ข่าว

 "สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์" ฟื้นศก.เมืองประมงสู่ความยั่งยืน

 "สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์" ฟื้นศก.เมืองประมงสู่ความยั่งยืน

15 ส.ค. 2561

 "สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์" ฟื้นเศรษฐกิจเมืองประมงสู่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน      

 

                “เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์” คำขวัญจ.สมุทรสาคร เมืองเศรษฐกิจที่มีศักยภาพทั้งทางด้านอุตสาหกรรม การประมง และเกษตรกรรม จากข้อมูลสถิติผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ประจำปี พ.ศ 2558 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) พบว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของจ.สมุทรสาคร ยังคงขยายตัวจากปีก่อน และยังเป็น 1 ใน 10 ของจังหวัดที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัวอยู่ในระดับสูงตลอดมา 

 \"สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์\" ฟื้นศก.เมืองประมงสู่ความยั่งยืน

               “สมุทรสาครเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพเพียบพร้อม ทั้งในด้านอุตสาหกรรม การประมง เกษตรกรรม หัตถกรรม การท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม สมดังคำขวัญของจังหวัดที่ว่า “เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์” และยังมีทำเลที่ตั้งที่ติดกับกรุงเทพมหานคร สะดวกในการเดินทางมาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยสินค้าอย่างหลากหลายที่ขึ้นชื่อของจังหวัด”

 \"สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์\" ฟื้นศก.เมืองประมงสู่ความยั่งยืน

                 ถ้อยแถลงเชิญชวนของ "ประภัสสร์ มาลากาญจน์" ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ระหว่างเป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์” (SAMUTSAKHON ON THE SHOW) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 สิงหาคม ณ ลานกิจกรรมสแควร์โซน C ด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และบริเวณชั้น 3 โซนเอเทรียม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นงานมหกรรมที่นำเสนอของดีจังหวัดสมุทรสาคร ให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติได้สัมผัส ณ กลางใจกรุง ในรูปแบบทันสมัยและแปลกใหม่ที่ผู้เข้าชมงานจะต้องอัศจรรย์ใจ

                อย่างไรก็ตาม ศักยภาพเหล่านี้อาจยังไม่ได้รับการชูบทบาทให้โดดเด่น เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของสาธารณชนและดึงดูดความสนใจให้ทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเยือน จ.สมุทรสาคร ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างประสบการณ์ให้อย่างสุดประทับใจ ซึ่งในแผนพัฒนาจังหวัด ปี 2561-2564 ได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาจังหวัดเอาไว้ว่า “เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เกษตรและอาหารปลอดภัย ท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ สังคมเป็นสุข” 

 

 \"สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์\" ฟื้นศก.เมืองประมงสู่ความยั่งยืน

                  เนื่องจาก จ.สมุทรสาคร มีป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพ เหมาะกับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศหรือแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังเป็นเมืองที่บันทึกในประวัติศาสตร์เรื่องราวของพันท้ายนรสิงห์ผู้ซื่อสัตย์ จงรักภักดี และป้อมวิเชียรโชฎก ซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 เพื่อป้องกันข้าศึกทางทะเลเหมาะแก่การเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์

                นอกจากนี้ยังมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ประวัติศาสตร์ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนสินค้าโอท็อป เครื่องปั้นดินเผา ไม้ดอกไม้ประดับ และไม้ผล ดูจากข้อมูลตัวเลข ในปี 2559  ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวมาเยือน จ.สมุทรสาคร ทั้งไทยและต่างชาติรวมทั้งสิ้น 1,443,746 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2.38% และมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 2,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 5.89%

                  ส่วนสินค้าโอท็อป มีผลิตภัณฑ์จำนวน 268 ราย รวม 572 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งผลิตภัณฑ์เด่นของจังหวัดก็คือ เครื่องเบญจรงค์ ทำให้ จ.สมุทรสาคร มีรายได้จากผลิตภัณฑ์โอท็อปในปี 2560 รวมทั้งสิ้น 3,274 ล้านบาท เฉพาะเครื่องเบญจรงค์อย่างเดียวก็ทำรายได้ถึง 108 ล้านบาท 

                    ถึงกระนั้นความโดดเด่นของสมุทรสาคร นอกจากมีผลิตภัณฑ์เด่นๆ แล้วยังสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าาสนใจอีกมากมายทั้งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม  เช่น ท่าฉลอม ซึ่งยังคงไว้ด้วยมนต์เสน่ห์ของชุมชนดั้งเดิม และเป็นก้าวแรกของชุมชนจีนในสยาม หรือบ้านแพ้ว ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ให้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน และยังจะได้ชมการประดิษฐ์งานฝีมือเบญจรงค์ที่ผสานไว้ทั้งศาสตร์และศิลป์อย่างลงตัว 

                “จะมีของดีจาก 3 อำเภอ 3 สไตล์ เมืองสมุทรสาคร กระทุ่มแบน และบ้านแพ้ว ในจัดแสดงในงานให้ได้สัมผัสกัน ส่วนแผนการท่องเที่ยวโดยหลักแล้วจะเป็นวันเดย์ทริป พี่น้องประชาชนในกรุงเทพมหานครก็ไปเยี่ยมไปชมไปกิน ไปสัมผัสบรรยากาศของเมืองประมงแล้วกลับมาพักผ่อนที่บ้านได้ ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ชั่วโมงกว่าๆ จากกรุงเทพฯ” ผู้ว่าฯสมุทรสาครกล่าวเชิญชวน 

              นับเป็นอีกงานใหญ่ของจังหวัดสมุทรสาครที่นำของดีมาโชว์กลางกรุงให้คนเมืองได้สัมผัส

   

                                            

 ยกระดับ“ท่าฉลอม”สู่ท่องเที่ยวเชิงชุมชน 

             ดร.สุวันชัย แสงสุขเอี่ยม รองประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งบริษัท สมุทรสาครพัฒนาเมือง(วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด กล่าวถึงการจัดทำโครงการนำร่องท่าฉลอม ซึ่งเป็นตำบลที่เคยรุ่งเรืองในอดีตและเคยเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและคมนาคมมาก่อน แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นชุมชนที่เงียบเหงา โดยประชากรส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่เป็นเด็กและคนชรา อันเป็นผลพวงจากอาชีพประมงที่ซบเซาทำให้หลายคนต้องเลิกทำประมงและอาชีพที่เกี่ยวข้องส่งผลให้เศรษฐกิจของท่าฉลอมตกต่ำไปอย่างมาก ขณะที่คนหนุ่มสาวย้ายไปหางานทำที่อื่น

 \"สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์\" ฟื้นศก.เมืองประมงสู่ความยั่งยืน

           “สมัยก่อนตำบลท่าฉลอมเจริญกว่าตำบลมหาชัยมาก แต่ปัจจุบันกลับตรงกันข้าม การจัดทำโครงการนำร่องโดยการฟื้นชุมชนเก่าแก่ของท่าฉลอมที่ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายความเป็นอดีตจะทำให้ตำบลแห่งนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง” 

           เขายอมรับว่าท่าฉลอมเป็นชุมชนที่มีจุดน่าสนใจหลายประการ ส่วนใหญ่คนไทยรู้จักท่าฉลอมผ่านบทเพลง “ท่าฉลอม” และยังเป็นตำบลแห่งแรกของไทยที่ถูกจัดตั้งให้เป็นสุขาภิบาลหัวเมืองเมื่อปี 2448 ในสมัยรัชกาลที่ 5 และยังโดดเด่นด้วยรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง ซึ่งเริ่มเดินรถในปี 2450 นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ จนเป็นที่มาของคำว่า “ท่าจีน” ในปัจจุบัน อันเป็นต้นกำเนิดของจ.สมุทรสาคร

         โดยจุดสนใจเหล่านี้ สมุทรสาครพัฒนาเมืองได้นำมาใช้เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงชุมชนที่ท่าฉลอมและได้เริ่มดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงชุมชนเพื่อการพัฒนาเมืองมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2560 จนปัจจุบัน โดยมีการจัดตั้ง “บ้านท่าฉลอม” ให้เป็นศูนย์ท่องเที่ยวและกิจกรรมชุมชนของท่าฉลอมเพื่อให้เป็นศูนย์ที่ให้ข้อมูลการท่องเที่ยวและประวัติเรื่องราวที่น่าสนใจของท่าฉลอม รวมทั้งเป็นศูนย์ที่ใช้สำหรับจัดกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของคนในชุมชนท่าฉลอมอีกด้วย

 

 \"สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์\" ฟื้นศก.เมืองประมงสู่ความยั่งยืน

        “สิ่งเราได้ดำเนินไปแล้วในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาคือมีการจัดประชุมกับชุมชนท่าฉลอมหลายครั้งในหลายพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมเพื่อให้ทราบถึงประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับ มีการอบรมอาสาพัฒนาเมืองเพื่อช่วยงานและกิจกรรมที่เป็นสาธารณประโยชน์ ปัจจุบันมีอาสาพัฒนาเมืองแล้วประมาณ 50 คน มีการซ่อมแซมสามล้อรับจ้างถีบฟรีทั้งหมดจำนวน 20 คัน มีการจัดทำแผนที่ท่องเที่ยว มีโครงการความร่วมมือกับ ม.มหิดล นิด้า และคณะโบราณคดี ม.ศิลปากร ในการอนุรักษ์และจัดทำแผนชุมชน เป็นต้น” รองประธานสมุทรสาครพัฒนาเมืองแจงรายละเอียดการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ก่อนพาเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ใน ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร