ข่าว

'เคทีซี'คืนเงินลูกค้าถูกแฮกข้อมูลบัตรเครดิตบนเฟซบุ๊ก

'เคทีซี'คืนเงินลูกค้าถูกแฮกข้อมูลบัตรเครดิตบนเฟซบุ๊ก

25 ส.ค. 2561

'เคทีซี'ตั้งพักเงินคืนเต็มจำนวนให้ลูกค้าตรวจสอบพบเป็นผู้เสียหายจริงหลังถูกแฮกเฟชบุ๊กขโมยบัตรเครดิตไปใช้

 

          จากกรณี เจ้าของร้านนวดเพื่อสุขภาพที่เชียงใหม่ ถูกแฮกเฟชบุ๊ก เพื่อนำข้อมูลบัตรเครดิตที่ผูกไว้กับเพจร้านไปใช้ถึง 38 ครั้ง สูญเสียเงินไปกว่า 45,000บาท เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา 

          นายไรวินทร์ วรวงษ์สถิตย์ ผู้อำนวยการอนุมัติวงเงินและป้องกันความเสี่ยง บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า ตามกระบวนการของบริษัทต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดในเรื่องนี้ก่อน หากลูกค้าเป็นผู้เสียหายจริง บริษัทมีมาตรการเยียวยาคืนเงินทั้งหมดให้กับลูกค้าอยู่แล้ว เพราะต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมามีกรณีที่ลูกค้ากระทำทุจริตเอง โดยใช้ช่องทางที่บริษัทมีการชดใช้ค่าเสียหายเต็มจำนวนให้กับลูกค้า

          สำหรับกรณีนี้ บริษัทได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่า ลูกค้าเป็นผู้เสียหายจริง จึงได้ดำเนินการตั้งพักเงินคืนกลับให้ลูกค้าผู้เสียหายทั้งหมด โดยดึงยอดดังกล่าวออกจากบัญชีของลูกค้าผู้เสียหายแล้ว ซึ่งจะไม่มียอดเรียกเก็บเงิน และบริษัทยังได้ดำเนินการประสานกับทางเฟชบุ๊ก เพื่อไปเรียกเก็บยอดเงินส่วนนี้กลับเข้ามาด้วย

          จากกรณีนี้ บริษัทกำลังพิจารณาการทำรายการ ในลักษณะ “Recurring” ซึ่งเป็นรายการที่ทางผู้ถือบัตรแจ้งความประสงค์ไว้ให้ตัดรายการประจำเป็นรายเดือนอัตโนมัติ โดยส่วนใหญ่จะตัดผ่านบัตรเป็นค่าสมาชิก ค่าบริการ เช่น สมาชิกเคเบิ้ลทีวี ค่าซื้อโฆษณา ค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น ว่าควรจะต้องมีการแจ้งรายการใช้บัตรเครดิตแต่ละครั้งผ่านทางข้อความบนมือถือ(SMS) ให้กับลูกค้าเพิ่มเติมด้วยคาดว่า จะเริ่มดำเนินการได้ในเร็วๆนี้

          เนื่องจากโดยปกติแล้ว การทำรายการบนเฟชบุ๊กหรือช่องทางอื่นๆ ในลักษณะ “Recurring” บริษัทไม่ได้ส่งข้อความSMS ผ่านมือถือของลูกค้า เพราะอาจรบกวนลูกค้า ทำให้เกิดความรำคาญหรือเกิดความสันสนได้ ดังนั้น จึงใช้ช่องทางแจ้งผ่านโมบายแอพพลิเคชั่นของเคทีซี ซึ่งลูกค้าจะสามารถเห็นการใช้บัตรเครดิตได้ทุกรายการ ทั้งที่ผ่านหรือไม่ผ่าน 

          ทั้งนี้ การแจ้งรายการผ่านโมบายแอพพลิเคชั่นของเคทีซี ค่อนข้างแตกต่างจากที่อื่น คือแจ้งทั้งที่ผ่านและไม่ผ่าน เพราะพบว่า มีความพยายามในการทำทุจริตบ้างครั้ง อาจจะทำรายการที่ไม่ผ่านเข้ามาก็ได้ ซึ่งหากลูกค้าถ้าตรวจสอบ พบว่าไม่ได้ทำรายการใด ก็สามารถแจ้งเข้ามาที่บริษัท เพื่อระงับการใช้บัตรเครดิตและออกบัตรเครดิตใหม่ให้ ก่อนที่จะเกิดเหตุการทุจริตจนลูกค้าเสียหาย

          “ความเสียหายในกรณีนี้ที่ผ่านมามีไม่มากนัก เราก็มีทั้งมาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้เสียหายและใช้เทคโนโลยีมาช่วยแจ้งลูกค้า ที่สามารถตรวจสอบและระงับได้ก่อนเกิดเหตุ ขณะเดียวกันลูกค้าเองก็ต้องมีความระมัดระวังในการใช้โซเชียลมีเดีย เพราะมีเพจปลอมค่อนข้างมากที่มิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุ”

..............................

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

......................................

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตือนภัย!! แฮ็กเฟซบุ๊กขโมยบัตรเครดิต วันเดียวรูด 38 ครั้ง !