
อย่าสีซอให้ควายฟัง
ถ้ารัฐบาลไทยต้องหาทางตกลงเจรจาในประเด็นข้อพิพาทต่างๆ กับผู้นำกัมพูชา ฮุนเซน สงสัยต้องหาคู่มือทางการทูตเล่มใหม่ และอาจจำเป็นต้องใช้วิธีโบราณ นั่นคือการใช้กำลังเข้าจัดการปัญหา เพราะดูท่าทางลีลาของตัวปัญหาแล้ว คงพูดไม่รู้เรื่องแน่นอน
นอกเหนือจากประเด็นการยึดครองพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารด้วยกำลังทหาร ลงหลักปักฐานด้วยชาวบ้านซึ่งเป็นครอบครัวทหาร มีวัดและพระหนุ่มๆ ซึ่งล้วนเป็นทหารแปลงตัวทั้งสิ้น ยังเกี่ยวเนื่องกับกรณีมรดกโลกและการตีกินพื้นที่โดยรอบ
ไทยถูกบุกรุก เสียพื้นที่โดยวิธีการต่างๆ และมีโอกาสจะเสียที่ดินบนบกและในทะเลมากกว่าที่เป็นอยู่ ถ้าหากขบวนการนักการเมืองขายชาติของไทยและกัมพูชาร่วมมือกันบ่อนทำลายความมั่นคงของไทย โดยมีเดิมพันมหาศาล
มีสมบัติ 7.6 หมื่นล้านบาทของคนไทยหนีคุกและหมายจับแล้ว ยังมีทรัพยากรธรรมชาติในทะเล เป็นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งกัมพูชาฉวยโอกาสออกสัมปทานให้บริษัทของฝรั่งเศสและญี่ปุ่น รวมทั้งบริษัทร่วมทุนของไทยด้วย
เดิมพันมหาศาลขนาดนี้ย่อมเพียงพอสำหรับให้นักการเมืองหรือใครก็ตามที่มีจิตสำนึกต่ำ เนรคุณแผ่นดิน มีสัญชาตญาณอาชญากรอยู่ในตัว กล้าทรยศต่อชาติ บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง เพราะต่อให้ร่ำรวยเท่าไหร่ พวกชูชกกลับชาติมาเกิด ไม่รู้จักพอ
จะเจรจากับฮุนเซนด้วยการทูตธรรมดาคงยาก ฮุนเซนมีผลประโยชน์กับคนหนีคุกและอดีตผู้นำไทยซึ่งกลายเป็นตัวประสานผลประโยชน์กับทุกกลุ่ม ร่วมมือกันช่วยคนหนีคุก ล่าสุดมีกองทัพนายพลเกษียณอายุแปรสภาพเป็นทหารรับจ้างอีก 50 กว่าคน
เห็นได้ชัดเจนว่าขบวนการต่างๆ สนับสนุนฮุนเซนให้คนหนีคุกลี้ภัยในกัมพูชาเป็นภัยต่อความมั่นคงของไทยแน่นอน ใครก็ตามที่อยู่ร่วมด้วย ถือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด เพราะการช่วยเหลืออาชญากรหนีคุกย่อมมีโทษอาญา ผู้เฒ่าจิ๋วย่อมเข้าข่ายด้วย
เมื่อรู้ว่าเป็นเช่นนี้ เจ้าหน้าที่บ้านเมืองย่อมต้องจัดการป้องกัน กำจัดภัยโดยด่วน ใครมีหน้าที่รับผิดชอบความมั่นคง รู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ถ้ายังเพิกเฉย ก็ต้องถูกเล่นงานโดยมาตรา 157 ซึ่งกำลังเป็นที่น่ากลัวสำหรับข้าราชการประพฤติมิชอบ และโกงกิน
การเจรจากับฮุนเซนต้องไม่คำนึงถึงกฎ กติกา หรือมารยาทการทูต เพราะถ้าอ้างถึงธรรมเนียมปฏิบัติ ฮุนเซนจะหัวเราะเยาะ แม้ว่าตัวเองเคยเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศมานาน 5 ปีก่อนเป็นผู้นำกัมพูชานาน 24 ปี ถือว่านานที่สุดในกลุ่มผู้นำอาเซียน
ฮุนเซนก็เปรียบเหมือน “ทรราชบ้านนอก” มีทั้งระบบศาลเตี้ยและอิทธิพลมืดสำหรับจัดการกับกลุ่มผู้ต่อต้านและเป็นปฏิปักษ์ รวบอำนาจทุกอย่าง สร้างความร่ำรวยให้ครอบครัวไม่ต่างจากทรราชคนอื่นๆ เช่น มาร์กอส ที่ทำเอาฟิลิปปินส์เกือบสิ้นชาติ
ขอย้ำอีกครั้ง ไทยมีสิทธิป้องกันอธิปไตย และจัดการกับภัยต่อความมั่นคง ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไทยหรือในดินแดนเพื่อนบ้าน ซึ่งให้ที่พักพิงบุคคลอันตรายสำหรับไทย
นั่นหมายถึงสิทธิอันชอบธรรมในการใช้กำลัง สงครามบางครั้งเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อจัดการปัญหา ถ้าวิธีการทูต การเจรจาธรรมดาใช้ไม่ได้ผล เพราะการไร้เหตุผล เอาแต่ได้
ถึงเวลาที่ไทยบอกฮุนเซนว่าเลิกซ่าเกินพิกัดได้แล้วนิ! อิอิอิ!!!