
เป่ากระหม่อม ! 4 รมต.อย่าใช้อำนาจจนได้เปรียบเสียเปรียบ
"บิ๊กตู่" ชี้ 4 รมต. ร่วมงาน "พลังประชารัฐ" เป็นเรื่องส่วนตัว ย้อน กระแสกดดันลาออก รบ.ก่อนมีหรือไม่ เตือน อย่าใช้อำนาจจนได้เปรียบเสียเปรียบหวั่น สังคมเข้าใจผิด
2 ต.ค.61-ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวหลังการประชุมครม.ถึงเสียงวิจารณ์การใช้ ม.44 แต่งตั้งนายสนธยา คุณปลื้ม เป็นนายกเมืองพัทยา เป็นการเอื้อประโยชน์ว่า การตั้งใครขึ้นมาก็แล้วแต่ไม่ได้เอื้อประโยชน์อะไรทั้งสิ้น เรื่องนี้ได้พูดมาหลายครั้งแล้ว อย่าถามซ้ำซาก
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี 4รัฐมนตรีในรัฐบาลไปร่วมงานการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ต้องลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การที่รัฐมนตรีไปทำงานการเมืองนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละบุคคล พูดมาหลายครั้งแล้ว และย้ำเตือนในที่ประชุมครม.ด้วย รวมถึงช่วงที่เขามาขออนุญาต โดยได้บอกไปว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนอย่าทำให้การบริหารราชการแผ่นดินเสียหาย เพราะในการบริการราชการแผ่นดิน รัฐมนตรีทั้ง 4 คนไม่ใช่ผู้ตัดสินหลักใน ครม.เพราะการจะออกมติอะไรจะต้องเป็นมติของครม.ทั้งคณะโดยมีรองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรี
"คงไม่ได้ไปเอื้อประโยชน์อะไรกับใครทั้งสิ้น ไม่ได้เอื้อประโยชน์อย่างเช่นที่ผ่านมา หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ เพราะหลายคนออกมาพูดว่าจะเกิดอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วเคยเกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า แล้วใครเป็นคนทำ ถ้าไม่มีก็แล้วไป แต่ขอร้องอย่ามาอ้างว่าวันนี้จะมีการทำอย่างนั้นอย่างนี้ รัฐบาลนี้ไม่ได้มุ่งหวังให้เกิดการเอื้อประโยชน์อยู่แล้วเราจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป สานต่องานรักษาความสงบเรียบร้อย อะไรผิดกฏหมายก็ถือว่าผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า แม้การไปทำงานการเมืองจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่มีกระแสดันให้ 4รมต.ลาออก เพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า กฎหมายเขาว่าอย่างไร ก่อนหน้านั้นเขาทำอย่างไรกันอยู่ มีกรณีแบบนี้หรือไม่ "ดีหรือเปล่า มีไหมจ๊ะ"เมื่อถามย้ำอีกว่า แต่มีการอ้างว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลเผด็จการ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมเป็นรัฐบาลที่ผมต้องบอกว่ามีธรรมาภิบาลสมัยที่คุณเป็นคุณมีธรรมาภิบาลหรือเปล่าผมก็ไม่รู้เหมือนกัน"
รายงานข่าวจากที่ประชุมครม.เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์กล่าวในที่ประชุมถึงกรณีที่มีรัฐมนตรีไปร่วมทำงานการเมืองกับพรรค พปชร. ว่าขอให้ระมัดระวังจะทำอะไรขอให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสมอย่าใช้อำนาจในทางการเมืองจนเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ในส่วนของรัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหาให้ประชาชนต่อไปรัฐมนตรีที่ตัดสินใจไปเล่นการเมือง ตัดสินใจแล้วก็ต้องระมัดระวังให้ดี อย่าให้เกิดการเข้าใจผิด คำว่าประชารัฐในมิติของรัฐบาลนี้ หมายถึงภาคประชาชนกับรัฐบาลมาทำงานร่วมกัน โดยภาคประชาชนหมายถึงองค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ นักธุรกิจ พ่อค้าประชาชนที่มาทำงานร่วมกับรัฐบาล ผลักดันให้งานเดินหน้าไปได้ ในส่วนทางการเมืองแม้จะมีชื่อพ้องกัน แต่จะต้องแยกแยะให้ชัดเจน ว่าเป็นคนละส่วนกัน ส่วนนโยบายจะเหมือนกันหรือไม่ ตรงนี้ไม่ทราบ