ข่าว

แจ้งข้อหาป้าหัวร้อน ซิ่งกระบะชน รปภ.สนามบินเชียงใหม่เจ็บ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แจ้งข้อหาป้าหัวร้อน ซิ่งกระบะชน รปภ.สนามบินเชียงใหม่เจ็บ ญาติอ้างป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม ขณะที่ ญาติรปภ. ยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

 

          21 ส.ค.2561 ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนางสาวภัทรา บุญเฉลียว วัย 64 ปีก่อเหตุขับรถพุ่งชน นายวัชระ ไชยวงศ์ อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ.เอ็มเอไอ อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด ซึ่งรับดูแลรักษาความปลอดภัยและการจราจรของท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ที่บริเวณหน้าประตู 5 ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกล็อคล้อรถ เพราะจอดรถในที่ห้ามจอดของสนามบิน ทำให้รถยนต์ของประชาชนได้รับความเสียหายอีก 4 คันนั้น และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่วานนี้

 

 

          ล่าสุด ขณะนี้นายวัชระมีอาการปลอดภัยพ้นและขีดอันตรายแล้ว เบื้องต้นแพทย์ยังให้พักรักษาตัวในโรงพยาบาลไปก่อน

 

แจ้งข้อหาป้าหัวร้อน ซิ่งกระบะชน รปภ.สนามบินเชียงใหม่เจ็บ

 

          ด้านนายพิกุล ไชยวงศ์ ซึ่งเป็นบิดาของนายวัชระ ได้พูดถึงความรู้สึกว่า ตอนทราบเรื่องรู้สึกตกใจมากและเป็นห่วงลูกชาย จึงรีบพาภรรยามาหาลูกชายที่โรงพยาบาล แต่ยังไม่ได้พบกับฝ่ายญาติของผู้ก่อเหตุ โดยตอนนี้อาการของลูกชายปลอดภัยแล้ว และอยากจะฝากถามถึงผู้ที่ขับรถชนลูกชายตนว่าทำไมถึงต้องทำเกินกว่าเหตุ และอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

 

แจ้งข้อหาป้าหัวร้อน ซิ่งกระบะชน รปภ.สนามบินเชียงใหม่เจ็บ

       

          ขณะที่พ.ต.ท.ธงชัย บัวเงิน สารวัตร (สอบสวน) สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อ.เมืองจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อนำมารวบรวมเป็นหลักฐานดำเนินคดี โดยในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) จะเรียกตัวนางสาวภัทรา มาสอบสวนอีกครั้ง เนื่องจากนางสาวภัทราให้การวกไปวนมาจำอะไรไม่ได้มาก เพราะมีอาการป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม จึงได้ลงบันทึกประจำวันและเรียกให้ญาติมารับตัวกลับไปก่อน

         

แจ้งข้อหาป้าหัวร้อน ซิ่งกระบะชน รปภ.สนามบินเชียงใหม่เจ็บ
 

          ขณะที่ เรืออากาศโท วศิน พลนาวี รอง ผอ.ท่ากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) ได้เดินทางมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล กล่าวว่า เบื้องต้นได้ช่วยเหลือและดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทำงานให้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ส่วนเรื่องคดีความคงให้ทางต้นสังกัดก็คือบริษัทที่ผู้บาดเจ็บทำงานอยู่เป็นคนดำเนินการ ส่วนเหตุการณ์เมื่อวานนั้นไม่น่าจะเกิดปัญหาขึ้น เพราะจอดรถในที่ห้ามจอดเจ้าหน้าที่ก็ได้ประกาศหาเจ้าของรถนานมาก แต่ไม่พบจึงทำการล็อคล้อตามระเบียบและข้อบังคับ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้น และอยากจะขอฝากถึงผู้มาใช้บริการของท่าอากาศยานเชียงใหมด้วย่ ว่าขอความร่วมมือช่วยกันปฎิบัติตามกฎและระเบียบ จะทำให้การจราจรไม่มีปัญหาและเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนเรื่องการจอดรถขณะนี้ท่าอากาศยานเชียงใหม่มีแผนกำลังจะพัฒนาและเพิ่มอาคารจอดรถเพื่อรองรับการบริการในอนาคต.

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ