กทม.ทุ่มหมื่นล้านสร้างสะพานลดจราจร | คมชัดลึก

 รายงานข่าวจากสำนักการโยธา (สนย.) กทม.แจ้งว่า ขณะนี้ สนย.อยู่ระหว่างการคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษา เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และกำหนดแนวสายทางโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 4 แห่ง มูลค่าการก่อสร้างรวมจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเกียกกาย สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท่าน้ำราชวงศ์-ท่าดินแดง สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ ถ.ลาดหญ้า-ถ.มหาพฤฒาราม และ สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ ถ.จันทน์-ถ.เจริญนคร

 คาดว่าภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะสามารถเสนอบริษัทที่ปรึกษาได้ โดยจะมีหน้าที่เป็นผู้ออกแบบและกำหนดแนวสายที่ชัดเจน ว่าบริเวณใดจะถูกกระทบจากการเวนคืนบ้าง โดยจะใช้เวลาในการศึกษาออกแบบรวม 1 ปี และเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องของการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน เนื่องจากหากการก่อสร้างแล้วเสร็จ โครงการทั้งหมดจะสามารถระบายการจราจรที่หนาแน่นให้เบาบางลงได้

 สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้าแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 4 แห่งนั้น เดิม กทม.เคยทำเรื่องเสนอของจ้างบริษัทที่ปรึกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่มีการประท้วงจากประชาชน โครงการจึงได้ชะงักไป แต่ต่อมาสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) พิจารณาแล้วเห็นว่า โครงการมีความจำเป็น เพราะสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีอยู่ในปัจจุบัน ยังไม่เพียงพอกับการเชื่อมระหว่างฝั่งธน และฝั่งพระนคร จึงให้เดินหน้าโครงการทั้งหมดต่อไป

 สะพานที่มีความพร้อมที่จะก่อสร้างได้เป็นลำดับแรก คือสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณแยกเกียกกาย เพื่อให้ทันรองรับการจราจรที่จะหนาแน่นขึ้น หลังจากที่รัฐบาลมีแผนจะก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่บริเวณแยกเกียกกาย หากไม่เร่งดำเนินการสะพานซังฮี้จะไม่สามารถรองรับปริมาณการจราจรได้ทั้งหมด

 สำหรับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณแยกเกียกกาย เป็นสะพานขนาด 4 ช่องจราจร ระยะทาง 2.6 กิโลเมตร มูลค่า 4,400 ล้านบาท แนวโครงการจะสามารถรองรับการจราจรบริเวณรัฐสภา และใกล้กับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง

 ส่วนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท่าน้ำราชวงศ์-ท่าดินแดง เป็นสะพานขนาด 4 ช่องจราจร ระยะทาง 450 เมตร มูลค่า 1,000 ล้านบาท สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ ถ.จันทน์-ถ.เจริญนคร เป็นสะพานขนาด 4 ช่องจราจร ระยะทาง 450 เมตร มูลค่า 3,260 ล้านบาท และสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ ถ.ลาดหญ้า-ถ.มหาพฤฒาราม เป็นสะพานขนาด 6 ช่อง ระยะทาง 210 เมตร มูลค่า 2,400 ล้านบาท