เปิดใจสาว"แคท"เซฟฟานี่ หลังพิชิตมงกุฎมิสทีนฯ | คมชัดลึก

 และคุณพ่อรูเปียส อะวานิค เป็นผู้คว้ามงกุฎ มิสทีน ไทยแลนด์ 2009 ไปครองพร้อมตำแหน่งพิเศษ มิสซูซูกิ เจลาโต้ ท่ามกลางเสียงปรบมือดังกึกก้องทั่วบริเวณ แถมยังพ่วงท้ายด้วย 2 ตำแหน่งก่อนหน้านี้ ได้แก่ รางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน และ มิสเทรนดี้ ทีน บาย บลู คอร์เนอร์

 สำหรับการประกวด มิสทีน ไทยแลนด์ ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์แกลมเมอรัส ปริ๊นเซส เปรียบสาวน้อยวัยทีน 15-18 ปี เป็นเจ้าหญิงแห่งความฝันผู้เจิดจรัส ดุจประกายของสาววัยทีน ในดินแดนแห่งนี้ที่สามารถตามหาความฝันของตัวเองจนเป็นจริงได้ ความโดดเด่นของเธอเจิดจรัสมาตั้งแต่รอบ 50 คน และยิ่งส่องประกายขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในการสัมภาษณ์รอบ 5 คนสุดท้าย ซึ่งครั้งนั้นเธอต้องตอบคำถามเป็นคนแรก กับคำถามวัดทักษะที่ว่า "คุณคิดว่าอินเทอร์เน็ตมีส่วนเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมไทยหรือไม่อย่างไร" แม้จะมีท่าทีตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด แต่กระนั้นก็ไม่ทำให้กองเชียร์ผิดหวังกับคำตอบฉะฉานเสียงดังฟังชัดว่า "อินเทอร์เน็ตนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมไทย เราสามารถใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการโฆษณาเกี่ยวกับประเทศไทย โปรโมทวัฒนธรรมไทยและแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย" เรียกเสียงปรบมือดังกึกก้องฮอลล์ได้อีกครั้ง และนั่นก็เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สาวลูกครึ่งคนนี้คว้ามงกุฎมิสทีนคนล่าสุดไปครอง

 หลังรับมงกุฎ "แคท" เซฟฟานี่  กล่าวว่า การประกวดครั้งนี้เป็นเวทีแรกในชีวิต วินาทีที่ได้ยินเสียงประกาศชื่อตัวเอง ทั้งตกใจ ดีใจ และตื่นเต้นมาก ตลอดเวลาที่ผ่านมา พยายามทำให้ดีที่สุด และคิดว่าสิ่งที่ชนะใจกรรมการน่าจะเป็นในเรื่องของความมั่นใจ และความเป็นตัวของตัวเอง

 "ปกติหนูเป็นคนเรียบร้อย ขี้อาย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ไม่เคยขึ้นเวทีประกวดที่ไหนมาก่อน แต่ครั้งนี้ได้แรงยุจากเพื่อนๆ และคุณแม่ก็บอกว่าให้ลองดู ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร หนูไม่ได้คิดว่าจะได้รับตำแหน่งนี้ คิดแค่ว่าติดเข้ามาถึงรอบ 50 คนก็พอแล้ว แต่วันนี้หนูทำได้แล้วจริงๆ และหนูอยากขอบคุณคุณแม่ที่ช่วยในทุกเรื่องมาตลอด ส่วนคุณพ่อตอนนี้ท่านอยู่ที่ออสเตรีย คาดว่าจะกลับมาราวเดือนธันวาคม แต่เดี๋ยวกลับไปหนูก็จะโทรหาพ่อ อยากบอกท่านว่าหนูทำได้แล้ว" มิสทีนไทยแลนด์คนล่าสุด กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

 ถึงแม้จะยังอยู่ในวัยศึกษา แต่ด้วยมีความใฝ่ฝันอยากก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง โดยเฉพาะการถ่ายแบบ เดินแบบ และแสดงละคร เนื่องจากเธอเป็นคนชอบดูละคร ซึ่งวันนี้โอกาสก็ไม่ไกลเกินเอื้อม เกี่ยวกับเรื่องนี้ "น้องแคท" เล่าความตั้งใจว่าจะพยายามจัดสรรเวลาให้ดีที่สุด และจะยังคงให้ความสำคัญกับการเรียนเป็นอันดับแรกเหมือนเดิม

 ด้าน คุณแม่สมรัก อะวานิค ซึ่งวันนี้ตามมาให้กำลังใจติดขอบเวที กล่าวทั้งน้ำตาแห่งความชื่นชมยินดีว่า ตอนที่ลุ้นผลการตัดสินร่วมกับเพื่อนๆ ของน้องแคทนั้น รู้สึกใจสั่นและตื่นเต้นมาก ถึงเวลานี้ก็ยังคงความตื่นเต้นอยู่ ดีใจมากที่น้องแคทได้รับตำแหน่งนี้ แม่พร้อมให้การสนับสนุนในทุกเรื่องเต็มที่ อย่างเรื่องของการเข้าวงการบันเทิงแม่ก็สนับสนุน แต่เรื่องการเรียนก็ต้องมาก่อนเสมอ

 สำหรับมิสทีนไทยแลนด์หมาดๆ นี้ ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่เกรด 11 โรงเรียนนานาชาติเดอะรีเจ้นท์ จ.ชลบุรี  อีกทั้งยังมีความสามารถในด้านกีฬาทั้งเวคบอร์ด และเคเบิ้ลสกี และยังมีความสามารถในการเล่นเปียโนอีกด้วย