นักข่าวญี่ปุ่นเล่าวิบากกรรม 3 ปี 4 เดือนถูกลักพาตัวในซีเรีย

                    จุมเป ยาสุดะ นักข่าวอิสระชาวญี่ปุ่นที่ได้รับอิสรภาพในสัปดาห์นี้ หลังถูกลักพาตัวและกักขังในซีเรียมาตั้งแต่ปี 2558  ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางโดยเที่ยวบิน เตอร์กิช แอร์ไลนส์ จากอิสตันบูล ประเทศตุรกี มุ่งหน้ากรุงโตเกียวในวันนี้ ว่าวิบากกรรม 3 ปี 4 เดือนในซีเรียคือนรก 

 

 

 

                    “มันทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ ความคิดในแต่ละวันที่ว่า ผมไม่ได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ ทำให้ผมสูญเสียการควบคุมตัวเองทีละน้อย เริ่มรู้สึกว่าชีวิตในห้องขังเดี่ยวคือเรื่องปกติ และประหลาดใจกับความรู้สึกนั้น การมีความคิดแบบนั้นได้คือเรื่องที่เศร้ามาก”  

                    ยาสุดะ วัย 44 ปี กล่าวว่า ตลอดเวลา 40 เดือน ไม่ได้พูดภาษาญี่ปุ่นสักคำเดียว จนบางครั้งต้องนึกหาคำที่ถูกต้อง  ผมมีความสุขที่ได้กลับญี่ปุ่น  ขณะเดียวกัน ก็คิดไม่ออกว่าจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร จะทำตัวอย่างไร ผมหลงทาง ไม่รู้ว่าจะคิดอะไรดี” 

                    นักข่าวสงครามรายนี้ ถูกลักพาตัวในซีเรียเมื่อเดือนมิถุนายน 2558 โดยตอนแรกมีรายงานว่าเป็นฝีมือของแนวร่วมอัล นุสรา อดีตเครือข่ายอัลกอดิดะห์ แต่อัลนุสรา ที่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ฮายัต ตอห์รีร์ อัล ชาม ออกแถลงการณ์ปฏิเสธในสัปดาห์นี้   

 

                    ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข่าวคราวของเขาขณะถูกกักขังมีน้อยมาก กับมีคลิปวิดีโอแปลกๆโผล่เมื่อ 31 กรกฎาคม  ยาสุดะปรากฎตัวกับอเลสซานโดร ซานดรินี ชายชาวอิตาลี ทั้งคู่สวมชุดสีส้มเรียกร้องขอให้ช่วยปล่อยตัว โดยมีชายถืออาวุธปิดหน้ายืนคุมอยู่ด้านหลัง แต่ยาสุดะ ให้ชื่อตนเองว่า โอมาร์ เป็นชาวเกาหลีใต้ แต่ภรรยาของเขา ยืนยันชายในคลิปเป็นสามีของเธอ คลิปนี้ไม่ได้ระบุข้อเรียกร้องและไม่บอกว่าใครคือคนที่ควบคุมตัวเขาอยู่ 

                    ยาสุดะ อธิบายว่าเหตุที่ให้ชื่อว่า โอมาร์ และอ้างว่าเป็นชาวเกาหลีใต้ในคลิป เพราะทำตามคำสั่งที่ไม่ให้บอกชื่อจริง หรือบอกว่าเป็นคนญี่ปุ่น 

  

 

                 อดีตตัวประกันกล่าวด้วยว่า เป็นเวลา 8 เดือนที่เขาถูกขังเดี่ยวในห้องเล็กๆ ขนาดกว้าง  1 เมตร คูณ 1.5 เมตร และนับจากปี 2559 คนที่จับตัวหลอกเขาเกือบทุกวันว่าจะได้รับการปล่อยตัวอีกไม่นาน  ขณะผู้คุมก็ไม่ยอมให้เขาทำอะไรได้มากนัก ห้ามส่งเสียง กระทั่งหักข้อนิ้วก็ไม่ได้  ตอนนอนก็ห้ามกระดิกตัว ในด้านจิตใจก็หนักพอกัน  เช่น พวกเขาไม่นำอาหารมาให้ หรือหากให้อาหารกระป๋อง ก็จะไม่ให้ที่เปิดกระป๋องมาด้วย  นอกจากนี้เขายังเห็นเพื่อนตัวประกันถูกทุบตีอย่างทารุณ 

    

 

                การถูกกักขังเป็นเวลานานทำให้เขาเหนื่อยง่าย เพราะสภาพร่างกายที่อ่อนแอลง แต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาสุขภาพร้ายแรง  
                    ยาสุดะ กล่าวว่า เขาคิดว่าตนเองถูกขังในจังหวัดอิดหลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย หนึ่งในพื้นที่สุดท้ายที่กบฏซีเรียและกลุ่มสุดโต่งยังปักหลัก  

                    เหตุใดยาสุดะจึงได้รับการปล่อยตัวยังคลุมเครือ  ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย ซึ่งเป็นกลุ่มจับตาสงครามกลางเมืองมีที่ตั้งในอังกฤษ กล่าวว่า มีการจ่ายเงินค่าไถ่ แต่รัฐบาลญี่ปุ่นปฏิเสธ