ไทยกวาดล้างต่างชาติผิดกฎหมายจุดคำถามพุ่งเป้าสีผิว
ยุทธการ "X-Ray Outlaw Foreigner" กวาดล้างชาวต่างชาติอยู่เกินวีซ่าและทำผิดกฎหมายที่ดำเนินมานานเกือบปี จุดคำถามพุ่งเป้าที่สีผิว และผู้ขอลี้ภัยติดร่างแห
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานเรื่องการกวาดล้างชาวต่างชาติผิดกฎหมายในประเทศไทย ที่ดำเนินการอย่างเข้มข้นมาราวหนึ่งปี ภายใต้ชื่อยุทธการเอ็กซเรย์ชาวต่างชาติผิดกฎหมาย ส่วนใหญ่ที่ถูกจับเป็นคนเข้าเมืองจากประเทศใกล้เคียง แต่ประเด็นที่ถูกตั้งคำถามก็คือการพุ่งเป้าไปที่คนผิวสี
รายงานอ้างคำกล่าวของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ว่า “งานของเราคือแยกแยะใครเป็นคนผิวสีที่ไม่มีปัญหากับผู้ที่มีแนวโน้มก่ออาชญากรรม” และว่าปฏิบัติการนี้มีเป้าหมายกวาดล้างผู้ที่อยู่เกินกำหนดวีซ่าและจับตัวอาชญากร โดยเฉพาะเครือข่ายหลอกลวงแต่งงาน ซึ่งบ่อยครั้งเป็นชาวไนจีเรียหรือยูกันดา
เอเอฟพี ติดตามดูปฏิบัติการคืนหนึ่งในย่านนานา ตำรวจ 75 นายยืนแถวรับฟังบรรยายสรุป เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตะโกนว่า" เป้าหมายต้องสงสัยคือคนผิวดำ อันดับแรกเราตรวจค้นตัวก่อน ค่อยตรวจหนังสือเดินทาง"
จากนั้น ตำรวจกระจายกันออกสอบถามผู้ต้องสงสัย รวมถึงชาวมาลี 3 คน ที่ถูกตรวจยาเสพติด
ภายในเวลา 23.55 น. มีการกวาดจับชาวต่างชาติเกือบ 30 คน ครึ่งหนึ่งเป็นคนผิวดำ มีรายเดียวเป็นยุโรป ชาวฝรั่งเศสถูกจับสูบกัญชา
เจ้าหน้าที่ในทีม กล่าวว่า รายละเอียดว่าการกวาดจับชาวต่างชาติเป็นสัญชาติใดบ้าง ถือเป็นความลับ กระนั้น ในสองสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม ตำรวจจับกุมชาวเกาหลีใต้ที่ตำรวจสากลต้องการตัวในคดีทางเพศ และทลายแก๊งไนจีเรีย 4 คน กับคนไทย 16 คนในเครือขายหลอกหลวงแต่งงาน นอกจากนี้ พบชาวลาว 1 คน อยู่เกินกำหนดวีซา 11 ปี
นอกจากประเด็นผิวสี กลุ่มสิทธิมนุษยชนห่วงผู้ขอลี้ภัยและผู้อพยพที่ใช้กรุงเทพเป็นทางผ่านไปประเทศที่สาม ที่พลอยติดต่างแหปฏิบัติการนี้ไปด้วย กลุ่ม Fortify Rights ระบุว่า มีผู้ใหญ่ 100 คน เด็ก 30 คนที่อยู่ในเกณฑ์นี้ ส่วนใหญ่จากปากีสถาน นอกจากนี้ยังมีจากซีเรียและโซมาเลีย
ด้าน แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการองค์กรฮิวแมนไรทส์วอทช์ภาคพื้นเอเชีย กล่าวว่า การกวาดล้างชาวต่างชาติผิดกฎหมายในไทย กวาดจับผู้อพยพและผู้ขอลี้ภัย ส่งผู้เยาว์เข้าไปอยู่ในสภาพเหมือนในเรือนจำ อีกทั้งชัดเจนว่ามีมิติของการแบ่งแยกเชื้อชาติสีผิวต่อชาวเอเชียใต้และแอฟริกัน
เอเอฟพีรายงานด้วยว่า ตำรวจจับและควบคุมตัวชาวคริสต์ปากีสถานกว่า 70 คนในเดือนนี้ ข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมายและอยู่เกินกำหนดวีซา แม้พวกเขาอยู่ระหว่างหลบหนีการกดขี่ทางศาสนาในประเทศบ้านเกิดที่ส่วนใหญ่เป็นมุสลิม และสันนิษฐานว่าใช้ไทยเป็นทางผ่าน