
รวบ! คนร้ายจี้ชิงเงิน 'ธนชาต' ห้วยยอด
รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวปล้น 'ธ.ธนชาต' สาขาห้วยยอด สารภาพไม่มีงานทำ-ขัดแย้งครอบครัว
ตรัง - ผบช.ภ.9 แถลงจับคนร้ายบุกเดี่ยวปล้นธนาคารธนชาต สาขาห้วยยอด ก่อนหิ้วตัวทำแผน สารภาพไม่มีงานทำ-ขัดแย้งกับครอบครัว ซึ่งมีฐานะดี พบมีคดีร่วมกันฆ่าที่ จ.สุราษฎร์ธานีและคดีเสพยาเสพติด
เวลา 10.00 น. วันที่ 29 ส.ค.61 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 แถลงข่าวจับกุมตัว นายวรายุทธ หรือยุทธ รอดทุกข์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 5 ตำบลวังคีรี อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ที่ 338/2561 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2561 โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม พร้อมของกลางคือ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน , มีดคัตเตอร์สีขาว จำนวน 1 อัน , นาฬิกาข้อมือสีน้ำเงิน ยี่ห้อ Casio รุ่น g-shock จำนวน 1 เรือน , พวงกุญแจพร้อมกระเป๋าใส่เงินแบบผ้า แบบมีซิบสีขาวเทาแดง จำนวน 1 ใบ , โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง , หมวกกันน็อคสีเทาคาดแถบขาวดำ จำนวน 1 ใบ , เสื้อยืดกีฬาสีขาวแถบแขนสีแดง จำนวน 1 ตัว , เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินแขนยาวกระดุมสีขาว จำนวน 1 ตัว , กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว และเงินสด จำนวน 68,000 บาท
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2561 เวลาประมาณ 12.05 น. นายวรายุทธ ได้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธมีดบุกเดี่ยวเข้าไปชิงทรัพย์เงินสด ในธนาคารธนชาต สาขาห้วยยอด ซึ่งอยู่ติด สภ.ห้วยยอด ได้เงินสดไป 77,610 บาท แล้วหลบหนีไป หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากจุดต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงภาพในการแกะรอยคนร้าย ที่ขับหลบหนีไปตามเส้นทาง ตำบลนาวง อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบตัว คือ นายวรายุทธ หรือ ยุทธ รอดทุกข์ หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันตรวจสอบ และสามารถจับกุมตัวนายวรายุทธ พร้อมจักรยานยนต์ของกลางคันที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุอื่นๆ และเงินสดที่ชิงทรัพย์ไป ซึ่งยังเหลืออยู่จำนวน 68,000 บาท จากนั้นได้นำตัวมาสอบปากคำ และให้การรับสารภาพ โดยกล่าวว่า สาเหตุเพราะไม่มีงานทำ และขัดแย้งกับครอบครัว ส่วนเงินที่ชิงทรัพย์จากธนาคารไปนั้น ได้นำไปซื้อของใช้ส่วนตัว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ พบผู้ต้องหารายนี้เคยมีคดีร่วมกันฆ่าที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และคดีเสพยาเสพติด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตั้งแต่ผู้ต้องหาได้นำรถจยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดไว้หน้าธนาคาร ติดกับ สภ.ห้วยยอด และได้เดินขึ้นบันไดพร้อมสวมหมวกกันน็อคเข้าไปในธนาคาร ไปที่จุดบริการตรงเคาน์เตอร์ทันที และนำมีดคัตเตอร์ชูขึ้น หลังจากนั้นกระโดดข้ามเคาน์เตอร์มาดึงลิ้นชักและหยิบเงินในลิ้นชักไปจำนวน 77,610 บาท แล้วรีบวิ่งหนีออกจากธนาคาร มาที่รถจยย.ดังกล่าว แล้วใส่เงินไว้ใต้เบาะรถจยย. หลังจากนั้นก็รีบขับรถหลบหนีออกไป โดยมีชาวห้วยยอดมายืนมุงดูการทำแผนเป็นจำนวนมาก
พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวว่า ในเรื่องธนาคารหรือร้านค้าทอง ตำรวจมีมาตรการในการป้องกันอยู่แล้ว แต่ว่าวันที่เกิดเหตุ เนื่องจาก รปภ.ธนาคาร ออกไปทานข้าว หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ไล่ตามคนร้ายไปติดๆ แต่ก็ได้คลาดกัน
สำหรับมาตรการที่เพิ่มขึ้น ก็คงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ประจำในธนาคารและร้านค้าทองที่เหลือด้วย ส่วนเรื่องการจับกุมนั้น ได้ใช้ความสามารถในการจับกุมติดตามตัวคนร้ายได้ อย่างคดีนี้ใช้เวลาในการปฏิบัติงานจำนวน 4 วัน ก็สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ ส่วนคดีอื่นๆ ก็ทยอยติดตามจับกุม ในช่วงนี้ก็ทยอยจับกุมหลายๆ คดีในจังหวัดตรัง
ส่วนในเรื่องคดีเผาและยิงในพื้นที่ สภ.เมืองตรัง ก็ได้มีความคืบหน้าพอสมควร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามรวบรวมหลักฐาน แต่ขอเวลาให้ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ทางเทคนิคอะไรต่างๆ ให้ออกมาก่อน ก็จะสามารถระบุตัวคนร้ายได้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการออกหมายจับ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ออก ซึ่งพอมองเห็นกลุ่มเป้าหมายบ้างแล้ว
ทั้งนี้ ผบ.ตร. ได้สั่งกำชับให้ตนเองลงมาดูคดีในพื้นที่จังหวัดตรัง ด้วยตนเอง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ลงมาจังหวัดตรัง ครั้งแรกเป็นคดีชิงเงินแบงก์ ซึ่งตอนนี้จับกุมตัวได้แล้ว ซึ่งตอนนี้ไปดูในเรื่องคดีของความมั่นคงกับเหตุยิง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มที่ที่สุด