
วิวนักเทควันโดคว้ามิสไทยแลนด์เวิลด์
ผู้เข้าประกวดหมายเลข 14 "น้องวิว" พงศ์ชนก กันกลับ นักเทควันโดทีมชาติ ใช้เอกลักษณ์ความเป็นไทย คว้าชัยครองมงกุฎเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ประจำปี 2552 แถมกวาดอีก 2 ตำแหน่งรวดทั้งขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน และนางงามรูปร่างดี
หลังจากสาวงามทั้ง 25 คน แห่งเวทีการประกวด "มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2009" ร่วมทำกิจกรรมระหว่างเก็บตัว ภายใต้แนวคิด "งามอย่างมีคุณค่า เพื่อการศึกษาของเด็กไทย" มาร่วม 1 เดือน กระทั่งเวลา 20.27 น. ของวันที่ 17 ต.ค. สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และ บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จึงได้จัดรอบตัดสินการประกวด ที่ชั้น 5 ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ กรุงเทพฯ (เซ็นทรัล ลาดพร้าว) ท่ามกลางกองเชียร์ที่ตบเท้าเข้ามาร่วมให้กำลังใจสาวงามกันอย่างคึกคัก
โดยบรรยากาศภายในงานประกวด ถูกจัดขึ้นในรูปแบบงานกาล่าดินเนอร์ เพื่อฉลองครบรอบ 25 ปี ของการประกวดมิสไทยแลน์เวิลด์ ในตรีมฟ้า-ขาว ซึ่งบริเวณด้านนอกของห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ยังได้จัดแสดงนิทรรศการภาพแบบวิดีทัศน์ของมิสไทยแลนด์เวิลด์นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 จนถึงปี 2550 รวมทั้งสิ้น 19 คน
การตัดสินเปิดเวทีด้วยเทปบันทึกภาพ 25 ปี แห่งการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ ซึ่งผู้เข้าประกวดทั้ง 25 คน ปรากฎโฉมออกมาในชุดราตรีสั้นไหล่เดี่ยวสีฟ้า ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส จากนั้น 2 พิธีกรอย่าง นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล และ น.ส.สุริวิภา กุลตังวัฒนา ก็แนะนำคณะกรรมการรอบตันสินทั้ง 38 คน อาทิ ศ.คลินิก นพ.นิวัติ พลนิกร ผอ.ศูนย์ความงาม โรงพยาบาลเจ้าพระยา นางสุพัตรา จิราธิวัฒน์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และภาพลักษณ์ กลุ่มโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอนด์ รีสอร์ท นายกมล ฉัตรเสน เมคอัพอาร์ตติส นางสลิล ล่ำซำ ตัวแทนจากบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด เป็นต้น
จากนั้นสาวงามทั้ง 25 คนจึงปรากฎตัวออกมาอีกครั้ง ในชุดราตรีสั้นผ้าชีฟองโดยแต่ละชุดต่างดีไซน์ให้โชว์เรียวขาด้วยกระโปรงด้านหน้าสั้นกว่าด้านหลังในโทนสีอ่อนหวานอย่าง ชมพู ฟ้า เขียว ม่วง และน้ำตาล เพื่อแนะนำตัวเองให้คณะกรรมการได้รู้จัก ก่อนจะสะกดสายตาผู้ชมให้เกาะติดขอบเวทีอันร้อนระอุอีกครั้ง เมื่อสาวงามปรากฎโฉมในชุดว่ายน้ำทูพีชแบบผูกเชือกจากกีลาโรชสีฟ้าทะเลและน้ำตาลบราวนี่
เพื่อเป็นการสื่อถึงแนวคิด "งามอย่างมีคุณค่า เพื่อการศึกษาของเด็กไทย" ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น กองประกวดจึงนำเทปบันทึกภาพระหว่างการเก็บตัวของสาวงามทั้ง 25 คนที่ร่วมกันทำกิจกรรมด้านการศึกษาของเด็กและเยาวชนไทย ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ที่เอื้อประโยชน์ต่อสังคมมานำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการลงพื้นที่ช่วยเหลือโรงเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ที่ จ.เชียงใหม่ หรือการถือกล่องรับบริจาคตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ถ.คนเดิน จ.เชียงใหม่ ถ.ข้าวสาร สยามสแควร์ กรุงเทพฯ ซึ่งทุกกิจกรรมที่ทำก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
หลังจากฉายเทปบันทึกภาพกิจกรรมการเก็บตัวของผู้เข้าประกวดเสร็จสิ้น ก็เป็นเวลามอบทุนการศึกษา 25 ทุน ทุนละ 5,000 บาทให้กับเด็กๆ เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์จากทั่วประเทศ 25 คน อาทิ ด.ญ.อรอนงค์ สุนิสา อายุ 11 ปี จากโรงเรียนบ้านจอมแจ้ง จ.หนองคาย ด.ญ.พิมพ์ภัทร รัดแดง อายุ 10 ปี จากโรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์นอก จ.เชียงใหม่ ด.ช.ซานูซี สาอิ อายุ 9 ปี จากโรงเรียนบ้านป่าม่วง จ.ปัตตานี ด.ญ.พรรณพฤกษา โตพูล อายุ 8 ปี จากโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบมหามงคล จ.นครปฐม ด.ช.วิทวัส ช้วนรักธรรม อายุ 10 ปี จากโรงเรียนวัดดีดวด จ.กรุงเทพฯ เป็นต้น ท่ามกลางเสียงปรบมือแสดงความยินดีให้กับน้องๆ อย่างอึกทึก
จากนั้นก็มาถึงการอำลาตำแหน่งของ นางสาวกนกกร ใจชื่น หรือ น้องส้ม มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2007 และการประกาศผลรางวัลพิเศษ 4 รางวัล คือ รางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน ซึ่งเป็นของ หมายเลข 14 นางสาวพงศ์ชนก กันกลับ หรือ น้องวิว ที่ควบตำแหน่งนางงามรูปร่างดีอีก 1 ตำแหน่งด้วย ส่วน รางวัลนางงามผิวสวย ก็ตกเป็นของ หมายเลข 12 น.ส.ณัฐธิดา ปอร์เทอร์ หรือ น้องคาร์ล่า ในขณะที่รางวัลนางงามมิตรภาพ เป็นของหมายเลข 15 นางสาววนัสนันท์ จันทร์นิ่ม หรือ น้องลูกนัท
ในเวลาต่อมาพิธีกรจึงประกาศผลผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ได้แก่ หมายเลข 1 นางสาวมินตรา โศจิพันธุ์ หมายเลข 8 นางสาวกันตพัฒน์ พีรดาชัยนรินท์ หมายเลข 12 นางสาวณัฐธิดา ปอร์เทอร์ หมายเลข 13 นางสาวกนกวรรณ งามทรัพย์มณี หมายเลข 14 นางสาวพงศ์ชนก กันกลับ หมายเลย 15 นางสาววนัสนันท์ จันทร์นิ่ม หมายเลย 19 นางสาวนันทวัน วรรณจุฑา หมายเลข 20 นางสาวกานต์พิศชา เกตุมณี หมายเลข 24 นางสาวแคทเธอรีน เออสเตอลูนด์ และ หมายเลข 25 นางสาวพรพิมล สุขใหม่ ก่อนที่ทั้ง 10 คนจะออกมาปรากฎโฉมในชุดราตรียาวปักเลื่อมสีพื้นพร้อมแฟชั่นโชว์เพชรจาก พริ้นเซส ไดมอนด์ มูลค่า100 ล้านบาท ก่อนจะประกาศผลผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ได้แก่ หมายเลข 1 นางสาวมินตรา โศจิพันธุ์ หมายเลข 12 นางสาวณัฐธิดา ปอร์เทอร์ หมายเลข 14 นางสาวพงศ์ชนก กันกลับ หมายเลข 20 นางสาวกานต์พิศชา เกตุมณี และหมายเลข 25 นางสาวพรพิมล สุขใหม่ พร้อมตอบคำถามจากคณะกรรมการ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงระหว่างการจัดงาน ทางกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ได้เปิดตัว "ปอ" ปานเลขา ว่านม่วง อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 1985 ผู้ถือได้ว่าเปิดตำนานสวมมงกุฎคนแรกประจำเวทีนี้ เพื่อขึ้นมากล่าวถึง 25 ปี มิสไทยแลนด์เวิลด์ แต่ปรากฎพื้นเวทีลื่นจนเกิดความผิดพลาดเป็นเหตุให้เธอหกล้มกลางเวลที จนมงกุฎที่สวมอยู่บนศรีษะล่วงหล่นลงพื้น จนเจ้าหน้าที่กองประกวดต้องออกมาช่วยผยุงให้ลุกขึ้น แล้วทำการเปิดตัวใหม่อีกครั้ง ซึ่งในรอบที่สองของการปรากฎโฉม เธอก็สามารถเดินได้อย่างมั่นใจ ท่ามกลางเสียงปรบมือให้กำลังใจจากผู้ชมดังกึกก้อง
และแล้ววินาทีแห่งโชคชะตาก็มาถึง เมื่อพิธีกรประกาศให้สาวงามหมายเลข 14 นางสาวพงศ์ชนก กันกลับ ครองตำแหน่ง มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2009 ด้วยการสวมมงกุฎเพชรมูลค่า 1 ล้านบาท ท่ามกลางความดีใจและเสียงปรบมืออันดังสนั่น จากผู้ชมในห้องห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ในขณะที่ หมายเลข 12 นางสาวณัฐธิดา ปอร์เทอร์ ครองตำแหน่ง รองอันดับ 1 หมายเลข 25 นางสาวพรพิมล สุขใหม่ ครองตำแหน่งอันดับ 2 หมายเลข 1 นางสาวมินตรา โศจิพันธุ์ ครองตำแหน่ง รองอันดับ 3 และ หมายเลข 20 นางสาวกานต์พิศชา เกตุมณี ครองตำแหน่งรองอันดับ 4
สำหรับประวัติโดยสังเขปของ นางสาวพงศ์ชนก กันกลับ หรือน้องวิว ผู้ครองตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2009 อายุ 18 ปี น้ำหนัก 57.2 กิโลกรัม ส่วนสูง 174.5 เซนติเมตร สัดส่วน 33-26-37 กำลังศึกษาระดับอุดมศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกษมบัณฑิต เคยเข้าร่วมประกวดมิสมอเตอร์โชว์แปซิฟิก โดยได้ตำแหน่งรองอันดับ 2 ประจำปี พ.ศ. 2551 ในขณะเดียวกันยังเป็นนักกีฬาเทควันโดทีมชาติอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นางสาวพงศ์ชนก กันกลับ หรือน้องวิว มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2009 หมาดๆ เผยถึงวินาทีแห่งการเปลี่ยนแปลงทั้งน้ำตาว่า ตกใจ ตื่นเต้นมากๆ คิดว่าทำเต็มที่ที่สุดแล้ว ซึ่งไม่ได้แตกต่างอะไรกับการได้เหรียญในการแข่งขันเทควันโดเลย เหมือนได้เป็นที่หนึ่ง ที่สามารถทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ในปลายปี 2552 นี้ตรงกับการแข่งขันซีเกมส์ที่ประเทศลาว ในขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาที่จะต้องเดินทางไปประกวดมิสเวิลด์ที่ประเทศอังกฤษและแอฟริกาใต้ จะจัดตารางเวลาอย่างไร น้องวิวตอบว่า คงจะต้องทำหน้าที่มิสไทยแลนด์เวิลด์ก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนเรื่องการซ้อมให้เป็นเรื่องรอง เพราะหลังจากได้ตำแหน่งครั้งนี้ทางนายกสมาคมและโค้ชก็ทราบว่าได้ตำแหน่ง ซึ่งทั้งสองท่านก็บอกว่า ขอให้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศไทยในเวทีมิสเวิลด์ให้ดีที่สุด
ในขณะเดียวกันผู้หญิงที่สุดสวยที่สุดในเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ได้กล่าวฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ว่า "หนูทำดีที่สุดที่ทำให้พ่อแม่ภูมิใจได้แล้ว"
ด้าน นางสาวปิยมาศ โมนยะกุล หนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน เผยว่าที่เลือกน้องวิว เพราะมีเอกลักษณ์ความเป็นไทยมากที่สุด ในขณะเดียวกันก็สามารถโกอินเตอร์ได้ ในขณะที่นางงามคนอื่นๆ ยังมีเอกลักษณ์คนละอย่าง แต่รูปร่างก็สามารถเอาชนะใจกรรมการได้ การตัดสินจึงถือว่าเป็นเอกฉันทร์ เพราะส่วนตัวก็เลือกหมายเลขนี้มาโดยตลอด
ทั้งนี้ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2009 จะได้รับรางวัลรวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ได้แก่ เงินสด 1 ล้านบาท มงกุฎเพชรจาก พริ้นเซส ไดมอนด์ มูลค่า 1 ล้านบาท บ้านพร้อมที่ดินจาก เคซี พร็อพเพอตี้ มูลค่า 2 .2 ล้านบาท ทองคำจาก สิงห์ คอร์เปอเรชั่น มูลค่า 1 แสนบาท รถยนต์โตโยต้า เอาติส 1 คัน และของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังต้องเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมประกวดมิสเวิล์ดที่ประเทศอังกฤษและประเทศแอฟริกาใต้ร่วมด้วย