ไทยปลื้มคว้าถ้วยคะแนนรวมเพาะกายอาเซียน 3 ปีซ้อน | คมชัดลึก

ทัพนักกีฬาเพาะกาย แอธเลติก สปอร์ตฟิสิค โมเดล ทีมชาติไทย  ชุดเข้าร่วมการแข่งขัน ฟิสิค สปอร์ต แชมเปี้ยนชิพ) ที่ เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา  จำนวน 30 คน แบ่งเป็น นักกีฬาชาย 24 คน นักกีฬาหญิง 6 คน เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว เมื่อวันที่  30 มิ.ย. 

 นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า สำหรับรายการนี้ มี  8 ประเทศเข้าแข่งขัน ได้แก่ “เจ้าภาพ” กัมพูชา, ไทย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ลาว, สิงคโปร์, เมียนมา ซึ่งทัพนักกีฬาไทยได้มา  7 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง พร้อมทั้งคว้ารางวัลชนะเลิศถ้วยคะแนนรวมมาอีกด้วย ทำให้ไทยได้มา 8 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง เมื่อรวมเหรียญทองจากการชนะเลิศถ้วยคะแนนรวมของการแข่งขันรายการนี้ 
นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับการแข่งขันรายการนี้ ถือว่านักกีฬาของสมาคมฯ ได้รางวัลถ้วยคะแนนรวมอันดับ 1 ถึง 3 ปีติดต่อกัน  โดยเป้าหมายต่อไปจะส่งนักกีฬาไปแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ที่เมืองปูเน่ ประเทศอินเดีย ปลายเดือนก.ย.นี้ โดยนักกีฬาที่ได้เหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง ในช่วงปลายสัปดาห์หน้าจะมีการประชุม เพื่อเตรียมแผนว่านักกีฬาคนไหนจะได้ไปแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย และ คนไหนจะได้แข่งขันชิงแชมป์โลก ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ที่เชียงใหม่ ในเดือน ธ.ค.ปลายปีนี้ 
“สำหรับการแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2018 ครั้งที่ 52 ที่เมืองปูเน่ ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 29 ก.ย. - 8 ต.ค. 61 นั้น จะมีรุ่นสเปเชียลบอดี้ บิวดิ้ง หรือนักกีฬาเพาะกายคนพิการ ที่เจ้าภาพ อินเดีย เพิ่มเหรียญเข้ามาแข่งขันเป็นครั้งแรก ซึ่งทางสมาคมฯ จะมีการคัดตัวนักกีฬาเพาะกายคนพิการจากการแข่งขันรายการเอเชีย แปซิฟิก แชมเปี้ยนชิพ 2018 ที่จ.ขอนแก่น วันที่ 24-26 ส.ค.นี้ ซึ่งรายการนี้ จะเป็นเวที ที่จะคัดนักกีฬาไปแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ที่เมืองปูเน่ ประเทศอินเดีย และ ชิงแชมป์โลก 2018 ครั้งที่ 10 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ที่จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 11-17 ธ.ค.นี้ เพิ่มเติมอีกด้วย”

สรุปผลงานนักกีฬาไทย ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน 30 คน ได้ 7 เหรียญทอง จาก จุฬา ทองเรียม แอธเลติกชายรุ่นความสูงไม่เกิน 165 ซม., จีราวิชช์ บูรณกิจ สปอร์ตฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน  165 ซม.,  ธนพิพัฒน์ จันทนเสวี สปอร์ตฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 175 ซม., กฤษดา ศรีภูริจรรยา สปอร์ตฟิสิคชายรุ่นความสูงเกิน 175 ซม., นำพล  ตะวังทัน เพาะกาย รุ่น 55 กก.ชาย, อุทัย ดำริห์ เพาะกาย รุ่น 65 กก. ชาย และ เดชณรงค์ ประเทศ เพาะกาย เยาวชนชาย 
9 เหรียญเงิน  มาจาก เกษม ศิริโสตร์ ได้ 2 เหรียญเงินจาก เพาะกาย รุ่น 75 กก.ชาย เกษม ศิริโสตร์ และเพาะกาย รุ่นมาสเตอร์ ส่วนที่เหลือได้คนละ 1 เหรียญเงิน มี วิศรุต บุญศิริ แอธเลติกชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 170 ซม., คมศักดิ์ แซ่หว่อง แอธเลติกชาย รุ่นความสูงเกิน 175 ซม., สุรพันธ์ ไหมสีทอง สปอร์ตฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 170 ซม., ชัยพิพัฒน์ ลิ่วตระกูล เพาะกาย รุ่น 60 กก. ชาย, สิทธิพงศ์ เนียมกุญชร เพาะกาย รุ่น 80 กก.ขึ้นไป ชาย, เจนจิรา แจ่มดี โมเดล หญิง, ณรงค์ศักดิ์ พันธุศักดิ์-สัตตบงกช ซิมเม็น มิกซ์แพร์ (คู่ผสม)
4 เหรียญทองแดง จาก กฤตคุณ ภู่กรวัฒน์ สปอร์ตฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน  165 ซม., สุเมธ ใจอาจ สปอร์ตฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 175 ซม., ชาญพิศุทธิ์ นิคมเดชา เพาะกาย รุ่น 80 กก.ชาย, สัตตบงกช ซิมเม็น แอธเลติกหญิง 
โดยนักกีฬาที่เหลือ ได้อันดับที่ 4 มี ธนวุฒิ ชัยชนะ สปอร์ตฟิสิคชายรุ่นความสูงเกิน 175 ซม., ณรงศ์ศักดิ์ พันธุศักดิ์  แอธเลติกชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 170 ซม., ธนกฤต ประจันตะเสน แอธเลติกชาย รุ่นความสูงไม่เกิน  175 ซม., สมนึก มนจิตร์โท เพาะกาย รุ่นมาสเตอร์, อรอนงค์ อินทร์แก้ว โมเดล หญิง,  เดชณรงค์ ประเทศ เพาะกาย รุ่น 70 กก.ชาย
ได้อันดับที่ 5 มี วุฒิศักดิ์ จวนสาง เพาะกาย รุ่น 75 กก.ชาย, ศิรินทิพย์ อินทรีย์ แอธเลติกหญิง และ ศุภชัย สมบูรณ์ - ศิรินทิพย์ อินทรีย์ มิกซ์แพร์ (คู่ผสม)
ส่วน ที่ตกรอบคัดเลือก มี 5 คน ได้แก่ พชรกฤต กลีบบัว สปอร์ตฟิสิคชายรุ่นความสูงเกิน 175 ซม., พงศ์ ผาลา แอธเลติกชาย รุ่นความสูงไม่เกิน  175 ซม., ศุภชัย สมบูรณ์ เพาะกาย รุ่น 70 กก.ชาย ร่วมด้วย สุดารัตน์ งาตา และ ศิรประภา สุวรรณรัตน์ โมเดล หญิง