ตร. พญาไท ปิดล้อมรวบ 22 เด็กแว้น
ตร. พญาไท นำกำลังจับเด็กแว้น ปิดล้อม - ไล่ต้อนเข้าไปในซอยตัน ได้ผู้ต้องหา 22 คน หนึ่งในนั้นเรียนนิติศาสตร์ และเป็นลูกอดีตตำรวจยศ พ.ต.อ. อีกด้วย
เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 22 ตุลาคม 2561 พ.ต.ท.บวรภพ สุนทรเรขา รอง ผกก.จร.สน.พญาไท พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายจราจร ร่วมกันปราบปรามการแข่งรถในทางสาธารณะ และทำการปิดล้อมได้ภายในบ้าน ซ.สวนเงิน แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. สามารถควบคุมเยาวชน ชาย - หญิง ได้ 22 คน จยย. 15 คัน โดยหนึ่งในนั้นเรียนนิติศาสตร์ และเป็นลูกอดีตตำรวจยศ พ.ต.อ. อีกด้วย
ที่เกิดเหตุเข้ามาสุดซอย ซ.สวนเงิน 500 เมตร เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด พบเยาวชนชาย 17 คน หญิง 5 คน รวม 22 คน มีอายุตั้งแต่ 14 - 20 ปี รถ จยย. 15 คัน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มวัยรุ่นมีใบขับขี่เพียงคนเดียว ส่วนรถ จยย. ทั้งหมดมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ มีนายณัชพล หรือ พล พรหมคง อายุ 20 ปี นักศึกษาปีที่ 2 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง บุตรชาย พ.ต.อ.พันธ์ศักดิ์ พรหมคง อดีตข้าราชการตำรวจ นรต. รุ่น 33 อยู่ด้วย
น.ส.มัลลิกา พาวุฒิ อายุ 26 ปี ผู้อาศัยบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนพักอาศัยกับครอบครัว ก่อนเกิดเหตุกลางดึกประมาณตี 4 ได้ยินเสียงรถดังลั่น นึกว่ามีอุบัติเหตุร้ายแรงอยู่บนถนน จากนั้นเสียงรถเริ่มดังสนั่นหวั่นไหวภายในซอยจนมาสุดที่หน้าบ้านของตน ไม่นานนักเห็นไซเรนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเปิดประตูออกมาดูเห็นเด็กวัยรุ่นและ จยย. อยู่เต็มพื้นที่หน้าบ้าน ตกใจและกลัวมาก ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตน
พ.ต.ท.บวรภพ กล่าวว่า สืบเนื่องจากขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรออกปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ พบกลุ่ม จยย. กว่า 30 คัน รวมตัวกันแข่งรถบริเวณแยกโรงกรองน้ำ ย่านถนนพระราม 6 ถนนราชวิถี จึงได้ระดมกำลังปิดล้อมพร้อมขับไล่ให้กลุ่ม จยย. เลี้ยวเข้าไปในซอยดังกล่าว เนื่องจากเป็นซอยตัน จากนั้นกลุ่มดังกล่าวได้พังประตูหน้าบ้านของประชาชน นำ จยย. เข้าไปจอดแล้วเก็บตัวเงียบเพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม จากการตรวจสอบไม่พบอาวุธและยาเสพติด โดยนัดรวมตัวผ่านเพจ “นักซิ่งกลางเมือง” หรือ “ปิดเมืองมาซิ่ง” ในเฟซบุ๊ก
พ.ต.ท.บวรภพ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ส่วนข้อหาอื่นๆ จะแจ้งเพิ่มเติมในภายหลังเป็นรายบุคคล จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการ และจะประสานให้ผู้ปกครองพร้อมกับผู้กระทำผิดเข้าอบรมตามโครงการของ สปพ.191 อีกด้วย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เยาวชนเหล่านี้กลับไปทำซ้ำอีก ส่วนเรื่องทำลายทรัพย์สินหรือบุกรุกนั้นต้องรอให้เจ้าของบ้านเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีต่อไป