะห์กันในหมู่ตำรวจว่า คนร้ายรายนี้มีการนัดแนะกับเพื่อนร่วมขบวนการหรือญาติ วางแผนหลบหนีไว้อย่างรัดกุมระหว่างการส่งข้าวส่งน้ำตอนอนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยม โดยพิจารณาจากการนำรถยนต์มาจอดรอคอยเวลาเตรียมรับตัวพาหลบหนีรอบตัวอาคารศาลที่มีถึง 3 ทิศทาง รวมทั้งสิ้น 3 คัน คือ ด้านหน้าและด้านข้างทั้งสองฝั่ง หากออกมาทางใดทางหนึ่งก็สามารถขึ้นรถแต่ละคันตามจุดนัดหมายได้ทันที

 แต่วิธีสะเดาะกุญแจมือออกนั้น จนถึงขณะนี้ก็ยังมืดมนไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า โจรรายนี้ใช้วิธีไหนและทำอย่างไร !?!

 อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุพรรณ พลภักดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เจ้าของคดีผู้ต้องหาหลบหนีจากที่คุมขังภายในศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับโอนคดีดังกล่าวมาจาก พ.ต.ต.เทอดพงศ์ เมืองบัน เนื่องจากเคยเป็นพนักงานสอบสวนในคดีวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะตามคดีที่ส่งฟ้องศาลไปก่อนหน้านี้ หมายเลขดำที่ 1351/2552 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2552 ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเสนอออกหมายจับโจรร้อยเล่ห์หนีศาลอีกครั้งแล้ว
 
 สนทะนาพร อินจันทร์